“รูปกุนด์” (Lake of Roopkund) ทะเลสาบที่เต็มไปด้วยโครงกระดูก แห่งประเทศอินเดีย

ในประเทศอินเดีย แคว้นอุตตราขัณฑ์ มีทะเลสาบแห่งหนึ่งที่ไม่เหมาะกับคนจิตอ่อนที่มีชื่อว่า “รูปกุนด์” (Lake of Roopkund) สถานที่แห่งนี้เริ่มกลายมาเป็นที่รู้จักกันในปี 1942 เมื่อเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าชาวอังกฤษได้สังเกตเห็นบางสิ่งที่ชวนสยดสยองในขณะที่กำลังทำการสำรวจทะเลสาบโดยบังเอิญ
ทะเลสาบน้ำแข็ง ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะอยู่เกือบตลอดทั้งปีแห่งนี้ มีระยะเวลาเพียงสั้น ๆ ยกเว้นพื้นที่เล็ก ๆ ที่ละลายและเผยให้เห็นโครงกระดูกหลายร้อยศพ (ประมาณกันว่ามีทั้งหมด 300 ศพ) อยู่ใต้น้ำดูราวกับเป็นฉากของหนังสยองขวัญในภาพยนตร์ จนทำให้ได้รับชื่อเล่นว่า "Skeleton Lake"
แน่นอนว่าความลี้ลับนี้ดึงดูดเหล่านักผจญภัยและนักศึกษาเรื่องราวอาถรรพ์จากทั่วทุกสารทิศ แต่การที่จะเดินทางไปยังทะเลสาบรูปกุนด์เป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก เพราะมันอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 5,029 เมตร
ตำนานที่มาของโครงกระดูก ณ ทะเลสาบรูปกุนด์

ชาวบ้านในท้องถิ่นบริเวณนี้เล่าว่ากะโหลกเหล่านี้เป็นของกองทหารของ “นายพลโซราวาร์ ซิงห์” แห่งแคชเมียร์ พวกเขาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดินถล่มครั้งรุนแรงแรงในขณะที่กลับมาจากสู้รบในทิเบต เมื่อปี 1841
อีกเรื่องเล่าหนึ่งกล่าวว่าโครงกระดูกเหล่านี้เป็นของราชาแห่งเมือง “คณัช ชัชฎาวัล” ชายา ข้ารับใช้และคณะนาฏศิลป์ที่กำลังเดินทางไปแสวงบุญ ณ บาลัมปา แต่โชคร้ายที่พวกเขาถูกพายุหิมะคร่าชีวิตทั้งหมดและศพทั้งหมดลงไปในทะเลสาบรูปกุนด์
เรื่องราวที่มาของโครงกระดูกยังคงเป็นปริศนาจนกระทั่งถึงปี 2014 เมื่อเนชั่นเนล จีโอกราฟฟิก ได้ทำการสำรวจพื้นที่เพื่อยุติข่าวลือทั้งหมดด้วยการทดสอบ DNA อย่างละเอียดและศึกษาโครงกระดูกเพื่อหาที่มาของพวกมัน จนกระทั่งได้ข้อสรุปว่าอายุของกระดูกย้อนไปไกลถึง 850 ปี ก่อนคริสตกาล และทั้งหมดมาจากยุคเดียวกัน
ดูเหมือนว่าซากศพของคนตายจะได้รับการเก็บรักษาเอาไว้โดยน้ำในทะเลสาบรูปกุนด์ที่เย็นจัดตลอดทั้งปีเหมือนกับห้องแช่แข็งตามธรรมชาติ เอาไว้เป็นเวลานานกว่า 1,200 ปี กว่าจะถูกค้นพบ โดยที่บางศพยังมี เส้นผม เนื้อหนังและเครื่องประดับบนร่างกายเอาไว้ในสภาพที่ดีอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังพบว่าโครงกระดูกที่ขนาดใหญ่กว่าที่ได้พบน่าจะเป็นส่วนหนึ่งคณะเดินทางไปแสวงบุญ ส่วนโครงกระดูกขนาดเล็กกว่าน่าจะเป็นมักคุเทศน์นำทาง ทั้งหมดดูเหมือนว่าเสียชีวิตจากเหตุการณ์ถล่มมาพร้อมกับก้อนหินขนาดใหญ่จากร่องรอยบากที่พบบนหัวกะโหลก
นอกจากกะโหลกแล้ว ดูเหมือนว่าส่วนอื่นของโครงกระดูกจะไม่มีร่องรอยการได้รับบาดเจ็บใด ๆ ทำให้สามารถตัดความเป็นได้ว่าจะเป็นศพที่เกิดขึ้นจากสงครามไปได้เช่นกัน...
