โรงพยาบาลและเรือนจำเครสสัน (Cresson Sanatorium and Prison) ซากปรักหักพังที่ถูกเหล่าดวงวิญญาณครอบครอง แห่งประเทศอังกฤษ

บริเวณชานเมืองเครสสัน รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศอังกฤษ มีอาคารรกร้างที่ถูกทอดทิ้งตั้งอยู่ ชื่อของมันคือ “โรงพยาบาลและเรือนจำเครสสัน” (Cresson Sanatorium and Prison) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานพยาบาลวัณโรคที่รุ่งเรือง ก่อนที่จะถูกดัดแปลงเป็นเรือนจำของรัฐในเวลาต่อมา แต่เบื้องหลังกำแพงที่พังทลายลงไปตามกาลเวลานั้น กลับมีเสียงกระซิบแห่งอดีตอันมืดมนยังคงวนเวียนอยู่
เรื่องราวน่าขนลุก ณ โรงพยาบาลและเรือนจำเครสสัน

เสียงกระซิบจากความมืดมิดในโรงพยาบาลและเรือนจำเครสสันเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องราวของ “ซาราห์” หญิงสาวคนหนึ่งที่เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลแห่งนี้เมื่อต้นทศวรรษ 1900 เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นวัณโรคระยะสุดท้าย เธอโดดเดี่ยวจากคนที่เธอรักและเผชิญกับอนาคตที่สิ้นหวัง ในที่สุดก็ยอมจำนนต่อความสิ้นหวัง คืนหนึ่งกลางฤดูหนาว เธอออกไปข้างนอกโรงพยาบาลท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บหลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นเธออีกเลย
ถึงแม้ว่าศพของเธอจะไม่เคยถูกค้นพบ แต่เชื่อกันว่าวิญญาณของเธอยังคงหลอกหลอนอยู่ในสถานพยาบาล มีผู้มาเยี่ยมชมอ้างว่าเห็นร่างที่น่ากลัวของเธอเดินเตร่ไปตามทางเดิน ชุดราตรีสีขาวของเธอปลิวไปตามสายลมพร้อมกับเสียงร้องไห้คร่ำครวญของเธอ การปรากฏตัวที่น่าขนลุกนี้เองที่ทำให้เธอถูกเรียกว่า “สุภาพสตรีสีขาว” ไปในที่สุด
อีกการปรากฏตัวสุดหลอนอีกในโรงพยาบาลและเรือนจำเครสสัน คือผีของอดีตนักโทษชื่อ “จอห์น” เขาเป็นคนหัวรุนแรงที่ถูกตัดสินให้ติดคุกตลอดชีวิตในข้อหาฆาตกรรมและเสียชีวิตในห้องขังในคืนหนึ่ง แต่เชื่อกันว่าวิญญาณของเขาไม่เคยจากไปไหน?
ผู้มาเยี่ยมชมโรงพยาบาลและเรือนจำเครสสันหลายคนอ้างว่าได้ยินเสียงกรีดร้องอันแสนโกรธเกรี้ยวของเขาดังก้องไปทั่วทางเดินที่ว่างเปล่า พวกเขายังพบเห็นร่างเงาที่ซุ่มซ่อนอยู่ในเงามืด พร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกายสีแดง
โรงพยาบาลและเรือนจำเครสสันดูเหมือนว่าจะเป็นหนึ่งในสถานที่ที่อดีตยังคงกลับมามีชีวิตอีกครั้ง กำแพงที่พังทลายของมันเก็บความลับของดวงวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนที่ต้องทนทุกข์ทรมานและเสียชีวิตภายในนั้นเอา และถ้าหากใครกล้าพอที่จะเข้าไปข้างในอาจพบว่าตัวเองต้องเผชิญหน้ากับผีหนึ่งในนั้น เช่นเรื่องราวของนักล่าท้าผีบางคนที่กำลังจะขอเล่าถึงดังต่อไปนี้
คืนหนึ่ง วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งตัดสินใจสำรวจสถานพยาบาลที่ถูกทิ้งร้าง พวกเขาเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับผีแต่ไม่เชื่อพวกเขา ด้วยความคึกคะนองพวกเขาคิดว่ามันคงจะสนุกดีถ้าได้ค้างคืนในอาคารผีสิง พวกเขาเดินทางมาถึงโรงพยาบาลตอนดึกก่อนบุกเข้ามาทางหน้าต่างและเดินผ่านโถงทางเดินอันมืดมิด พวกเขาได้ยินเสียงลมพัดผ่านหน้าต่างที่พังและเสียงเอี๊ยดของพื้นไม้ใต้เท้าในขณะที่ก้าวเดินต่อไป
ขณะทำการสำรวจ พวกเขาก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจเพราะได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังมาจากห้องว่าง ๆ พวกเขารู้สึกถึงความหนาวเย็นอย่างผิดปกติรอบ ๆ และเห็นเงาเคลื่อนไหวจากหางตาของพวกเขา
“เอมิลี่” เด็กสาวในกลุ่มเดินห่างออกจากเพื่อน ๆ เธอถูกดึงดูดไปยังห้องหนึ่งซึ่งอยู่สุดของทางเดินยาว เปิดประตูแล้วก้าวเข้าไปข้างใน ห้องนั้นมืดและเงียบ เธอได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นรัวขณะก้าวไปข้างหน้าเมื่อเธอเดินได้สองสามก้าวแล้วก็ต้องหยุดเพราะรู้สึกได้ถึงการปรากฏตัวของใครบางคนในห้อง
ทันใดนั้นเอง เธอก็เห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ที่มุมห้อง เป็นผู้หญิงสวมชุดราตรีสีขาว ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นซีดเซียว ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เมื่อเห็นภาพนั้นเต็มตาเด็กสาวก้าวถอยหลังด้วยหัวใจที่แสนเต้นแรง ขณะที่ผู้หญิงในชุดขาวเปิดปากแล้วกล่าวด้วยเสียงกระซิบว่า
“ช่วยฉันด้วย”
สิ้นคำ เธอรีบหันหลังแล้ววิ่งออกจากห้องก่อนพบกับเพื่อนคนอื่น ๆ และบอกเล่าสิ่งที่เธอเห็นให้พวกเขาฟัง พวกเขาไม่เชื่อเธอในตอนแรก แต่เมื่อพวกเขาเห็นสีหน้าหวาดกลัวบนใบหน้าของเธอ พวกเขาก็รู้ว่าเธอกำลังพูดความจริง พวกเขาจึงตัดสินใจวิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลและเรือนจำเครสสันโดยไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองมันอีกครั้ง!
คิจิคุอิ (Kijikui) ภูตผีหอยทาก นักล่าไก่ฟ้า แห่งประเทศญี่ปุ่น

