ตำนานเก้าอี้ผี อาถรรพ์และความตาย

            เก้าอี้ผี... เป็นเฟอร์นิเจอร์สิ่งอำนวยความสะดวกที่ทุกบ้านต้องมี ส่วนจะมีมากหรือมีน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งาน แต่ถ้าหากว่าวันหนึ่งคุณค้นพบว่าเก้าอี้ตัวโปรดในบ้านมีสิ่งลี้ลับสิงสถิตแถมยังไม่มีทีท่าว่าจะไปไหน คุณจะทำอย่างไร!?

ตำนานเก้าอี้ผีสิง แห่ง Busby Stoop Inn ประเทศอังกฤษ

            Busby Stoop Inn เป็นที่พักที่ตั้งอยู่ใกล้กับ Sandhutton ใน North Yorkshire ประเทศอังกฤษ ในโรงเตี๊ยมแห่งนี้มีเก้าอี้ตัวหนึ่งที่ถูกจัดเก็บเอาไว้เป็นพิเศษ มันถูกเรียกว่า “เก้าอี้แห่งความตาย” ('Chair of Death)

            ประวัติความเป็นมาของเก้าอี้ผีสิงตัวนี้ เริ่มต้นจากการเป็นเก้าอี้ไม้ธรรมดาที่หาได้ทั่วไปตามร้อนขายเฟอร์นิเจอร์ แต่หลังจากที่มันได้กลายมาเป็นเก้าอี้ตัวโปรดของ Thomas Busby  ที่ถูกตัดสินประหารชีวิตหลังจากที่ลงมือฆาตกรรมพ่อตาของตัวเองด้วยการรัดคออย่างเลือดเย็นบนเก้าอี้ตัวนี้ ดูเหมือนว่าตำนานความสยองขวัญของมันก็ได้เริ่มเปิดม่านขึ้น

Thomas Busby 

            ในปี 1702 ในขณะที่ Thomas Busby  กำลังเดินไปยังลานประหารเพื่อรับกรรมที่ก่อขึ้น เขาร้องขอครั้งสุดท้ายให้เจ้าหน้าที่หยุดรถที่ผับโปรดเพื่อขอดื่มเบียร์สักแก้ว และนั่งลงบนเก้าอี้ตัวโปรดที่อยู่มุมหนึ่งของผับ พร้อมกับพูดพึมพำว่า

            “อาจมีคนตายกะทันหัน ถ้ามีใครมานั่งในเก้าอี้ของฉัน”

คำพูดนั้นราวกับเป็นการสาปแช่งแบบไม่เลือกหน้ากับใครก็ตามที่กล้านั่งจะต้องถูกผีสิงและต้องถึงแก่ความตายในเวลาไม่นานหลังจากนั้น ข่าวลือของเก้าอี้ผีสิงทำให้ไม่มีใครกล้าลองนั่ง ไม่มีแม้แต่คนที่กล้าเคลื่อนย้ายมันออกไปจากมุมของร้าน ทำให้มันยังคงอยู่ที่เดิมมาอย่างยาวนานหลายศตวรรษ

เก้าอี้ผีสิง เก้าอี้สู่สุขคติของผู้ท้าทาย

            ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ประมาณปี 1945 ผับแห่งนี้ได้กลายมาเป็นสถานที่ยอดฮิตพักผ่อนหย่อนใจของเหล่านักบินอังกฤษจากฐานทัพที่อยู่ใกล้เคียง เก้าอี้ผีสิงได้กลายมาเป็นสิ่งที่ใช้พิสูจน์ความกล้าหาญของทหารหนุ่มที่กำลังอยู่ในวัยคึกคะนอง ทำให้มีคนที่กล้านั่งบนเก้าอี้ผีสิงอยู่บ่อยครั้ง และลูกค้าขาประจำก็เริ่มสังเกตเห็นว่าคนที่ลองดีกับเก้าอี้ผีสิงตัวนี้ไม่มีใครรอดกลับมาจากสงครามแม้แต่รายเดียว

            ในปี 1967 นักบินกองทัพอากาศสองนายนั่งบนเก้าอี้ผีสิง ในขณะที่เดินทางกลับพวกเขาประสบอุบัติเหตุขับรถชนต้นไม้และเสียชีวิตคาที่ หลังจากนั้นไม่กี่ปีช่างก่อสร้างก็ลองนั่งบนเก้าผีสิงบ้าง ปรากฏว่าในบ่ายวันนั้นเขาล้มหัวฟาดพื้นเสียชีวิต!

            คำสาปแช่งของเก้าอี้ผีสิงยังคงไม่เคยเสื่อมลงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเพียงใด ผู้คนมากมายที่ไม่เชื่อและลองดี สุดท้ายจบลงด้วยอุบัติเหตุที่ถึงแก่ความตายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นช่างทำหลังคาที่พลัดตกลงมาจากหลังคา แม้แต่พนักงานทำความสะอาดหญิงที่ทำงานในผับเพียงแค่สะดุดเก้าอี้ผีสิงล้ม หลังจากนั้นเธอกลับเสียชีวิตจากเนื้องอกในสมอง!

            เมื่อคำสาปดูเหมือนจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ในที่สุดเจ้าของผับก็ตัดสินใจย้ายเก้าอี้ผีสิงลงไปไว้ที่ชั้นใต้ดิน โดยหวังว่าจะไม่มีใครไปนั่งอีก แต่แล้วในวันหนึ่งพนักงานส่งของลงไปที่ห้องใต้ดินและนั่งลงพักเหนื่อยบนเก้าอี้ผีสิง อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตทันที!!!

สัญญาณแห่งความตายหลังจากที่ได้นั่งบนเก้าอี้ผีสิง

            เล่ากันว่าคนที่นั่งลงบนเก้าอี้ผีสิง จะได้พบกับประสบการณ์สุดหลอน โดยจะมีอาการประสาทหลอน ความรู้สึกคันอย่างรุนแรง ได้ยินเสียงสิ่งกระซิบที่ไม่น่าจะมีอยู่จริง ปรากฏการณ์สิ่งของเคลื่อนย้ายตัวเองอย่างลึกลับ บางคนเขียนข้อความเตือนคนอื่นด้วยความหวาดกลัวซ้ำซากไปมาโดยมีใจความเกี่ยวกับ “ใครสักคนที่กำลังจะมาถึง” และยังมีเหตุการณ์แปลกๆอีกมากมาย

ส่งต่อความหลอนของเก้าอี้ผีสิงให้กับพิพิธภัณฑ์

            เจ้าของผับได้ยกเก้าอี้ผีสิงให้กับพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครนั่งอีกอย่างเด็ดขา ผู้จัดการพิพิธภัณฑ์สั่งให้แขวนมันเอาไว้ห่างจากพื้นประมาณ 1.5 เมตร แม้ว่าทุกคนจะปลอดภัยจากการนั่งบนเก้าอี้ แต่ดูเหมือนว่าพลังลี้ลับของมันจะไม่ได้หมดตามไปด้วย มีชาวเมืองท้องถิ่นอ้างว่า มีทหารกับคนขับรถมาแวะเข้าห้องน้ำที่ผับ Busby Stoop Inn หลังจากที่เก้าอี้ผีสิงได้ถูกส่งไปยังพิพิธภัณฑ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นักบินที่เสร็จธุระก่อนนั่งรอบนเก้าอี้บริเวณที่เคยเป็นที่ตั้งของเก้าอี้ผีสิง แต่คนขับรถกลับเดินทางกลับฐานทัพก่อนโดยไม่รอ ทำให้นักบินโกรธมากที่ต้องหาทางกลับไปยังฐานทัพด้วยตัวเอง เมื่อกลับไปถึงนักบินใช้ก้อนอิฐบล็อกทุบหัวคนขับจนตายคาที่

            เก้าอี้ผีสิง ยังคงถูกเก็บรักษาอย่างดีในพิพิธภัณฑ์ และเนื่องจากความพยายามในการป้องกันไม่ให้ใครเผลอนั่งอย่างเด็ดขาด ดูเหมือนว่าจะช่วยสะกดพลังในการ “ฆ่า” ให้หายไป กลายเป็นเพียงเก้าอี้ไม้ธรรมดาที่พ่วงมาด้วยประวัติโชกเลือดที่ไม่ธรรมดาอันดับต้นๆของโลกเลยทีเดียว...

แบ่งปัน: