7 พิธีกรรมฝังแม่มดที่แปลกประหลาดที่สุดในประวัติศาสตร์โลก
หลายคนเชื่อว่าการสังหารแม่มดที่ดีที่สุดคือการ “เผา” ให้กลายเป็นเถ้าถ่าน เพราะไฟเป็นสิ่งบริสุทธิ์ที่ช่วยชำระล้างวิญญาณอันชั่วร้ายของแม่มดให้หายไปจากโลกใบนี้ แต่ที่จริงแล้วมีหลายครั้งgหมือนกันที่แม่มดถูกนำมาฝังด้วยวิธีการที่แสนประหลาด จากความเชื่อที่ว่าจะช่วยสะกดวิญญาณไม่ให้เหล่าแม่มดสุดเฮี้ยน! คืนชีพกลับมาหรือลุกขึ้นมาจากหลุมศพเพื่อหลอกหลอนคนเป็นอีกตลอดกาล บทความในวันนี้อยากขอพาไปทำความรู้จักกับวิธีการฝังแม่มดทีjได้รับการยอมรับว่า “แปลกประหลาดที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก” กัน...
7 วิธีการฝังสุดแปลกประหลาดที่จะเชื่อว่าช่วยสะกดแม่มดไว้ไม่ให้หวนคืนจากโลกความตาย
1. สุสานของแม่มด: The Nailed Witches of Tuscany
ณ เมืองทัศคานี ประเทศอิตาลี ได้มีการค้นพบหลุมศพอายุกว่า 800 ปี ที่นักโบราณคดีเชื่อว่าเป็นหลุมศพของแม่มด ภายในนั้นมีร่างของหญิงสาวสองคนที่ถูกฝังพร้อมกับถูกตอกตะปูเหล็กขนาดใหญ่ 13 ตัวที่กราม เชื่อกันว่าเป็นวิธีการป้องกันไม่ให้ศพเอ่ยคำสาปแช่ง เมื่อฟื้นคืนชีพกลับมาจากความตาย
2.สุสานของแม่มด: Rita of Rollright
วอร์ริคเชียร์ ประเทศอังกฤษ มีการค้นพบหินประหลาดที่เรียกว่า “หินโรลไรท์” ตามตำนานท่องถิ่นเชื่อว่ามันอยู่มานานตั้งแต่สมัยกษัตริย์อาเธอร์ อย่างไรก็ตามในปี 2015 ปรากฏว่ามีการขุดพบโครงกระดูกใกล้กับกลุ่มก้อนหินเหล่านี้ พร้อมกับถูกตั้งชื่อว่า Rita of Rollright โครงกระดูกดังกล่าวมีอายุกว่า 1,400 ปี ถูกบรรจุอยู่ในภาชนะทองสัมฤทธิ์ที่มีชิ้นส่วนของพลอยสีเหลืองและอำพัน สิ่งเหล่านี้เป็นหลักฐานที่ช่วยบ่งบอกว่าเธอเป็นสตรีชั้นสูงที่เป็นผู้นำด้านจิตวิญญาณของชาวแซกซอน หลายคนเชื่อว่าเธอเป็นแม่มดในตำนานที่มีพลังในการเปลี่ยนผู้ชายที่หลงใหลให้กลายเป็นหิน
3.สุสานของแม่มด: Vampire of Venice
หลุมฝังศพในเวนิสตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 ถูกค้นพบในปี 2006 ภายในนั้นมีร่างของผู้หญิงคนหนึ่งถูกฝังเอาไว้ข้างกับโครงกระดูกของคนที่เชื่อว่าเสียชีวิตจากโรคระบาด แต่สิ่งที่ทำให้นักโบราณคดีต้องประหลาดใจเป็นอย่างมากก็คือพบว่ามี “อิฐยัดอยู่ในปาก” ของเธอ วิธีดังกล่าวเป็นการรับมือกับศพที่ต้องสงสัยว่าเป็นแวมไพร์ในสมัยก่อน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคผีร้ายกระหายเลือด นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ยังเชื่อว่าเธออาจจะเป็นหนึ่งในเหล่าแม่มด เพราะเธอมีอายุมากกว่า 40 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุที่มักมีความเกี่ยวข้องกับอาถรรพ์มนต์ดำตามความเชื่อของคนในสมัยนั้น
4. สุสานของแม่มด: The Natufian She-Shaman
หลุมฝังศพที่ถูกค้นพบทางตอนเหนือของประเทศอิสราเอล ภายในนั้นเป็นร่างของผู้หญิงสาวที่มีอายุกว่า 12,000 ปี ที่เชื่อกันว่าเป็นแม่มดหรือหมอผี ที่ได้รับการสืบทอดความรู้ด้านเวทมนตร์มาจากอารยธรรม Natufian ภายในหลุมศพดังกล่าวยังมีการค้นพบกระดองเต่าที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ 50 ชิ้น กระดูกเชิงกรานของเสือดาว ปลายปีกของนกอินทรีสีทอง หางวัว กะโหลมอร์เทน 2 ตัว ปลายขาหมูป่าและเท้าของมนุษย์!? นอกจากนี้ร่างของเธอยังถูกปิดทับด้วยก้อนศิลาน้ำหนักมากถึงสิบก้อน ที่ถูกออกแบบมาไม่ให้สัตว์ป่าสามารถเข้าถึงร่างของเธอได้อย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้นักประวัติศาสตร์ยังเชื่ออีกว่าศิลาเหล่านี้ ยังถูกออกแบบมาเพื่อคุมขังวิญญาณของแม่มดไม่ให้หลุดออกไปสู่โลกภายนอกอีกด้วย
5.สุสานของแม่มด: Lilias Adie
ในช่วงศตวรรษที่ 18 ณ ประเทศสก็อตแลน์ Lilias Adie เป็นหญิงสาวที่ถูกชาวเมืองกล่าวหาว่าเป็นแม่มด หลังจากที่ถูกทรมานในนามของพระเจ้าโดยคริสตจักรในที่สุดเธอก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นภรรยาของซาตาน แต่หลังจากนั้นเธอก็เสียชีวิตในคุกก่อนที่จะถูกนำตัวไปพิจารณาโทษทัณฑ์ ในช่วงเวลานั้นร่างแม่มดที่ตายในคุกจะถูกโยนลงไปรวมกันอยู่ในหลุมฝังศพตื้นๆ แต่ Lilias Adie กลับถูกนำไปฝังเอาไว้ในทรายโคลนบนชายฝั่งในช่วงเวลาที่นำลด โดนใช้ก้อนหินวางทับร่างเอาไว้ แม้ร่างของเธอจะถูกคลื่นกลืนหายไปในท้องทะเล แต่ก้อนหินดังกล่าวยังคงอยู่ที่เดิม!? อย่างไรก็ตามมีนักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อว่า ในความเป็นจริง Lilias Adie อาจทำการฆ่าตัวตาย ทำให้ร่างของเธอถูกนำไปฝังเอาไว้ที่ชายฝั่งที่เต็มไปด้วยโคลนเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้พื้นที่โดยรอบถูกรบกวนจากสิ่งชั่วร้ายอันเป็นหลักปฏิบัติของคนในสมัยนั้น
6. สุสานของแม่มด: Meg Shelton
ในแลงคาเลียร์ ประเทศอังกฤษ มีหลุมฝังศพที่ผิดปกติอย่างมากของแม่มดคนหนึ่งตั้งอยู่ ที่มีชื่อว่า Meg Shelton เสียชีวิตในปี 1705 เธอเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีของคนในพื้นที่ในนามของ แม่มดแห่ง Woodplumpton ผู้ต้องสงสัยว่าใช้เวทมนตร์คาถา หลังจากที่เธอเสียชีวิตชาวเมืองพยายามอย่างมากในการป้องกันไม่ให้เธอฟื้นคืนชีพกลับมา ตามตำนานเล่าว่าชาวเมืองได้ทำการฝังศพเธอแบบ “แนวตั้ง” เพื่อหลอกให้แม่มดที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาและพยายามขุดดินเพื่อหาทางออกไปผิดทาง และใช้หินขนาดใหญ่ปิดทับปากหลุมเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เธอหนีออกมาได้ ทุกวันนี้หินก้อนดังกล่าวก็ยังคงตั้งอยู่ในลานของโบสถ์เซนต์แอนน์ พร้อมกับมีแผ่นป้ายขนาดเล็กที่เตือนผู้มาเยือนว่าเบื้องล่างของหินก้อนนี้ มีแม่มดผู้มีชื่อเสียงถูกฝังอยู่
7.สุสานของแม่มด: The grave of Rebecca Nurse
Rebecca Nurse เป็นหนึ่งในเหยื่อของการล่าแม่มดครั้งใหญ่แห่งเมืองซาเลม ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 1692 การพิจารณาที่ปราศจากหลักฐานและเต็มไปด้วยความคลุมเครือได้ผลักดันให้ Rebecca Nurse ไปสู่ความตาย ร่างไร้วิญญาณของเธอได้ถูกนำไปฝังเอาไว้ในสุสานของเหล่าแม่มดโดยไม่มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น แต่หลังจากนั้น ครอบครัวของเธอได้แอบไปหลุมศพและขุดร่างของเธอขึ้นมาพร้อมกับย้ายร่างไปยังสุสานของบ้านพักคนชรา ซึ่งเป็นการขัดกับความเชื่อของคนในสมัยนั้นที่จะปฎิเสธไม่ให้ทำการฝังศพของแม่มดแบบคริสเตียนอย่างเด็ดขนาด ในปัจจุบันหลุมฝังศพของ Rebecca Nurse มีอนุสาวรีย์ตั้งอยู่ เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจถึงเหตุการณ์อันเลวร้ายของประวัติศาสตร์ที่รุนแรงในการล่าสังหารเหล่าแม่มด โดยไร้หลักฐานอย่างเป็นรูปธรรม