ชิบุสะเอโนกิ (Chibusa enoki) วิญญาณแค้นแห่งต้นแฮ็คเบอร์รี่ ตำนานของประเทศญี่ปุ่น
ชิบุสะเอโนกิ (Chibusa enoki) เป็นต้นแฮ็กเบอร์รี่ (Celtis sinensis) ที่เติบโตในอิตาบาชิ กรุงโตเกียว ในช่วงศตวรรษที่ 18 ต้นไม้นี้มีลักษณะแปลกประหลาดเพราะมีรูปร่างคล้ายกับหน้าอก แถมยังผลิตน้ำนมบำรุงผิวพรรณอีกด้วย นอกจากนี้ตำนานของต้นไม้นี้ ยังกลามาเป็นการแสดงราคุเกียว ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในสมัยเมจิอีกด้วย
ตำนานแห่งการหักหลังและทรยศของชิบุสะเอโนกิ
เมื่อนานมาแล้วได้มีซามูไรคนหนึ่งได้ผันตัวมาเป็นจิตรกรนามว่า “ฮิชิกาวะ ชิเกโนบุ” พร้อมกับอาศัยอยู่กับภรรยา “โอคิเสะ” และ “มาโยทาโร” ลูกน้อย อยู่ในเมืองเอโดะ เขามีลูกมือเป็นชายหนุ่มฝีมือดีชื่อว่า “อิโซไก นามิเอะ” ชีวิตของพวกเขาดูเหมือนจะมีความสุขดี แต่... เบื้องหลังภาพฝันนั้น นามิเอะได้เก็บซ่อนความรู้สึกหลงใหลภรรยาของเจ้านายเอาไว้ในใจ
วันหนึ่งชิเกโนบุ ได้ถูกเรียกตัวให้ไปทำหน้าที่ทาสีเพดานของวิหาร โดยมีคนรับใช้ “โชสุเกะ” ตามไปด้วย เมื่อปลอดคนนามิเอะได้เข้าไปข่มขู่กับโอคิเสะว่าจะฆ่าลูกน้อยของเธอ หากไม่ยอมหลับนอนด้วย เมื่อสามีไม่อยู่ปกป้องทำให้เธอต้องยอมทำตามคำขู่ ความสัมพันธ์สวาทของทั้งคู่ดำเนินต่อไประยะหนึ่ง แต่นามิเอะก็รู้ว่ามันจะจบลงทันทีหากชิเกโนบุกลับมาถึงบ้าน เพื่อให้ความสัมพันธ์อันแสนวิปริตได้รับการเติมเต็มอย่างถาวร เขาจึงได้วางแผนร้ายเพื่อให้แน่ใจว่าเจ้านายของเขาจะไม่กลับมาถึงอีกตลอดกาล
นามิเอะ เริ่มต้นกลอุบายด้วยการแสร้งเดินทางไปเยี่ยมชิเกโนบุ โดยอ้างว่าอยากที่จะเห็นความก้าวหน้าของผลงาน ซึ่งผลงานก็คืบหน้าไปจนเกือบเสร็จแล้ว เหลือเพียงการทาสีของแขนมังกรตัวเมียเท่านั้น คืนนั้นเองที่นามิเอะได้บังคับให้คนรับใช้โชสุเกะมาเป็นผู้ช่วยในการลอบสังหาร ด้วยการให้กลับไปที่วัดและชวนชิเกโนบุออกมาไปชมหิ่งห้อย ในขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับบรรยากาศยามค่ำคืนแลเมามายจากรสสุรา ในระหว่างทางกลับวัดนามิเอะได้ลอบทำร้ายและสังหารชิเกโนบุได้สำเร็จ
โชสุเกะ ทำตัวแตกตื่นและรีบกลับไปที่วัดเพื่อรายงานว่ามีกลุ่มทหารเข้าโจมตีเจ้านายและสังหาร แต่เมื่อกลับไปถึงวัดปรากฏว่าชิเกโนบุอยู่ที่วัด และพึ่งทาสีแขนของมังกรเสร็จพร้อมกับลงชื่อในภาพวาดผลงาน เขายืนตะลึงมองอยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งชิเกโนบุหันมามองคนรับใช้ผู้ทรยศก็ตกใจมากจนเป็นลม และร่างของชิเกโนบุก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย จนทำให้ข้ารับใช้ใจทรยศเกิดความสงสัยว่าสิ่งที่ตัวเองเห็นนั้นคือ ผีหรือเปล่า!?
หลังจากนั้นไม่นาน นามิเอะ ก็ได้แต่งงานกับภรรยาม่ายโอคิเสะและมีบุตรด้วยกัน ในขณะที่โชสุเกะเองก็ยังทำหน้าที่เป็นข้ารับใช้ของคนทั้งสองต่อไป อย่างไรก็ตาม นามิเอะไม่ชอบลูกเลี้ยงของตัวเอง จึงได้สั่งให้โชสุเกะทำการสังหารมาโยทาโร่ทิ้งเสีย
โชสุเกะ พาเด็กชายไปที่น้ำตกแล้วจับโยนลงไปในแอ่งน้ำ แต่เมื่อมองลงไปกลับต้องตกใจสุดขีดเพราะกลางแอ่งน้ำนั้น มีผีของชิเกโนบุที่ถูกสังหารไปแล้วกำลังอุ้มเด็กชายเอาไว้ในอ้อมแขน ในชั่วพริบตาต่อมัน มันก็เข้าถึงตัวโชสุเกะและสั่งให้พาบุตรชายของตัวเองไปยังวัดที่อยู่ใกล้ๆ โชสุเกะทำการเลี้ยงดูเด็กชายด้วยความหวาดกลัวอยู่ในวัด พร้อมกับเรื่องมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นเมื่อต้นแฮ็คเบอร์รี่ในวัดที่มีรูปร่างเหมือนกับหน้าอกได้ผลิตน้ำเลี้ยงไหลออกมาที่เหมือนกับน้ำนมและมีรสหวาน สิ่งนี้ช่วยหล่อเลี้ยงให้มาโยทาโร่เติบโตมาอย่างแข็งแรงและมีสุขภาพที่ดี
ในขณะเดียวกันโอคิเสะ ก็ได้ถูกวิญญาณของชิเกโนบุหลอกหลอนและเกิดเนื้องอกในหน้าอกที่สร้างความเจ็บปวดเป็นอย่างมากทำให้เธอไม่สามารถผลิตน้ำนมออกมาได้ สิ่งนี้ทำให้ลูกแรกเกิดของนามิเอะเจ็บป่วยและเสียชีวิตในเวลาไม่นานหลังจากนั้น ส่วนโอคิเสะเองก็ได้กลายเป็นบ้าไปในที่สุด
5 ปี ต่อมา... เรื่องราวของเด็กชายที่ถูกเลี้ยงด้วยน้ำนมจากต้นแฮ็คเบอร์รี่ ได้แพร่กระจายออกไปจนกระทั่งรู้ไปถึงหูของนามิเอะ ทำให้เขาเข้าใจว่าเหตุการณ์อันแสนแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวเองนั้นเป็นเพราะอะไร!? เขาจึงได้เดินทางไปที่วัดที่มาโยทาโร่และโชสุเกะอาศัยอยู่ด้วยความเคียดแค้น ในขณะที่เขากำลังจะสังหารทั้งสองที่ไม่สามารถปกป้องตัวองได้ ผีของชิเกโนบุก็ได้ปรากฏตัวขึ้น และกำกับท่วงท่าทำนองดาบของมาโยทาโร่ ทำให้เขาสามารถสังหารนามิเอะได้สำเร็จ
เมื่อความแค้นได้รับการสะสาง... วิญญาณของชิเกโนบุ ก็ได้หายตัวไปตลอดกาล...