อมรณา สารานุกรมแห่งความตาย อมรณา สารานุกรมแห่งความตาย
Ads
  • เรื่องผีสั้นๆ
  • หนังสยองขวัญ การ์ตูนผี และเพลงต้องสาป
  • เกมผี เกมสยองขวัญ

เจาะลึกตำนาน ตับไต! ไส้พุง! ผีกระสือ

  • 31-01-2023
  • มือปริศนา
  • 2,227
Line borderless Line borderless
เจาะลึกตำนาน ตับไต! ไส้พุง! ผีกระสือ

 

เจาะลึกตำนาน ตับไต! ไส้พุง! ผีกระสือ

 

            “กระสือ” เป็นหนึ่งในผีไทยที่คนไทยพูดถึงกันบ่อย และมักถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์หลายเรื่อง บวกกับภาพลักษณ์ที่ดูโดดเด่น สะดุดตา เนื่องจากปรากฏตัวโดยมีเพียงหัวกับไส้ ชวนทำให้รู้สึกสะอิดสะเอียนระคนปนกับความสยดสยองทำให้ผีกระสือกลายมาเป็นที่จดจำฝังลึกลงไปในความเชื่อของคนไทยมาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีตนับมาจนถึงปัจจุบัน

 

 

ผีกระสือ เรื่องขนลุกสุดคล้ายคลึงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“ฮันตูปินังกาลัน”

 

 

            หลายคนเชื่อว่าผีกระสือไม่ใช่ผีไทยแท้ แต่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเขมร โดยถูกเรียกว่า “เอิบ” จากผู้ที่ทำการเล่นไสยศาสตร์แล้วทำผิดข้อห้าม นอกจากนี้ ผีกระสือยังปรากฏตัวอยู่ในความเชื่อของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รอบประเทศไทย อย่างเช่นชาวลาว เรียกผีกระสือว่า “กระสือ” ชาวเวียดนามเรียกว่า “มาลาย” ในแถบของประเทศมาเลเซีย ยังมีปีศาจที่มีลักษณะคล้ายกับผีกระสืออย่างมากที่เรียกว่า “ฮันตูปินังกาลัน” และประเทศญี่ปุ่นเอง ก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับปีศาจที่สามารถถอดหัวหากินในเวลากลางคืนที่มีชื่อเรียกว่า “นุเกะ-คุบิ” ที่หากไม่กลับเข้าร่างก็เสียชีวิตในตอนรุ่งเช้า  

 

"นุเกะ-คุบิ"

ลักษณะของผีกระสือ

"กระสือแบบดั้งเดิมของท่านเสถียรโกเศศ" ภาพจาก : http://gg.gg/f2ixr

            ในสมัยโบราณ ผีกระสือถูกเรียกว่า “ผีลากไส้” แล้วถูกเปลี่ยนเป็น “ผีกระสือ” ในภายหลัง เชื่อกันว่ากระสือเป็นผีชนิดหนึ่งที่เข้าสิงผู้หญิง (ถ้าหากเข้าสิงผู้ชายจะถูกเรียกว่า “กระหัง”) โดยมักเป็นหญิงชรา ยามเมื่อความกระหายอยากเกินควบคุม ตกดึกผีกระสือก็จะออกหากินด้วยการถอดหัวพ่วงเครื่องใน ตับไต ไส้พุง ลอยตามลมออกหากิน โดยทิ้งร่างกายที่เหลือเอาไว้ที่บ้าน แต่ในนิยามของท่านเสถียรโกเศศ เชื่อว่าผีกระสือ เป็นเพียงผู้หญิงแก่ที่มีหัวกับไส้สองแสงเรืองๆ โดยที่ไม่มีอวัยวะอื่นใด ซึ่งผีกระสือที่มีหัวไส้ และอวัยวะอื่นๆ ถูกแต่งเติมขึ้นมาในภายหลังจากจินตนาการของนักวาดภาพ ทวี วิษณุกร ในใบปิดภาพยนตร์เรื่อง “กระสือสาว” ในปี พ.ศ.2516

             "ภาพยนตร์เกี่ยวกับผีกระสือ"

                    เมื่อกระสือลอยผ่านไปที่ไหนก็จะมองเห็นเป็นดวงไฟขนาดใหญ่สีแดง หรือสีเขียวเรืองวาว เชื่อว่าดวงไฟนั่นล่ะคือวิญญาณของผีกระสือที่สิงอยู่ในตัวของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย โดยมักออกหากินตั้งแต่ช่วงเวลาหัวค่ำ พบบ่อยในช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่ม) ไปจนถึงใกล้รุ่งสาง เมื่ออิ่มหนำสำราญแล้ว ผีกระสือก็จะกลับมาเข้าร่างต้นแล้วใช้ชีวิตในตอนกลางวันเหมือนกับมนุษย์ธรรมดาทุกประการ แต่มักแสดงอาการผิดปกติให้เห็น เช่น ไม่ชอบการสบตาคนอื่น สันโดษ ชอบเก็บตัว บางครั้งอาจไม่ชอบแสงสว่างอย่างเห็นได้ชัด เป็นต้น

 

ผีกระสือ กับกฎหมายตราสามดวง

 

           "กฏหมายตราสามดวง"

 

            คนในสมัยก่อนเชื่อว่าผีกระสือมีอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก จนทำให้มันถูกจารึกเอาไว้ใน “กฎหมายตราสามดวง” ของกรุงศรีอยุธยา โดยมีการระบุโทษของการใช้อำนาจคุณไสยในทางมิชอบเกี่ยวกับโดยการเป็นผีกระสือ หรือใช้ผีกระสือไปทำร้ายผู้อื่น ให้ทำการประหาร และยึดทรัพย์เข้าหลวงตามมาตราที่ 137 เพราะเป็นผีที่ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ และสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน ก่อให้เกิดความเกลียดชัง ใส่ความกัน เป็นต้น

            ในมหาราชวงษ์พงศาวดารพม่าเอง ก็ได้มีการกล่าวถึงพระมเหสีชาวเงี้ยวของพระเจ้าอนรธามังช่อ ที่มีพระธาตุเสด็จมาอยู่ที่ต่างหูจนเกิดเป็นแสงสว่างไสว จนคนเชื่อว่าพระนางเป็นกระสือจนทำให้ถูกเนรเทศออกจากกรุง ก็เป็นหนึ่งในตำนานที่มีการบันทึกเอาไว้ ถึงความหวาดกลัวผีกระสือเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

 

อาหารจานโปรดของผีกระสือ

           ภาพจาก http://gg.gg/f2iz2

             ผีกระสือ ชอบของสด ของคาว โดยเฉพาะผู้หญิงที่คลอดลูกใหม่ในสมัยก่อนต้องระมัดระวังการมาเยือนของผีกระสือในตอนกลางคืนเป็นอย่างมาก เพราะกลิ่นคาวเลือดสดจะเป็นสื่อชักนำให้ผีกระสือมารอกินเลือก หรือรกเด็กที่ถูกตัดทิ้ง ถ้าหากสบโอกาสผีกระสืออาจถึงขั้นเข้าไปควักกินตับไต ไส้พุงของผู้เป็นแม่ หรือเด็กทารก ทำให้คนในสมัยก่อนมักนำไม้หนามแหลม หรือไม้ไผ่ที่มีหนามมาปิดช่องว่างระหว่างร่องกระดานเรือน เพื่อเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้ผีกระสือแอบเข้าไปทำร้ายคนในบ้าน เพราะเชื่อกันว่าผีกระสือกลัวไม้หนาจะเกี่ยวพันไส้จนไม่สามารถลอยหนีไปได้นั่นเอง

            อีกหนึ่งเมนูโปรดของผีกระสือ คือบรรดาของโสโครก โดยเฉพาะ “อุจจาระ” ของมนุษย์ที่หากินได้อย่างง่ายดาย เพราะในสมัยก่อนนิยมถ่ายท้องหนักกันกลางทุ่งเนื่องจากห้องน้ำเป็นสิ่งที่ค่อนข้างหายาก และต้องเป็นคนที่มีฐานะเท่านั้นถึงจะมีใช้ บางครั้งเมื่อผีกระสือกินอุจจาระจนกระทั่งอิ่มหนำดีแล้ว ก็จะเช็ดปากด้วยเสื้อผ้าที่ถูกตากทิ้งเอาไว้ตอนกลางคืนปรากฏเป็นรอยเปื้อนเป็นวงดวงให้เห็นอย่างชัดเจน นอกจากนี้คนที่มีบาดแผลต้องระมัดระวังตัวเช่นกัน เพราะผีกระสืออาจตามกลิ่นมาลอบดูดเลือดในตอนกลางคืน จนทำรู้สึกอ่อนเพลียจากการเสียเลือดไป 2-3 วัน

           

การถือกำเนิดของผีกระสือ

            สาเหตุสำคัญที่ทำให้คนธรรมดากลายเป็นผีกระสือ สามารถเกิดขึ้นได้จาก 2 สาเหตุ ดังต่อไปนี้

ทำผิดข้อห้ามของเดรัจฉานวิชา :

            ทำให้ไสยศาสตร์มนต์ดำย้อนกลับคืนเข้าตัวจนกลายเป็นผีกระสือไปในที่สุด

 

น้ำลายผีกระสือ :

            ผีกระสือเมื่อรู้ตัวว่าตนเองต้องตายจะไม่ยอมตายอย่างสงบ แต่จะพยายามหาทางสร้างทายาทกระสือต่อด้วยการคาย “น้ำลาย” ให้ลูกหลานคนใดคนหนึ่งทานเพื่อให้กลายเป็นผีกระสือต่อไป บางเชื่อว่าเมื่อได้รับน้ำลายก็จะกลายเป็นทายาทผีกระสือทันที บ้างเชื่อว่าต้องได้รับน้ำลายไปเรื่อยๆจนกระทั่งสะสมในร่างกายถึงในปริมาณที่เหมาะสมจึงจะกลายสภาพเป็นผีกระสือ อย่างไรก็ตามพฤติกรรมในการแสวงหาทายาทดังกล่าวมีคนตั้งข้อสันนิษฐานว่าเป็นกลไกตามธรรมชาติของผีกระสือ ถ้าหากพยายามฝืนไม่ทำตามก็จะทำให้เกิดความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส แต่หากทำตามก็จะได้ตายอย่างสงบ หรือผีกระสือบางตนก็จะนอนตายในสภาพที่ชวนอนาถเพราะหัวกับตัวหลุดออกจากกัน เหมือนกับหัวกับคอเชื่อมต่อกันไม่ติดนั่นเอง       

 

"เปรต"

  

ถูกภูตเข้าสิง :

          มีความเชื่อว่าผีกระสือ คือ “ภูต” ประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นมาจากวิญญาณของมนุษย์ เมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่ชอบหลอกลวงต้มตุ๋นคนอื่น เมื่อตายก็ได้กลายเป็นเปรต ต้องทุกข์ทรมานจากความหิวโหย ชอบกินของบูดเน่าเสีย จากวิบากกรรมที่ชอบทำเรื่องสกปรก เต็มไปด้วยความโลภอยากได้ทรัพย์สินของผู้อื่น เมื่อพ้นสภาพจากการเป็นเปรตหากยังไม่หมดกรรมก็จะกลายมาเป็นภูติที่กินได้เฉพาะของสกปรก ของคาว ของเน่าเหม็น ซึ่งภูตเหล่านี้จะเข้าสิงคนที่มีวิบากกรรมเหมือนกับตนเองในสมัยเป็นมนุษย์ จนกระทั่งกลายเป็น “ผีกระสือ” ทำให้ภูตมีลักษณะเหมือนกับ “กาฝาก” หรือ “ปรสิต” เมื่อสิงสู่นานเข้าก็จะยึดครองร่างกาย นำพาถอดหัวออกไปหากิน โดยดวงไฟที่เห็นสว่างเรืองๆ คือ “ดวงจิตของมนุษย์ที่มีวิบากกรรม” ในขณะออกหากิน ภูตจะทำการบังดวงจิตอำพรางกาย ทำให้คนเห็นเพียงแสงไป แต่มองไม่เห็นตัวภูต เมื่อพบเจอของสด ของคาว ก็จำแลงร่างกลับมาเป็นภูตก่อนกิน โดยภูตจะมีรูปร่างคล้ายมนุษย์ผอม ดำ น่าเกลียด ไม่สวมเสื้อผ้า ทำให้มีความแตกต่างจากผีกระสือทั่วไปพอสมควร

 

 

ผีกระสือทำร้ายมนุษย์หรือเปล่า!?

 

            โดยทั่วไปแล้วผีกระสือจะไม่เข้าไปทำร้ายมนุษย์ก่อน ยามเมื่อออกหากินแล้วบังเอิญไปพบกับมนุษย์ก็จะพยายามหลบเลี่ยงหนีไป แต่ถ้าหากมนุษย์คนนั้นเป็นศัตรู คู่อริที่สร้างความขุ่นข้องหมองใจให้กับผีกระสือ มันก็จะมีความอาฆาตพยาบาทที่ล้ำลึกอย่างมากจนกว่าความแค้นจะได้รับการชำระ ในบางครั้งผีกระสือก็อาจทำร้ายคนที่ตนเกลียดชังจนถึงขั้นเสียชีวิตเลยทีเดียว

 

การระบุตัวว่าใครคือผีกระสือ

            การระบุว่าใครเป็นร่างสิงสู่ของผีกระสือสามารถทำได้หลายวิธี ดังต่อไปนี้

o   นำผ้าเช็ดปากผีกระสือไปต้ม : ทำให้ผีกระสือเกิดความรู้สึกปวดแสบ ปวดร้อน แล้วแสดงตัวออกมาเพื่อขอร้องไม่ให้ทำการต้มผ้าเหล่านั้นต่อ

o   นำผ้าเช็ดปากไปฟาดบันไดบ้าน : ทำให้ผีกระสือปากบวม เหมือนกับถูกตีด้วยไม้ที่ปาก

o   สันโดษ เก็บตัว ไม่ชอบสุงสิงกับผู้คน และเกลียดกลัวแสงแดด

o   ชอบทานข้าวคนเดียว และชอบอาหารสด คาว

 

 

การปราบและขับไล่ผีกระสือ

 

            แม้ว่าผีกระสือจะเป็นหนึ่งในรูปแบบของการสิงสู่ร่างคนเป็น แต่ตามหลักการแล้วเชื่อว่าผีกระสือ เป็นปีศาจชนิด “พิเศษ” ที่ไม่สามารถทำการขับไล่ออกจากร่างของมนุษย์ที่ถูกสิงได้ เพราะผีกระสือได้บังคับให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงจนทำการ “ถอดหัว ถอดไส้” ที่ทำให้ร่างกายเสียหายหรืออาจกล่าวได้ว่า “ร่างกายได้ตายไปแล้ว” การที่ร่างสิงสู่ของผีกระสือยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้ เกิดจากอำนาจลึกลับของผีกระสือเท่านั้น ดังนั้น การพยายามไล่ผีกระสือออกจากร่าง ก็คือการพยายาม “ฆ่า” เจ้าของร่างนั่นเอง เพราะหากผีกระสือออกจากร่าง ร่างกายเหล่านั้นก็จะมีสภาพเป็นเหมือนกับ “เปลือก” หรือ “ร่างไร้วิญญาณ” เท่านั้น..

 

ความพยายามในการจับกุมผีกระสือ

            มีหลายคนที่พยายามจับผีกระสือ เท่าที่เคยได้ยินมาการจับกุมมักใช้ “สุ่มไก่” โดยมีเรื่องเล่าดังต่อไปนี้

            ชายคนหนึ่งกำลังจับปลาอยู่ที่คลองแถวบ้านในตอนกลางคืน โดยมีภรรยาที่ใกล้จะคลอดลูกอยู่ที่บ้าน แล้วสังเกตเห็นที่หน้าบ้านของตัวเองแล้วเห็นดวงไฟ ดวงหนึ่งลอยขึ้นลงวนอยู่รอบบ้าน เขานึกว่าไฟกำลังไหม้บ้านเลยกลับมาดู ปรากฏว่าเป็นดวงไฟลอยไปลอยมารอบบ้านจึงรู้ว่าเป็นผีกระสือ จึงได้ไปเรียกเพื่อนให้มาช่วยกันเอาไม้ไผ่ล้อมจับได้สำเร็จ แล้วทำการขังเอาไว้ในสุ่มไก่ พอรุ่งเช้าดวงไฟในสุ่มก็หายไป เหลือเพียงแค่ความว่างเปล่า เมื่อตกกลางคืนแสงไฟก็กลับมาอีก หลังจากที่สำรวจพบว่ามีหญิงชราอยู่บ้านคนเดียวที่เหมือนจะสิ้นลม คล้ายกับไร้วิญญาณ ชายคนนั้นสำทับกับหญิงชราว่าอย่ามายุ่งกับครอบครัวเขาอีกแล้วจะปล่อยไป หลังจากที่ทำการปล่อย ผีกระสือก็ไม่กลับมาให้เห็นอีกเลย

            การพยายามจับกุมผีกระสืออีกครั้งหนึ่งเป็นเรื่องเล่าจากคุณตาของผู้เขียนเอง คุณตาท่านเล่าว่าเคยพบผีดวงไฟผีกระสือลงมากินซากวัว และเครื่องในที่ถูกทิ้งเอาไว้หลังบ้านงานบุญในตอนกลางคืน คุณตากับพวกจึงได้ไปทำการซุ่มรอในคืนต่อมา ปรากฏว่าผีกระสือก็ปรากฏตัวลงมากินซากวัวอีก ในขณะที่มันกำลังกินของบูด ของเน่าอย่างเอร็ดอร่อย คุณตาได้ย่องเอาสุ่มไก่ไปครอบ ด้วยความตกใจผีกระสือก็พยายามดิ้นรนจนคุณตาสู้แรงไม่ไหว จวนเจียนจะลอยขึ้นฟ้าไปทั้งคนทั้งผี ทั้งสุ่ม เพื่อนของคุณตาเห็นท่าไม่ดีเลยใช้ปืนลูกซองยิงใส่ดวงไฟก่อนที่มันจะลอยหนีขึ้นฟ้าได้สำเร็จ ในวันถัดมาปรากฏว่ามีหญิงชราที่อยู่อีกหมู่บ้านนอนตาย มีเลือดไหลออกมาจากปาก แต่ไม่มีบาดแผลตามร่างกาย แต่เมื่อตำรวจทำการชันสูตศพก็ต้องฉงน เพราะเครื่องในภายในมีร่องรอยของกระสุนปืนลูกซอง ทั้งที่ร่างกายภายนอกไม่มีบาดแผลจากลูกกระสุนแต่อย่างใด สร้างความประหลาดใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก

 

นักวิทยาศาสตร์ให้ความเห็นเกี่ยวกับผีกระสืออย่างไร

 

ก๊าซมีเทน

            นักวิทยาศาสตร์ได้อธิบายการปรากฏตัวของผีกระสือเอาไว้ว่า เกิดจากก๊าซมีเทน จากการสะสมซากเน่าเปื่อยของอินทรีสารในนาข้าว หรือในท้องทุ่งเกิดการลุกติดไฟ จนกระทั่งกลายเป็นดวงไฟกลมจนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนในความมืด ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนได้โต้แย้งว่า การลุกไหม้ของก๊าซมีเทนเป็นการลุกไหม้เพียงบนผิวหน้าของวัตถุ ไม่สามารถลอยเคลื่อนที่ไปมาในอากาศได้ ทำให้ประเด็นเรื่องผีกระสือดังกล่าว กลายมาเป็นข้อถกเถียงกันอย่างมากเลยทีเดียว

"ผีกระสือปลอม" ภาพจาก : BBC

 

ภาพหลอกตา

            นอกจากนี้ ยังเชื่ออีกว่าการปรากฏตัวของผีกระสืออาจเกิดขึ้นจาก “ภาพหลอกตา” ที่เกิดจากการตกกระทบของแสงจากที่อื่น หรือเป็นแสงจากเครื่องบิน

 

ของปลอม

            หลายครั้งที่การปรากฏตัวของผีกระสือเกิดขึ้นจากการกลั่นแกล้งของมนุษย์ที่ทำขึ้นเพื่อหลอกแกล้งผู้อื่น

 

 

พืชสมุนไพร ที่มีความเกี่ยวข้องกับผีกระสือ

"ว่านผีกระสือ" ภาพจาก : http://gg.gg/f2j4s

            เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้องกับผีกระสือปรากฏว่านและพืชสองชนิดที่เชื่อว่ามีความเกี่ยวพันกับผีกระสือ ได้แก่

“ว่านกระสือ” เป็นไฟลสายพันธุ์หนึ่งที่สามารถเรืองแสงได้ในที่มืด

 

            “เห็ดกระสือ” เป็นเห็ดสายพันธุ์หนึ่งที่สามารถเรืองแสงได้ในที่มืด

 

การปรากฏตัวของผีกระสือ ณ ปัจจุบัน

            การปรากฏตัวของผีกระสือที่สร้างความฮือฮาให้กับโลกโซเชียลฯ ครั้งหนึ่งเกิดขึ้นในปี พ.ศ.2561 เมื่อครอบครัวหนึ่งได้เห็นผีกระสือทั้งครอบครัวอยู่บนต้นมะม่วง ก่อนที่จะค่อยๆลอยหนีหายไปกับตา โดยครอบครัวนี้ยืนยันว่าน่าจะตามกลิ่นคาวเลือดจากการเชือดวัวในตอนกลางวัน พร้อมกับทำการถ่ายคลิปวีดิโอ และภาพนิ่งการเผชิญหน้ากับผีกระสือเอาไว้เป็นหลักฐาน ยาวกว่า 28 วินาที เห็นเป็นดวงไฟประหลาดสีแดงอมเข้ม คล้ายกับคำบอกเล่าของคนสมัยก่อนเกี่ยวกับผีกระสือ

           "กระสือปลอม" ทำจากโดรนและหลอดไฟ ภาพจาก amarintv.com

แม้ว่าผีกระสือจะยังคงเป็นหนึ่งในผียอดฮิต! ที่ถูกหยิบนำมาเป็นวัตถุดิบในการสร้างภาพยนตร์ลี้ลับ สุดสยองให้เห็นมากมายหลายเวอร์ชั่น ให้เห็นกันแบบปีเว้นปี ทำให้คนรุ่นใหม่ก็ยังคงสามารถจดจำเอกลักษณ์ของผีกระสือได้เป็นอย่างดี...

 

 

 

 

 

 

ผีผู้หญิง ผีไทย
แบ่งปัน:
Line borderless Line borderless

ประวัติศาสตรผี ปีศาจ และอมนุษย์ทั่วโลก

  • สัตว์ประหลาดในตำนาน นิทานพื้นบ้านและภูตจากทั่วโลก (83)
  • ตำนานเมืองสยองขวัญทั่วโลก (76)
  • ผีในทวีปออสเตรเลีย (4)
  • เรื่องราวแปลกประหลาดและน่าสนใจทั่วโลก (38)
  • พ่อมดและแม่มด เวทมนตร์ อัญมณีและของขลัง (49)
  • เกมผี เกมสยองขวัญ (35)
  • ผีในประเทศญี่ปุ่น (379)
  • หนังสยองขวัญ การ์ตูนผี และเพลงต้องสาป (576)
  • ฆาตกรและปีศาจในคราบมนุษย์ (40)
  • เทพ ยมฑูต และเทวตำนาน (57)
  • ผีในทวีปแอฟริกา (15)
  • ผีในทวีปเอเชีย (79)
  • อมนุษย์ ปีศาจและเดรัจฉาน (129)
  • สถานที่สิงสู่ของผีเฮี้ยนทั่วโลก (317)
  • ความเชื่อ พิธีกรรมและสิ่งของต้องสาป (103)
  • เรื่องผีสั้นๆ (474)
  • ผีในทวีปยุโรปและอเมริกา (210)
  • ผีในประเทศไทย (44)
สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม
บัตรเครดิต ซิตี้ รอยัล ออร์คิด พลัส ซีเล็คท์
บัตรเครดิต KTC Royal Orchid Plus JCB Platinum
บัตรเครดิต ซิตี้ ลาซาด้า
บัตรเครดิต ซิตี้
บัตรเครดิต KTC Visa Platinum

ค้นหาจาก Tag ... คลิก!

เขาวงกตใต้ดินผีสิงแห่งโรงเบียร์ยูนิคอร์น (Unicorn Brewery) ประเทศออสเตรเลีย
Hawthorne Hotel โรงแรมผีสิง ณ ใจกลางเมืองแห่งการล่าแม่มด
เรื่องผีสั้นๆ “ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร!?”
[[รีวิวหนังสยองขวัญ แต่ไม่สปอย]] Halloween II ฮัลโลวีน II โหดกว่าผี อำมหิตกว่าปีศาจ
5 พิพิธภัณฑ์ในเอเชียที่จัดแสดงเรื่องราวของความตาย
[[รีวิวหนังสยองขวัญ แต่ไม่สปอย]] Mark of the Devil รอยปีศาจ
Copyrights © 2023 All Rights Reserved by amorerana.com.
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา