เปิดตำนานวันศุกร์ที่ 13 กับทฤษฎีความเชื่อที่น่าสนใจ ส่งตรงมาจากทั่วโลก

            “วันศุกร์ที่ 13...” เป็นแห่งโชคร้ายและความอัปมงคลที่สร้างความหวาดกลัวให้กับคนทั่วโลกมาอย่างยาวนาน จนถึงขนาดที่ทำให้เกิดโรคประหลาดอย่าง Triskaidekaphobia หรือความกลัว เลข 3 และเลข 10 รวมไปถึงโรค Paraskavedekatriaphobia ที่ผู้ป่วยจะมีความหวาดกลัววันศุกร์ที่ 13 มากกว่าคนทั่วไปจนเข้าขั้นตื่นตระหนกเมื่อมันมาเยือน...

 

ตำนานทั่วโลกมากมาย นำไปสู่ความหวาดกลัวและถือว่าวันศุกร์ที่ 13 คือ “วันแห่งความโชคร้าย”

 

ตำนานวันศุกร์ที่ 13 ของศาสนาคริสต์

            มีหลายทฤษฎีที่น่าสนใจว่าทำไมวันศุกร์ที่ 13 จึงกลายมาเป็นวันแห่งความโชคร้าย!? หลายคนคิดว่าเกิดมาจากไสยศาสตร์ ในขณะที่อีกฝ่ายเชื่อว่ามันมาจากความจริงอันบริสุทธิ์ของโลก อย่างไรก็ตามนักวิชาการที่ศึกษาคัมภีร์ไบเบิลอ้างว่า “อีฟ” มนุษย์เพศหญิงคนแรกได้ล่อลวงให้ “อดัม” ชิมแอปเปิลในวันศุกร์ ทำให้ทั้งคู่ถูกขับไล่ออกจากสวนเอเดน

            ในพระคัมภีร์ยังกล่าวถึงเรื่องราวของ “คาอิน” และ “เอเบิล” วันที่ทั้งคู่ลุกขึ้นมาฆ่ากันเองก็เชื่อว่าเป็นวันศุกร์ที่ 13 อย่างไรก็ตามทั้งสองทฤษฎีนี้หลักฐานสนับสนุนค่อนข้างอ่อน เนื่องจาก ณ เวลานั้น วัน เวลา ไม่ได้มีหน่วยวัดที่ชัดเจน

            นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์อาหารค่ำมื้อสุดท้าย เมื่อสมาชิกคนที่ 13 ที่ชื่อว่า “ยูดาส อิสคาริโอ” ได้ทรยศพระเยซู ด้วยการขายข้อมูลให้กับโรมัน จนนำไปสู่การประหารชีวิตของพระเยซูโดยการตรึงไม้กางเขน และยังเชื่ออีกว่าวันที่ทำการประหาร คือ วันศุกร์ที่ 13 อีกด้วย

 

ตำนานวันศุกร์ที่ 13 ของนอร์ส หรือยุโรปเหนือ

            วันศุกร์ที่ 13 เกี่ยวกับเรื่องราวเก่าแก่ของชาวนอร์สในงานเลี้ยงอาหารค่ำอันยิ่งใหญ่ ณ วัลฮาล่า เทพเจ้าจำนวน 12 องค์ รวมทั้งมหาเทพโอดินได้เข้าร่วมด้วย แต่เมื่อเทพเจ้าองค์ที่ 13 ผู้ไม่ได้รับเชิญ “โลกิ” มาเยือน พร้อมกับยุยงให้เทพ “Hoder” ที่ตาบอดสนิทสังหารเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง ความสุข ความบริสุทธิ์ และดวงอาทิตย์ในฤดูร้อน “Baldr” พี่ชายฝาแฝดของตัวเอง อย่างไรก็ตาม เทพแห่งแสงสว่างมีร่างกายที่อยู่ยงคงกระพันต่ออาวุธทุกสิ่งในโลก ยกเว้น “ลูกศรมิสเซิลโท” (Mistletoe Arrow) ของเทพ Hoder ท่ามกลางความมืดมิดของดวงตาอันมืดบอด โลกิได้นำทางจนทำให้ศรถูกเป้าหมายจนเทพแห่งแสงสว่างได้รับบาดเจ็บสาหัสและภายหลังเทพ Hoder เองก็ถูกสังหารโดยยักษ์ที่มีชื่อว่า Rind

            เหตุการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้น ณ วัลฮาร่า สถานที่ชุมนุมของเหล่าวีรบุรุษและเทพเจ้านี้เอง ที่ทำให้ชาวนอร์สเชื่อว่าวันที่ 13 เป็นวันที่เลวร้าย และโชคร้ายต่อให้มันจะไม่ใช่วันศุกร์ที่ 13 ก็ตาม...

 

ตำนานวันศุกร์ที่ 13 Templar Knights (อัศวินแห่งวิหาร)

            ทฤษฎีที่ดูเป็นไปได้มากที่สุด เกี่ยวกับตำนานวันศุกร์ที่ 13 ของเหล่า Templar Knights ต้องย้อนกลับไปในปี 1307 เมื่อกษัตริย์ฟิลิปที่ 4 แห่งประเทศฝรั่งเศส ได้สั่งให้จับกุมเหล่า Templar Knights ในวันศุกร์ที่ 13 ของเดือนตุลาคม เป็นจำนวนถึง 600 คน

            Templar Knights คือ กองกำลังอัศวินที่ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1118 ตามคำสั่งของพระสังฆราช ทำหน้าที่ในการคุ้มครองผู้แสวงบุญที่เดินทางไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลังจากที่เกิดสงครามศาสนาเป็นครั้งแรก ทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในกองกำลังที่มั่งคั่งและมีอิทธิพลมากที่สุด เพราะราชวงศ์ต้องการมอบความคุ้มครองให้กับผู้คนในเส้นทางอันยาวไกลและมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของกองอัศวินนี้ จนทำให้เมื่อถึงช่วงศตวรรษ14 Templar Knights คือผู้สร้างระบบโบสถ์และแม้แต่ธนาคารขึ้นมาหลายต่อหลายแห่ง

            อำนาจที่เพิ่มพูนมากขึ้นทุกขณะของ Templar Knights ทำให้กษัตริย์ฝรั่งเศสไม่พอใจ จนถึงขนาดมีการส่งเอกสารลับไปยังทั่วทวีปยุโรป โดยมีเนื้อหากล่าวหาว่าอัศวินเหล่านี้ประพฤติตัวไม่เหมาะสม และอีกสารพัดข้อหาเท่าที่จะคิดออก รวมไปถึงการให้ความเคารพบูชาปีศาจ ใช้มนต์ดำ รักร่วมเพศ พิธีกรรมทางเพศอันวิปริต การฉ้อโกงทุจริตและจงใจทำลายวัตถุศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น

            หลังจากที่ถูกควบคุมตัว พวกเขาถูกทรมานทั้งร่างกายและจิตใจชนิดที่คนธรรมดาไม่มีทางจินตนาการออกจนกว่าจะทำการ “สารภาพ” ออกมา หลังจากนั้น หลายคนก็ถูกนำตัวไปประหารด้วยการเผาทั้งเป็นเหมือนกับเหล่า “แม่มด” ส่วนทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดของพวกเขา ก็ถูกกษัตริย์กวาดเข้าท้องพระคลังจนหมดและดูเหมือนว่านี้ต่างหากคือเหตุผลที่แท้จริงในการจับกุมเหล่าอัศวินที่ไร้ความผิด

 

ตำนานวันศุกร์ที่ 13 ของชาวแอซเท็ก (Aztecs)

             ชาวแอซเท็ก เชื่อว่าเลข 13 คือ “ตัวเลขศักดิ์สิทธิ์” ดังนั้น ตามปฏิทินของพวกเขาในแต่ละสัปดาห์จะมีจำนวน 13 วัน ดังนั้น ในหนึ่งปีของพวกเขาในหนึ่งปีจะมี 260 วัน และ 20 ช่วงเวลา

 

ตำนานวันศุกร์ที่ 13 ของ โทมัส ลอว์สัน (Thomas Lawson)

            ในปี 1907 นักเขียนที่มีนามว่า “โทมัส ลอว์สัน” ได้เขียนนวนิยายเรื่อง “Friday the 13^th” ขึ้น แต่มันไม่ได้มีเรื่องราวเกี่ยวกับความสยองขวัญแต่อย่างไร แต่กลับเป็นเรื่องของนายหน้าค้าหุ้นคนหนึ่งที่หมายมั่นปั้นมือที่จะบุกตลาดหุ้น แต่ดูเหมือนว่าจะมีหลายคนที่เกี่ยวข้องกับหนังสือเล่มนี้เกิดโชคร้ายขึ้นมา แม้แต่ผู้เขียนเองที่เป็นทั้งผู้ค้าหุ้นและทำธุรกิจเดินเรือแบบเสากระโดง 7 ใบ ที่ตั้งชื่อตามเขา แต่ต่อมามันก็ได้อับปางลงบริเวณเกาะซิซิลี ในปี 1907 โดยเวลาในบอสตัน ยังคงเป็นวันศุกร์ที่ 13 อยู่...

 

ตำนานวันศุกร์ที่ 13 ณ ปัจจุบัน

            ภาพยนตร์ชุด Friday the 13^th ที่เกี่ยวกับการฆาตกรรมสุดสยองขวัญ ได้สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนต่อวันศุกร์ที่ 13 มาจนถึงปัจจุบัน และยังเป็นสิ่งที่ช่วยให้เกิดประเด็นความเชื่อถึงความอัปมงคลในวันศุกร์ที่ 13 มาอย่างยาวนาน ถึงขั้นที่ว่าหลายคนเลือกที่จะไม่จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำในวันศุกร์ที่ 13 ไม่รับแขกในงานที่มี 13 คน และโรงแรมหลายแห่งไม่มีชั้นที่ 13 เป็นต้น

            นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายเหตุการณ์น่าเศร้าที่เกิดขึ้นในวันศุกร์ที่ 13 พอดิบพอดี โดยขอยกบางส่วนของเหตุการณ์มาให้รู้จักกัน ดังต่อไปนี้

 

1. ในปี 1940 พระราชวังบักกิ้งแฮม ถูกทิ้งระเบิดใส่
2. ในปี 1970 เกิดพายุไซโคลนขึ้นในประเทศบังกลาเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 300,000 คน
3. Tupac Shakur นักแต่งเพลงและแรปเปอร์ชาวอเมริกัน ที่ทรงอิทธิพลที่สุดตลอดกาล เสียชีวิตในวันศุกร์ที่ 13
4. ในปี 2012 เรือโดยสารสุดหรู Costa Concordia ชนกับแนวปะการัง

 

ไม่ว่าความจริงเกี่ยวกับศุกร์ที่ 13 จะเป็นอย่างไร... แต่มันก็ยังคงเป็นวันที่สร้างอิทธิพลได้อย่างมากมายให้กับหลายคน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าวันศุกร์ที่ 13 จะมาเยือนหรือไม่!? แต่.. ถ้าหากรู้จักใช้ชีวิตย่างมีสติและเต็มที่ ก็เชื่อว่าจะช่วยให้ผ่านพ้นวันศุกร์ที่ 13 ไปได้อย่างราบรื่นเหมือนกับวันอื่นๆ ได้อย่างแน่นอน...