เรื่องผีสั้นๆ เพื่อนเล่าให้ฟัง “ผีปีนโบสถ์”
เรื่องผีจริงจากประสบการณ์จริง : จังหวัดกาฬสินธุ์
เรื่องเล่านี้มาจากเพื่อนสนิทของผู้เขียนที่มีชื่อว่า “แพน” ที่ได้ประสบกับตัวเองในขณะที่กำลังบวชเป็นพระ ณ วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดกาฬสินธุ์ สำหรับเรื่องราวที่ชวนน่าขนหัวลุกนี้ มีเรื่องราวที่น่าสนใจดังต่อไปนี้..
.
ราวปี พ.ศ.2552...
เขาได้บวชทดแทนคุณให้กับพ่อแม่ ณ วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดกาฬสินธุ์ (*ผู้เขียนเองก็ไปรวมงานบวชด้วยเช่นกัน) ที่วัดแห่งนี้ พระทุกรูปจะแยกกันจำวัด หนึ่งรูปต่อหนึ่งกุฎิ โดยแต่ละแห่งตั้งอยู่ไม่ห่างกันนักและตั้งอยู่รอบโบสถ์ ในคืนที่ 1-2 เหตุการณ์ทุกอย่างในตอนกลางคืนก็เงียบสงบอย่างที่ควรจะเป็น แต่ในคืนที่ 3 ขณะกำลังจำวัดอยู่ราวเที่ยงคืน เขาก็ได้ยินเสียงแปลกประหลาดคล้ายกับมีคนกำลังวิ่งไปมาอยู่แถวโบสถ์
ด้วยความสงสัย เขาเลยถือไฟฉายเดินลงจากกุฎิไปยังโบสถ์ที่อยู่ห่างไปเล็กน้อย เป็นจังหวะเดียวกับที่หลวงพี่อีกรูปที่บวชในวันเดียวกันก็ถือไฟฉายเดินลงมาจากอีกกุฎิเช่นกัน ทั้งสองรูปจึงเดินไปรวมตัวกันแล้วสอบถามได้ความว่าได้ยินเสียงประหลาดเหมือนกันเลยลงมาหาความจริง เพราะกลัวว่าจะเป็นขโมยมาลักขโมยของในวัด
หลวงพี่ทั้งสองรูปเดินไปที่บริเวณทางเข้าด้านหน้าของโบสถ์ด้วยกัน พร้อมกับส่องไฟฉายกวาดหาที่มาของเสียง จนกระทั่งถึงประตูทางเข้าโบสถ์ด้านนอก ไม่รู้อะไรดลใจให้กวาดไฟฉายขึ้นไปบนหลังคาโบสถ์และได้พบกับร่างของใครบางคนนั่งเป็นเงาตะคุ่มอยู่หลังคา
“โยม... ทำอะไรอยู่น่ะ!?” เขาพลังปากถามออกไป โดยไม่ได้เอะใจว่าคนปกติที่ไหนจะปีนขึ้นไปบนหลังคาโบสถ์ในตอนกลางดึก!?
ร่างนั้นหันกลับมามองพระทั้งสองรูป ก่อนจะตะคอกเสียงดังกลับมาว่า
“พวกมมึงอย่ามายุ่ง!”
พอพูดจบร่างนั้นก็วิ่งไปบนหลังคาโบสถ์ แล้วกระโดดลงที่ท้ายโบสถ์ก่อนจะหายไปกับความมืด ตอนนั้นพระทั้งสองรูปมั่นใจแล้วว่า สิ่งที่ได้เห็นไม่ใช่มนุษย์อย่างแน่นอน...
รุ่งเช้า.. หลวงพี่ที่เห็นเหตุการณ์ประหลาดด้วยกันขอลาสิกขาทันที!
เพื่อนของผู้เขียนได้กราบนมัสการหลวงพ่อ พร้อมกับสอบถามว่าสิ่งที่ได้เห็นนั้นคืออะไรกันแน่!?
หลวงพ่อท่านเล่าว่า สิ่งที่เห็นคือวิญญาณบาปของคนบาปหนาที่อยากได้ อยากมี อยากเป็นเจ้าของสิ่งของในวัด เมื่อตายไปกลายเป็นผีก็ยังไม่สำนึก ยังคงแสดงอำนาจบาตรใหญ่โดยการมาปีนขึ้นไปอยู่เหนือโบสถ์อย่างไม่เกรงกลัว วนเวียนเช่นนี้ไปซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดกาล แต่เขาไม่ได้ทำร้ายใคร เพียงแค่ทำพฤติกรรมที่ยึดติดกับสิ่งที่ตัวเองต้องการเท่านั้น...
อย่างไรก็ตาม.. เขาเล่าว่าหลังจากนั้น ก็ได้เห็นวิญญาณตนนี้อีกหลายครั้ง และบางครั้งก็วิ่งปีนขึ้นโบสถ์แล้วกระโดดลงหลายต่อหลายรอบวนไปเวียนมาตลอดทั้งคืน จนกลายเป็นเรื่องธรรมดาชินชาไม่หวาดกลัวตลอดระยะเวลาในการจำวัดกว่าสามเดือนไปเสียแล้ว...