อาบาสทิก (Abhartach) พ่อมดแวมไพร์คลั่งเลือด แห่งประเทศไอร์แลนด์

อาบาสทิก (Abhartach) พ่อมดแวมไพร์ ผู้หวนคืนกลับมาจากความตายครั้งแล้วครั้งเล่า แห่งประเทศไอร์แลนด์

อาบาสทิก (Abhartach) เป็นเรื่องราวของหนึ่งในแวมไพร์ที่เก่าแก่ที่สุดของทวีปยุโรปตะวันตก เรื่องนี้ปรากฏอยู่ในตำนานของชาวเซลติกสมัยโบราณ บริเวณชนบทของเกลนูลลิน เมืองสลาฟเวอร์ตี ประเทศไอร์แลนด์

อาบาสทิก (Abhartach) คือชื่อราชาที่มีรูปร่างผิดปกติ แคระแกร็น หรืออาจกล่าวได้ว่าเขาเป็นคนแคระก็ไม่ผิดนัก แต่ในขณะเดียวกันเขาก็เป็นจอมเผด็จการที่ไร้ความปรานีและยังเป็นพ่อมดที่ทรงพลังอำนาจเป็นอย่างมาก

เรื่องราวความกระหายเลือดของอาบาสทิก

คืนหนึ่งอาบาสทิก ที่เต็มไปด้วยความขี้สงสัยและไม่เคยไว้วางใจคนอื่น เขาเชื่ออย่างเต็มหัวใจว่าภรรยากำลังคบชู้และเขาต้องการที่จะจับได้แบบคาหนังคาเขาเลยปีนออกนอกหน้าต่างห้องแอบไปตามกันสาดเพื่อไปที่ห้องนอนของภรรยา

แต่ก่อนที่จะไปถึงระยะที่มองเห็นทุกอย่างในห้องได้อย่างชัดเจน เขาก็ได้ลื่นตกลงมาตายเสียก่อน ศพของเขาถูกพบในตอนเช้าและชาวเมืองก็ได้จัดพิธีฝังศพให้กับเข้าอย่างหรูหราราวกับราชา

รุ่งเช้าวันต่อมาหลังงานศพเขากลับมาจากหลุมสู่เมือง Slaughtaverty พร้อมกับสั่งให้ตัดมือผู้คนแล้วรองเลือดมาให้เขาดื่มทุกวัน ด้วยความหวาดกลัวผู้คนในการปกครองของเขาจึงยอมทำตาม ราชาที่กลับมาจากความตาย

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ถูกกดดันมากเข้าในที่สุดไม่นานนักเหล่าชาวเมืองก็ตัดสินใจว่าจะไม่ทนอยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการอีกต่อไป พวกเขาว่าจ้างนักฆ่าให้จัดการปัญหาทิ้งเสีย มือสังหารทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม แต่เมื่อฝังศพไปแล้วอาบาสทิกก็กลับมาอีกและยังคงเรียกร้องเลือดเหมือนเดิม พวกเขาจึงจ้างนักฆ่าอีกคน แต่ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม

หลังการลอบสังหารที่ประสบความสำเร็จ แต่ก็ล้มเหลวเพราะเป้าหมายกลับมาจากความตายได้ทุกครั้ง ในที่สุดก็มี “ดรูอิด” คนหนึ่งเดินทางมายังเมืองแห่งนี้ พร้อมกับสัญญาว่าจะช่วยปลดปล่อยชาวเมืองจากความโหดร้าย พร้อมกับอธิบายว่าอาบาสทิกมีเวทมนตร์ที่ใช้ในการฟื้นคืนชีพ แต่กลับมาในฐานะของ Murbhheo (คำโบราณที่ใช้เรียกแวมไพร์ในสมัยนั้น) ทำให้เขาไม่สามารถถูกฆ่าตายแบบถาวรได้ แต่ก็สามารถสยบได้ด้วยการกักขังมันเอาไว้แบบถาวร

หลังจากนั้นดรูอิดก็ได้เผชิญหน้ากับอาบาสทิก พร้อมกับดาบที่ทำขึ้นมาจาก Yew Wood ฟันร่างของอาบาสทิกทำให้ตกอยู่ในสภาพที่อ่อนแอ จังหวะนั้นเองชาวบ้านก็ช่วยจับร่างของมันคว่ำลงในหลุมศพที่เต็มไปด้วยกิ่งเถ้า หนามและก่อนหินขนาดใหญ่ ทำให้มันไม่สามารถกลับคืนมาจากหลุมฝังศพได้อีกตลอดกาล

ในเมือง Slaughtaverty ณ ปัจจุบันก็ยังคงมีความเชื่อว่า ถ้าหากใครก็ตามที่กล้าเข้าไปใกล้หลุมฝังศพของอาบาสทิกมากจนเกินไป ก็จะถูกมันเข้าทำร้าย เพราะมันไม่สามารถออกมานอกพื้นที่หลุมศพของตัวเองได้อย่างเต็มที่ เพราะนอกจากก้อนหินขนาดใหญ่ที่กักขังมันเอาไว้ บริเวณโดยรอบก็ยังคงมีการปลูกต้นหนามขนาดใหญ่งอกปกคลุมหลุมฝังศพ ราวกับมันกำลังช่วยตรึงร่างของผีดูดเลือดอมตะเอาไว้กับพื้นดินตลอดกาล...