ฮิโตบาชิระ (Hitobashira) พิธีกรรมเสามนุษย์ กลบฝังทั้งเป็น ความเชื่อสุดสยองของประเทศญี่ปุ่น

ฮิโตบาชิระ (Hitobashira) เป็นหนึ่งในพิธีกรรมโบราณของประเทศญี่ปุ่นที่เต็มไปดด้วยความสะพรึงกลัว ด้วยการนำมนุษย์มา “ฝังทั้งเป็น” เพื่อใช้เป็นรากฐานของสิ่งปลูกสร้างที่มีความสำคัญ เช่น สะพาน เชื่อน อุโมงค์ โดยเฉพาะปราสาท เป็นต้น ความเชื่อนี้ได้รับความนิยมอย่างมากจนถึงช่วงศตวรรษที่ 16 อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือว่าพิธีกรรมฮิโตบาชิระยังถูกนำมาใช้กับบางโครงการก่อสร้างในช่วงศตวรรษที่ 20!?
ความเชื่อของพิธีกรรมเสามนุษย์

ฮิโตบาชิระ เป็นพิธีกรรมเสียสละ เชื่อกันว่าการบูชายัญด้วยวิญญาณของมนุษย์จะช่วยทำให้วิญญาณแห่งธรรมชาติที่สิงสถิตอยู่ ณ สถานที่ที่กำลังก่อสร้างเกิดความพึงพอใจ โดยเฉพาะวิญญาณแห่งแม่น้ำ ทำให้พิธีกรรมนี้ ได้รับความนิยมอย่างมากในพื้นที่ที่มักประสบปัญหาน้ำท่วม อีกทั้งยังเชื่อว่าจะช่วยป้องกันปราสาทจากการถูกโจมตีด้วยไฟ หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติอื่นอีกด้วย
มนุษย์ที่เป็นเครื่องสังเวย ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเสาของอาคารตามชื่อ แต่จะทำหน้าที่เป็นเสาหลักในการเชื่อมต่อกับเทพเจ้า และหลายครั้งหลังจากที่ทำพิธีกรรมแล้วจะมีการตั้งอนุสรณ์หินขนาดเล็กขึ้นมาเพื่อเป็นเกียรติให้กับฮิโตบาชิระ บางส่วนของอนุสรณ์เหล่านี้ก็ยังคงหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบันนี้
ตำนานที่มีชื่อเสียงของฮิโตบาชิระ
ปราสาทที่มีชื่อเสียงหลายแห่งในประเทศญี่ปุ่นมีเรื่องเล่าขานที่เชื่อมโยงกับฮิโตบาชิระ เช่น ปราสาทมารุโอกะ ในจังหวัดฟุคุอิ เป็นหนึ่งในปราสาทเก่าแก่ที่ยังคงหลงเหลืออยู่เอง ก็เชื่อกันว่ามีฮิโตบาชิระอยู่บริเวณเสากลางของปราสาทเช่นกัน
เรื่องเล่าเกี่ยวกับฮิโตบาชิระของปราสาทมารุโอกะ มีดังต่อไปนี้..
ในขณะที่กำลังก่อสร้างปราสาท เหล่านายช่างต้องประสบกับปัญหาหาชวนปวดหัวเมื่อกำแพงเกิดการพังทลายลงไม่ว่าจะซ่อมแซมสักกี่ครั้งผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม จนกระทั่งได้มีการตัดสินใจว่าทำการสังเวยมนุษย์ให้เป็นฮิโตบาชิระ เพื่อให้ปราสาทมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น

ความเชื่อดังกล่าว ทำให้หญิงตาเดียวนามว่า “โอชิสึ” ได้รับการคัดเลือก โดยยื่นข้อเสนอที่ยากปฏิเสธว่าหากเธอยอมเสียสละตัวเอง ลูกชายของเธอจะได้กลายมาเป็นซามูไร แต่หลังจากที่เธอได้กลายมาเป็นฮิโตบาชิระ เจ้านายของปราสาทที่ได้สัญญากับเธอเอาไว้กลับถูกย้ายไปที่อื่นก่อนที่จะทำตามสัญญา ในขณะเดียวกันก็ไม่มีคนอื่นที่ทราบเกี่ยวกับสัญญาดังกล่าว
หลังจากนั้นทุกปี เมื่อคูน้ำของปราสาทเอ่อล้นยามฝนตกหนักในฤดูใบไม้ผลิ ชาวมารุโอกะเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ เป็นการแก้แค้นของโอชิสึ และเรียกสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักนี้ว่า “น้ำตาแห่งความโศกเศร้าของชิสึ” ทำให้เริ่มมีการสร้างศิลาจารึกสำหรับเธอขึ้นภายในบริเวณของปราสาท เพราะเชื่อว่าช่วยปลอบโยนวิญญาณของเธอให้สงบลง..

 
                     
                             
     
                                 
                                 
                                 
                                 
                                                             
                                                             
                                                             
                                                             
                                                            