Bigfoot เรื่องจริงหรือเป็นเพียงตำนาน!?
เรื่องราวลี้ลับและเต็มไปด้วยปริศนาที่ยังไม่มีใครเคยไขกระจ่าง...
หนึ่งในเรื่องราวที่น่าสนใจเหล่านั้น ย่อมต้องมีชื่อของ “Bigfoot” สัตว์ประหลาดขนาดยักษ์
ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ที่มีขนปกคลุมอยู่ทั่วทั้งร่าง อาศัยอยู่ในป่าลึกของทวีปอเมริกาที่พร้อมจัดการกับผู้บุกรุกอย่างโหดเหี้ยม
ทารุณ จนกลายเป็นตำนานเลือดที่แสนพิศวงมาจนถึงปัจจุบัน ถ้าหากใครกำลังสนใจกับสัตว์ยักษ์ปริศนาตนนี้
ลองมาติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจจากบทความชิ้นนี้ไปพร้อมกันเลย
ลักษณะทางกายภาพที่น่าสนใจของ BigFoot
Bigfoot มีอีกชื่อหนึ่งคือ “Sasquatch” หรือที่คนไทยมักเรียกกันว่า “ไอ้ตีนโต” มันเป็นสิ่งมีชีวิตประหลาดที่ปรากฏตัวขึ้นในป่าของทวีปอเมริกา
มักพบเห็นประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา และฝั่งแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ ผู้ที่เคยพบเห็น
Bigfoot อ้างว่า มันเป็นสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่
รูปร่างคล้ายมนุษย์ มีขนดกหนารุงรังทั่วร่างสีน้ำตาลเข้ม แดงเข้ม หรือดำ สูงประมาณ
1.8 – 2.7 เมตร มีหน้าผากขนาดใหญ่ คางต่ำหนา ศีรษะกลมคล้ายกับลิงกอริลล่า ข้อมูลของรอยเท้าที่อ้างว่าเป็นของ
Bigfoot ที่ถูกพบมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่กว่า 60
เซนติเมตร มีห้านิ้วเท้าและมีกรงเล็บให้เห็น มีกลิ่นสาบตัวที่รุนแรงถึงขั้นฉุนจมูก
เชื่อกันว่า Bigfoot เป็นสิ่งมีชีวิตที่ออกหากินกลางคืน สามารถกินได้ทุกอย่างทั้งพืช
ผลไม้ และเนื้อ!!!
Bigfoot กับความเชื่อที่แพร่กระจายไปทั่วทวีปอเมริกา
เรื่องราวของ Bigfoot เริ่มต้นจากความเชื่อของชนเผ่าอินเดียนแดง ที่อาศัยอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของแปซิฟิกตะวันออกเฉียงเหนือที่ได้พบเห็น Bigfoot พวกเขาเชื่อว่ามันเป็นเผ่าพันธุ์หนึ่งของมนุษย์ป่า ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของชาวอเมริกัน ที่ได้พบเห็นเจ้าสัตว์ประหลาดนี้ ในพื้นที่ใกล้เคียง
หมีกริซลี่
ในช่วงปลายศตวรรษที่
19 ชื่อของ Bigfoot เริ่มเป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวอเมริกัน
โดยเริ่มต้นจาก “หมีกริซลี่” ขนาดใหญ่ ที่มีน้ำหนักกว่า 900 กิโลกรัม ที่เข้ามารุกรานเขตปศุสัตว์และสังหารแกะที่ถูกเลี้ยงเอาไว้นานถึง
15 ปี หลังจากนั้นมันก็ถูกยิงเสียชีวิตไปในปี 1895 ,1890 และตัวสุดท้ายในปี
1902 ใกล้เมืองเพียร์ซ ซึ่งก่อนที่จะสิ้นฤทธิ์จากลูกปืน หมีเหล่านี้
ได้สังหารสัตว์เลี้ยงไปมากกว่า 1,000 ตัว หลังจากนั้น
ชื่อของ Bigfoot จึงได้ถูกนิยมนำมาเรียกสัตว์ประหลาดขนยาวรุงรังปริศนาที่ปรากฏตัวให้เห็นทั่วอเมริกา
Bigfoot กับละครลิง!!!
Rick Dyer และ Matthew Whitton กับซากศพของไอ้ตีนโต
มีคนจำนวนมากที่พยายามติดตามถ่ายภาพ รวมไปถึงการจับกุม Bigfoot แบบตัวเป็นๆ และจบลงด้วยความล้มเหลว หรือสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมาเพื่อเรียกร้องความสนใจจากสังคม โดยมีกรณีที่น่าสนใจของ “Rick Dyer และ Matthew Whitton” พวกเขาได้โพสต์วิดีโอลงใน YouTube อ้างว่าได้ยิง Bigfoot ตายทางตอนเหนือของจอร์เจีย พวกเขาได้นำศพของมันมาเก็บรักษาเอาไว้ พร้อมกับยินดีให้ตรวจสอบ DNA ของ Bigfoot เพื่อเป็นการยืนยันให้แน่ใจว่าเป็นของแท้แน่นอนอีกด้วย!
ความมั่นอกมั่นใจมั่นหน้าของทั้งสองหนุ่ม
ทำให้พวกเขาได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากบรรดาสื่อยักษ์ใหญ่ เช่น เป็น BBC, CNN, ABC News และ Fox News เป็นต้น
นอกจากนี้พวกเขายังได้รับเงินรางวัลอีกกว่า 50,000 ดอลล่าห์ จากการที่เป็นผู้ค้นพบ
Bigfoot ได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์อีกหลายต่อหลายครั้ง
ในที่สุดความก็แตกว่าที่จริงศพของ Bigfoot
ที่พวกเขาภูมิใจนักหนานั้น เป็นเรื่องแหกตา!! เพราะที่จริงแล้วมันเป็นเพียงตุ๊กตายักษ์ที่สวมชุดลิงกอริลล่า
และ DNA ที่อ้างถึง เป็นหลักฐานที่ถูกปลอมแปลงขึ้น
Bigfoot กับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
ลิงยักษ์โบราณ Gigantopithecus
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าที่จริงแล้ว Bigfoot เป็นเพียงข่าวลือที่เกิดขึ้นจากนำ “ความเชื่อพื้นบ้าน”
มาผสมเข้ากับ “การหลอกลวง” มากกว่าที่มีสัตว์ประหลาดตนนี้อยู่จริง นอกจากนี้รายงานการพบเห็น
Bigfoot ส่วนใหญ่ มักเกิดจากความเข้าใจผิดเมื่อเห็นสัตว์หลายชนิดในระยะไกล
โดยเฉพาะ “หมีดำ”
ในปี 2007 องค์กร Bigfoot Field Researchers Organization ได้นำเสนอรูปถ่าย
ที่อ้างว่าเป็น Bigfoot อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์โต้แย้งว่ามันเป็นเพียงรูปถ่ายของหมีที่เป็นโรคเรื้อนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้มีการตั้งสมมุติฐานที่น่าสนใจว่าที่จริงแล้วบางที
Bigfoot คือ “Gigantopithecus” ลิงยักษ์ดึกดำบรรพ์ที่พบในทวีปเอเชีย
อย่างไรก็ตามยังไม่เคยมีการค้นพบฟอสซิลของลิงยักษ์สายพันธุ์ดังกล่าวในทวีปอเมริกา
ทำให้หลักฐานสนับสนุนความคิดนี้ค่อนข้างอ่อน และน้ำหนักมวลรวมของสัตว์ชนิดนี้มีมากเกินไปจนยากที่จะเดินสองเท้าได้เหมือนกับ
Bigfoot นั่นเอง...
บทสรุปส่งท้าย : Bigfoot กับการพยายามตามหาความจริงในทวีปอเมริกา
เรื่องราวของ Bigfoot แม้จะยังคงเต็มไปด้วยความคลุมเครือ... แต่จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังคงมีองค์กรค้นหา Bigfoot มากมาย ที่อุทิศเวลามากมายในการพยายามสืบสวนการพบเห็น Bigfoot ในทวีปอเมริกาอย่างจริงจัง โดยองค์กรที่เก่าแก่ที่สุด และมีความน่าเชื่อถือมากที่สุดมีชื่อว่า “BFRO” ที่มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ Bigfoot กันแบบฟรีๆ ให้กับองค์กรหรือบุคคลที่มีความสนใจในเรื่องนี้ นอกจากนี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2016 มหาวิทยาลัยรัฐนิวเม็กซิโก ยังได้มีจัดการประชุมสัมมนาเกี่ยวกับ Bigfoot ขึ้น ถึง 2 วัน นั่นเป็นสิ่งที่ช่วยแสดงให้เห็นว่าเรื่องราวของ Bigfoot นั้น เป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจจากชาวอเมริกันมากเพียงใด...