ชูเท็นโดจิ (Shuten dōji) หนึ่งในปีศาจในตำนานของประเทศญี่ปุ่น ผู้หลงมัวเมากับความเมามาย แต่ร้ายกาจอย่างคาดไม่ถึง
ชูเท็นโดจิ (Shuten dōji) เป็นหนึ่งในปีศาจที่ยิ่งใหญ่และชั่วร้ายมากที่สุดตนหนึ่งในนิทานพื้นบ้านของประเทศญี่ปุ่น เชื่อกันว่าเดิมที่มันไม่ได้เกิดมาเป็นปีศาจ แต่เดิมทีเป็นเพียงเด็กชายธรรมดาที่เกิดจากแม่ที่เป็นมนุษย์ส่วนพ่อคือราชามังกรผู้ยิ่งใหญ่ “ยามาตะ โนะ โอโรจิ” หลังจากนั้น มันก็กลายมาเป็นปีศาจด้วยวิธีอารอันคลุมเครือแตกต่างกันออกไปตามเรื่องเล่าขาน
ตำนานที่น่าสนใจของชูเท็นโดจิ
หนึ่งในตำนานแห่งการเปลี่ยนผ่านจากมนุษย์กลายเป็นปีศาจที่ได้รับความนิยมมากที่สุด กล่าวถึงเด็กชายคนหนึ่งที่มีพละกำลังอันแข็งแกร่งเหนือธรรมชาติ มีความเฉลียวฉลาดมากกว่าอายุเป็นอย่างมาก ทำให้ทุกคนต่างหวาดกลัวและเรียกเขาว่า “เด็กปีศาจ” สิ่งเหล่านี้สร้างปมด้อยให้กับเขาเป็นอย่างมาก กระทั่งเปลี่ยนให้เด็กธรรมดากลายเป็นคนต่อต้านสังคม ไม่พอใจในตัวของมนุษย์ มิหนำซ้ำเมื่ออายุได้ 6 ขวบ ยังถูกแม่แท้ๆทอดทิ้ง
ต่อมาเด็กชายกำพร้าได้กลายมาเป็นนักบวชฝึกหัด ณ วัดในภูเขาฮิอิ แห่งกรุงโตเดียว ด้วยความเฉลียวฉลาดและพละกำลังอันโดดเด่นทำให้นักบวชฝึกหัดรูปอื่นไม่พอใจเช่นกัน ทำให้เขาเลิกเรียนธรรมหันไปเอาดีในศาสตร์การต่อสู้แทน ในระหว่างนี้เองที่เขากลายมาเป็นคนติดสุราที่เป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับนักบวชและกลายมาเป็นศูนย์กลางของเหล่าคนขี้เมาไปในที่สุด ด้วยเหตุผลนี้เองทำให้เขาได้รับการขนานนามว่า “ชูเท็นโดจิ” หรือ “คนขี้เมา”
คืนหนึ่ง มีการจัดงานเทศกาลที่วัด ด้วยความสนุกสนานรื่นเริงทำให้ชูเท็นโดจิเมามายมากกว่าปกติ จึงได้สวมหน้ากากโอนิ และดักแกล้งเพื่อนนักบวชโดยการซุ่มรอในความมืดแล้วกระโดดออกมาอย่างกะทันหันเพื่อให้ตกใจ อย่างไรก็ตาม เมื่อกำลังใกล้รุ่งเขาได้พยายามถอดหน้ากากออก แต่.. กลับไม่สามารถทำได้ หน้ากากใบนั้นได้หลอมรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับใบหน้าและร่างกายของเขา
ด้วยความหวาดกลัวและละอายใจ ทำให้ชูเท็นโดจิหนีเข้าไปอาศัยอยู่ในภูเขาที่ห่างไกลจากผู้คนในเขตชานเมืองโตเกียวเป็นเวลานานหลายปี ขโมยอาหารเพื่อประทังชีวิต และขโมยสุราจำนวนมหาศาลเพื่อความบันเทิง ชื่อเสียงของชูเท็นโดจิได้ดึงดูดให้เหล่าอาชญากรคนนอกกฎหมายมารวมตัวกันมากขึ้น จนกระทั่งได้กลายมาเป็นกลุ่มโจรไปในที่สุด
ชูเท็นโดจิศึกษาเวทมนตร์ด้านมืดจนเชี่ยวชาญ แล้วสอนให้กับบรรดาลูกน้อง หลังจากนั้นเขาก็ได้พบบุตรแห่งปีศาจที่มีชะตากรรมคล้ายกับตัวเองที่ชื่อ “อิบารากิโดจิ” ที่ต่อมาได้กลายมาเป็นลูกน้องคนสนิทที่คอยรับใช้อย่างใกล้ชิด เมื่อเวลาผ่านไปกลุ่มโจรที่สะสมความชั่วร้ายมากมายของเขาก็ได้กลายมาเป็นปีศาจที่ตระเวนสร้างความเดือดร้อนไปทั้งถนนหลวง สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวโตเกียวเป็นอย่างมาก กระทั่งมาตั้งฐานทัพบนภูเขาโอเอะ เพื่อใช้เป็นที่ซ่องสุมกำลังพลเพื่อยึดครองเมืองหลวงและปกครองประเทศญี่ปุ่นในฐานะของจักรพรรดิมืด นอกจากนี้ชูเท็นโดจิออกอาละวาดในเกียวโต พร้อมกับจับหญิงสาวพรหมจารีผู้สูงศักดิ์มาดื่มเลือด ควักกินอวัยวะอย่างเอร็ดอร่อย
หลังจากก่อกรรมมาอย่างยาวนาน ในที่สุดกลุ่มวีรบุรุษลือชื่ออย่าง “มินาโมะโตะ โนะ โยริมิตสึ” ก็ได้เข้าจู่โจมปราสาทมืดของชูเท็นโดจิ และด้วยความช่วยเหลือจากยาพิษวิเศษก็ทำให้บรรดาลูกสมุนที่กำลังเมามายล้มตายเป็นใบไม้ร่วง พร้อมกับตัดหัวของชูเท็นโดจิได้สำเร็จ แต่.. แม้หัวจะขาดออกจากร่าง มันก็ยังมีฤทธิ์พอที่จะกัดที่แขนของโยริมิตสึจนได้รับบาดเจ็บ
ศีรษะของชูเท็นโดจิถูกนำไปฝั่งเอาไว้นอกเขตเมือง ในเส้นทางที่ผ่านภูเขาที่เรียกกันว่า “โออิโนะซากะ” และยังเชื่อกันว่าถ้วยสุรา กับขวดยาพิษที่ถูกนำมาใช้ในการปราบปีศาจเหล่านั้น ปัจจุบันก็ยังถูกเก็บรักษาเอาไว้ที่นาริอิจิในเมืองเกียวโต...