อมรณา สารานุกรมแห่งความตาย อมรณา สารานุกรมแห่งความตาย
Ads
  • เรื่องผีสั้นๆ
  • หนังสยองขวัญ การ์ตูนผี และเพลงต้องสาป
  • เกมผี เกมสยองขวัญ

6 การประหารพ่อมด แม่มดในประวัติศาสตร์

  • 16-05-2022
  • กาลนาน
  • 1,375
Line borderless Line borderless
6 การประหารพ่อมด แม่มดในประวัติศาสตร์

 6 การประหารพ่อมด แม่มดในประวัติศาสตร์

            นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 – 18 เป็นต้นมามีผู้คนจำนวนมาก ถูกดำเนินคดีในโทษฐานมีความเกี่ยวข้องกับเวทมนตร์คาถามากถึง 1420 คดี โดยมียุโรปเป็นศูนย์กลางความปั่นป่วนทั้งหมด นักล่าแม่มด อ้าง ความชอบธรรมจากคัมภีร์ไบเบิล ที่กล่าวว่า “Thou Shlt not suffer a witch to live”  หรือ “สูเจ้าจะต้องไม่ทรมานแม่มด ด้วยการปล่อยให้มีชีวิต” ทำให้คนที่มีแนวโน้มว่าครอบครอง พลังเหนือธรรมชาติ เป็นอันตรายต่อผู้อื่น สำหรับการประหารแม่มดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสมัยนั้น มีดังต่อไปนี้

 

1.การประหารแม่มด: เผาทั้งเป็น

 จากบันทึกประวัติศาสตร์ การเผาทั้งเป็น เป็นวิธีการประหารแม่มดยอดนิยม ที่ได้รับความนิยมในสมัยนั้น ถึงแม้ว่าประหารด้วยวิธีนี้ ไม่ได้รับอนุญาตตามกฏหมายของประเทศอังกฤษ และมีผลบังคับใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เป็นอาณานิคมในสมัยนั้นด้วยก็ตาม มันก็ยังคงเป็นวิธีการประหารที่ได้รับความนิยมอยู่ดี

            เดิมที การประหารประเภทนี้ ถูกนำมาใช้ลงโทษเหล่าอาชญากร กบฏ และคนบาป อย่างไรก็ตาม เมื่อสืบย้อนกลับไปแล้ว พบว่า การเผาทั้งเป็น  ถูกนำมาใช้จัดการกับแม่มด ตั้งแต่สมัยโบราณก่อนที่คริสตร์ศาสนาจะถือกำเนิดขึ้นเสียอีก หลักฐานเก่าแก่เท่าที่มีการบันทึกเอาไว้ระบุว่า ประมาณ 350 ปี ก่อนคริสตกาล ผู้หญิงคนหนึ่งนามว่า “ธีออริส แห่ง เลมมอส” แห่งกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีก ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด และถูกลงโทษด้วยการเผาทั้งเป็น เพราะเชื่อกันว่า เปลวไฟ สามารถช่วยชำระล้างสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์อย่างแม่มดได้นั่นเอง

            กระบวนการประหารค่อนข้างเรียบง่าย หลังจากที่ผู้ถูกกล่าวหา ถูกทรมานจนยอมรับสารภาพ พวกเขาก็จะถูกนำมามัดเข้ากับบันได เสา หรือไม้กางเขนไม้ขนาดยักษ์ พร้อมกับให้กอดไม้กางเขนเอาไว้ (บางครั้งอาจใส่ไม้กางเขนลงไปในมือของแม่มด) ประกาศความผิดในโทษฐานฝักใฝ่เวทมนตร์ให้ประชาชนรับทราบโดยทั่วกัน แล้วจุดไฟเผาฟืนรอบๆ ให้เปลวไฟลุกโชนขึ้น ค่อยๆเผาร่างกายของเหยื่อด้วยความร้อนไปทีละนิด แน่นอนว่าเหยื่อย่อมดิ้นรน กรีดร้อง ด้วยความปวดแสบปวดร้อนทั้งภายนอก ภายในจากการสำลักควันไฟ สูดไอร้อน จนปอดแทบไหม้ตามไปด้วย และในที่สุดเหยื่อก็ขาดใจตายไปอย่างน่าเวทนา ในบางครั้ง อาจมีการคล้องถุงดินปืนจำนวนมากไว้รอบคอของเหยื่อ เมื่อไฟลามไปถึงทำให้เกิดระเบิดขึ้น ฉีกร่างของเหยื่อให้แตกกระจายเป็นชิ้นๆ ในกรณีที่ดีหน่อย พวกเขาก็จะถูกฆ่า แล้วนำเพียงร่างที่ไร้วิญญาณมาทำการเผาต่อหน้าสาธารณชน เมื่อการเผาเสร็จสิ้น ขี้เถ้าที่หลงเหลือ ยังถูกนำไปโปรยทิ้งในกระแสน้ำเชี่ยว หรือกลางลมแรง จนหายสาบสูญไป ราวกับไม่เคยมีตัวตนมาก่อน

การเผาแม่มดครั้งที่โด่งดังมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของยุโรป คือ การลงโทษประหารชีวิตวีรสตรีชาวฝรั่งเศสนามว่า แจน ดาร์ก (Joan of Arc) ด้วยฝีมือของประเทศอังกฤษ เมื่อ ค.ศ.1431 ในช่วงสงครามรอยปี (Hundred Year’s War) ซึ่งเป็นสงครามระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส ตั้งแต่ ค.ศ. 1337 – 1453 ชนวนสงครามเริ่มต้นขึ้น จากที่ประเทศอังกฤษต้องการยึดครองดินแดนของฝรั่งเศส ทำให้มีการส่งกองกำลังทหารเข้าไปในดินแดนของฝรั่งเศสหลายครั้ง

 ในขณะช่วงเวลาดังกล่าว แจน ดาร์ก ได้นำกองทัพประชาชนของฝรั่งเศสเข้าต่อสู้ และได้รับชัยชนะเหนือกองทัพอังกฤษหลายสมรภูมิ แต่ฟ้าไม่เป็นใจนัก เมื่อ แจน ดาร์ก ถูกคู่สงครามจับกุมตัวได้ ทำให้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด เนื่องจากตัวเป็นหญิง แต่กลับเป็นผู้นำทัพที่เก่งกล้าเกินผู้ชาย แสดงว่าจะต้องมีการใช้เวทมนตร์คาถาในการสงครามอย่างแน่นอน

เบื้องหลังของการใส่ความนี้ เป็นแผนทางจิตวิทยา อันแยบยลของประเทศอังกฤษ ที่ต้องการบ่อนทำลายกำลังใจของกองทหารฝรั่งเศส แต่ในขณะที่ถูกเผา แจน ได้แสดงความกล้าหาญองอาจ ไม่เกรงกลัวต่อความตาย กลับยิ่งทำให้ชาวฝรั่งเศสฮึดต่อสู้อย่างเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งได้รับชัยชนะจากสงครามในที่สุด ในปี ค.ศ. 1920 ทางคริสตจักรได้รื้อฟื้นคำตัดสินคดีของ แจน ดาร์ก ขึ้นมาใหม่ พร้อมกับประกาศว่า ปราศจากความผิดทุกประการ และแต่งตั้งให้เป็น “นักบุญเซนต์โจน” มาจนถึงปัจจุบัน

การเผาทั้งเป็นแบบ “หมู่” ครั้งแรกของโลก เกิดขึ้นที่ประเทศเยอรมัน ในปี ค.ศ.1603 หญิงสาว ผู้ร่ำรวยนามว่า “Merga Bien” ถูกล่าวหาว่าทำการฆ่าสามีคนที่สอง ลูกๆของตัวเอง และเข้าร่วมวันสะบะโตที่จัดขึ้นโดยซาตาน เธอถูกจับกุมในขณะกำลังตั้งครรภ์อยู่ แต่ศาลกลับเชื่อว่า ทารกในครรภ์ของเธอเกิดขึ้นมาจากการมีเพศสัมพันธ์กับปีศาจ เธอไม่ได้รับการยกเว้นจากการสอบสวนที่เต็มไปด้วยความรุนแรงเหมือนกับคนอื่นๆ หลังจากยอมรับสารภาพ เธอถูกเผาทั้งเป็นรวมกับคนใช้ และคนอื่นๆ ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดอีกหลายคน หลังจากนั้น ในบางครั้งมีการสังหารหมู่แม่มดในคราวเดียวกัน เป็นจำนวนมากถึง 600-900 คน เลยทีเดียว   การเผาแม่มดอย่างเป็นทางการครั้งสุดท้าย ของประเทศอังกฤษ เกิดขึ้นใน ค.ศ.1722 เมื่อ “เจเนตต์ ฮอร์น” ถูกกล่าวหาว่า ใช้เวทมนตร์เสกลูกสาวของตัวเองให้กลายเป็นลูกม้า แน่นอนว่าเขาถูกตัดสินว่าให้มีความผิด เพราะลูกม้าไม่สามารถช่วยเถียงแทนเขาได้ เจเนตต์ถูกเผาทั้งเป็นต่อหน้าสาธารณชน  

ถึงแม้ว่าการลงทัณฑ์ด้วยการเผาทั้งเป็นจะแลดูเหี้ยมโหด และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ที่จริงแล้วตัวเลขของผู้เสียชีวิตโดยรวม ยังนับว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับการประหารแม่มดแบบอื่นๆ ที่กำลังจะกล่าวถึงดังต่อไปนี้ครับ

 

2.การประหารแม่มด: แขวนคอ

 

การแขวนคอ เป็นอีกหนึ่งในการประหารแม่มดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรมากมายนอกจากเชือกขนาดใหญ่เส้นเดียว โดยทั่วไป เจ้าหน้าที่มักทำการประหารด้วยการจับแม่มดแขวนคอกับต้นไม้ หรือเสากันแบบดื้อๆ หรือหรูหราหน่อย ก็จะมีลักษณะเป็นแท่นประหารคล้ายกับเวทียกสูง ให้ผู้เข้าชมสามารถมองเห็นการประหารได้แบบถนัดตา ในบางครั้ง การประหารด้วยวิธีนี้ อาจนำถุงมาครอบหัวของแม่มดก่อนทำการประหารเพื่อลดความอุจาดตาให้น้อยลง เนื่องจากสีหน้าที่แสดงความทุกข์ทรมานแบบสุดๆ ในช่วงเวลาที่ถูกแขวนคอ มันเป็นภาพที่ไม่ค่อยน่าดูสักเท่าใดนัก

            การแขวนคอ ในมุมมองและการศึกษาของวิทยาศาสตร์การแพทย์พบว่า อาจเป็นได้ทั้งการฆ่าอย่างกรุณาในเสี้ยววินาที หรือการฆ่าอย่างทารุณแบบสุดๆ เนื่องจากเหยื่อหลายราย ต้องทนรับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากถูกรัดคอเป็นระยะเวลานานหลายวินาทีก่อนที่จะเสียชีวิต

บทความทางวิชาการเกี่ยวกับการแขวนคอ ที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ของประเทศอังกฤษ ในชื่อ “The Lance” เมื่อ ค.ศ.1913 ที่ทำการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์พบว่า การแขวนคอส่งผลให้กระดูกสันหลังช่วงคอท่อนที่ 1 และ 2 เคลื่อนออกจากกัน โดยส่วนของกระดูกสันหลังท่อนที่ 2 ที่ยื่นเข้าไปในกระดูกสันหลังท่อนที่ 1 จะเกิดการแตกเป็นชิ้น และเข้าไปทำการกดรัดเส้นประสาท ไขสันหลัง ทำให้สมองไม่สามารถสั่งการกระตุ้นให้เกิดการหายใจ รวมไปถึงการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อแขนขา ในขณะเดียวกัน กะบังลมจะหยุดทำงานลงอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้ผู้ที่ถูกแขวนคอจะพยายามดิ้นรนพยายามหายใจสักเพียงใด แต่ก็จะไม่ทำได้ ก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก

เมื่อเหยื่อที่เคยพยายามดิ้นรนด้วยความทรมาน แน่นิ่งไม่ไหวติง คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าเหยื่อได้เสียชีวิตตั้งแต่เสี้ยววินาที ที่ร่างกายถูกทิ้งลงมาจนกระทั่งเชือกตึง แต่ในความเป็นจริงแล้ว สมองของผู้ถูกแขวนคอจะยังคงสามารถทำงานต่อไปอีกชั่วครู่หนึ่งราว 30 วินาที เนื่องจากสมองเป็นอวัยวะที่มีความอิสระ ในช่วงเวลาดังกล่าว อาจเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวมากที่สุด เพราะเหยื่อยังระลึกได้ว่าความตายกำลังคืบคลานเข้ามาหาตัวเองในเวลาอีกเพียงไม่กี่วินาทีข้างหน้า

 สิ่งที่น่าสะพรึงกลัวสำหรับผู้ที่ถูกแขวนคอมากที่สุดคือ ตำแหน่งการรัดคอของเชือกที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ยังคงมีเลือดบางส่วนที่สามารถผ่านไปเลี้ยงสมอง ยิ่งทำให้ช่วงเวลาแห่งความทุกข์ทรมานในระหว่างการห้อยอยู่กลางอากาศยาวนานมากยิ่งขึ้นไปอีกนั่นเอง และเมื่อเหยื่อสิ้นใจแน่นิ่งแล้ว ร่างก็มักถูกนำไปเผาทิ้งให้สิ้นซากจนหมด

 

3.การประหารแม่มด: ขว้างก้อนหินใส่

            อ้างอิงจาก คัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับพันธสัญญาเดิม บทเลวีนิติ 20 : 27 ได้บันทึกเอาไว้ว่า “ชายหรือหญิงคนใดที่ไม่มีจิตวิญญาณ หรือเป็นพ่อมดแม่มดจะต้องมีโทษถึงตาย พวกเขาจะถูกขว้างโดยก้อนหิน โลหิตของพวกเขาจะคงอยู่ภายในกายของพวกเขา” จึงไม่น่าแปลกใจนัก ที่เหล่าคนคลั่งศาสนา จะให้ความสนใจในการประหารแบบนี้มากเป็นพิเศษ

            การประหารด้วยก้อนหิน เป็นการประหารที่ค่อนข้างทรมานเป็นอย่างมาก มักนิยมถูกนำมาใช้กับผู้ต้องสงสัยที่ปฏิเสธไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นแม่มด และเรียกร้องขอพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง พวกเขาเหล่านั้นจะถูกจับมัดเอาไว้กับเสาไม้ขนาดใหญ่กลางลานกว้าง ในขณะที่ชาวบ้านที่มายืนมุงดูจะได้รับการแจกก้อนหินขนาดเหมาะมือให้คนละ 1-2 ก้อน เพื่อใช้ในการขว้างปาไปยังร่างของผู้ถูกกล่าวหา ถ้าหากชาวบ้านคนใดใจอ่อนไม่ยอมขว้างด้วยความสงสาร ก็จะถูกเหมารวมว่าเป็นพวกเดียวกับแม่มด ทำให้คนส่วนใหญ่ เมื่อได้รับก้อนหินก็จะทำการปาแบบสุดแรงเกิดใส่ร่างของผู้ต้องสงสัย เพื่อเป็นการปกป้องตัวเอง

            ความน่าสะพรึงกลัวของการประหารแม่มดด้วยวิธีนี้ คือ ความทุกข์ทรมานจากการถูกก้อนหินจำนวนมากปาใส่ทั่วทุกส่วนของร่างกาย ถ้าพบกับชาวบ้านนักปาหินมือโปร ที่เปรี้ยงเดียวเข้าจุดตายจนวิญญาณหลุดจากร่างก็ถือว่าโชคดีหน่อย แต่ถ้าโชคร้ายเจอมือสมัครเล่นที่ปาไม่แม่น ผู้ถูกประหารก็ต้องทนรับความเจ็บปวดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะขาดใจตาย หรือต่อให้รอดมาได้จนหินในมือของชาวบ้านหมด ก็ต้องถูกลากมากลายเป็นเป้าซ้อมมือของชาวบ้านในวันถัดไป จนกว่าความตายจะมาเยือน

 

4.การประหารแม่มด: ใช้หินขนาดใหญ่กดทับจนตาย

            ที่จริงแล้ว การใช้หินขนาดยักษ์กดทับ จนตาย เป็นหนึ่งในขั้นตอนการทรมาน เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหายอมรับสารภาพ ด้วยการใช้หินขนาดใหญ่ทับร่างกาย แล้วรีดคำสารภาพไปเรื่อยๆ พร้อมกับค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักของหินเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มีบันทึกเอาไว้ว่า มีหลายคนที่ถูกประหารในฐานะแม่มดด้วยวิธีนี้ ตัวอย่างเช่น ในปี ค.ศ.1692 “ไจลส์ คอเรย์” ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด และถูกประหารด้วยการให้หินกดทับจนตาย เป็นต้น

 

5.การประหารแม่มด: จับถ่วงน้ำ

            เป็นวิธีการประหารแบบสุดคลาสสิค ที่นักล่าแม่มดใช้กันบ่อยๆ  โดยมักเกิดขึ้นในขณะที่ทำการสอบสวนมากกว่าการประหารอย่างเป็นเรื่องราวต่อหน้าฝูงชน ในระหว่างปี ค.ศ. 1410 – 1435 ในประเทศเยอรมัน เจ้าหน้าที่ โยนผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดมัด แล้วโยนลงไปในแม่น้ำดานูบ ทำให้คนส่วนใหญ่เสียชีวิตเนื่องจากช่วยตัวเองไม่ได้

 

6.ประหารด้วยขวาน

            ในช่วงปี ค.ศ. 1732-1810 ประเทศสหรัฐอเมริกา นิยมทำการประหารผู้ที่ถูกตัดสินว่าเป็นแม่มด ด้วยการใช้ขวานตัดคอ หรือสับแยกร่างของแม่มดออกเป็นชิ้นๆ ก่อนที่จะทำการลากนำร่างที่ไร้วิญญาณเหล่านั้น ไปเผาทิ้งให้สิ้นซากอีกด้วย

            ถึงแม้ว่าการประหารแม่มดที่ได้รับความนิยมจะมีมากมายหลายรูปแบบ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน เป็นความเชื่อที่เคร่งครัดในการประหารแม่มดเป็นอย่างมาก นั่นคือ หากไม่ใช่การประหารแม่มดด้วยการทั้งเป็น ต้องนำร่างของแม่มดไปเผาทิ้งให้มอดไหม้กลายเป็นขี้เถ้า ห้ามฝังอย่างเด็ดขาด แล้วนำขี้เถ้าเหล่านั้น ไปโปรยทิ้งในกระแสน้ำเชี่ยว หรือลอยตามกระแสลมแรงในที่โล่งที่ใกล้ที่สุด เพราะหากไม่ทำเช่นนั้น เชื่อกันว่า แม่มดคนอื่นๆจะแอบมาเก็บขี้เถ้าเหล่านั้น นำไปใช้เป็นวัตถุดิบเวทมนตร์ ที่ทรงพลังในภายหลัง

ทรมานมนุษย์ พ่อมดและแม่มด มนต์ดำ
แบ่งปัน:
Line borderless Line borderless

โพสต์โดย :: กาลนาน

กาลนาน
อมรณา : สารานุกรมแห่งความตาย เว็บไซต์ที่รวบรวมเรื่องราวประวัติศาตร์แห่งการนองเลือด ความลี้ลับ ความตาย และเรื่องราวพิศวงที่น่าสนใจจากทั่วโลก...

ประวัติศาสตรผี ปีศาจ และอมนุษย์ทั่วโลก

  • สัตว์ประหลาดในตำนาน นิทานพื้นบ้านและภูตจากทั่วโลก (29)
  • ตำนานเมืองสยองขวัญทั่วโลก (47)
  • ผีในทวีปออสเตรเลีย (3)
  • เรื่องราวแปลกประหลาดและน่าสนใจทั่วโลก (30)
  • พ่อมดและแม่มด เวทมนตร์ อัญมณีและของขลัง (42)
  • เกมผี เกมสยองขวัญ (35)
  • ผีในประเทศญี่ปุ่น (333)
  • หนังสยองขวัญ การ์ตูนผี และเพลงต้องสาป (470)
  • ฆาตกรและปีศาจในคราบมนุษย์ (36)
  • เทพ ยมฑูต และเทวตำนาน (48)
  • ผีในทวีปแอฟริกา (7)
  • ผีในทวีปเอเชีย (33)
  • อมนุษย์ ปีศาจและเดรัจฉาน (77)
  • สถานที่สิงสู่ของผีเฮี้ยนทั่วโลก (276)
  • ความเชื่อ พิธีกรรมและสิ่งของต้องสาป (93)
  • เรื่องผีสั้นๆ (459)
  • ผีในทวีปยุโรปและอเมริกา (124)
  • ผีในประเทศไทย (43)
สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม
บัตรเครดิต ซิตี้ รอยัล ออร์คิด พลัส ซีเล็คท์
บัตรเครดิต KTC Royal Orchid Plus JCB Platinum
บัตรเครดิต ซิตี้ ลาซาด้า
บัตรเครดิต ซิตี้
บัตรเครดิต KTC Visa Platinum

ค้นหาจาก Tag ... คลิก!

เปิดตำนาน Valak จ้าวแห่งขุมทรัพย์ ราชาแห่งงู
Australian Hotel โรงแรมและผับที่มีเสน่ห์ด้านผีสาง ประเทศออสเตรเลีย
เรื่องผีสั้นๆ เพื่อนเล่าให้ฟัง “เตียงข้างๆ”
แจ็คคาโลป (Jackalope) กระต่ายนักรบ สัตว์ในตำนานของทวีปอเมริกาเหนือ
เคท-ชิธ (Cait-Shith) ภูตแมวดำขโมยวิญญาณ ประเทศสกอตแลน์
เรื่องผีสั้นๆ “แฟลตมือสองสยอง”
Copyrights © 2022 All Rights Reserved by amorerana.com.