อมรณา สารานุกรมแห่งความตาย อมรณา สารานุกรมแห่งความตาย
Ads
  • เรื่องผีสั้นๆ
  • หนังสยองขวัญ การ์ตูนผี และเพลงต้องสาป
  • เกมผี เกมสยองขวัญ

ผีกะ ปรสิตวิญญาณ เลี้ยงถูกคุณอนันต์ เลี้ยงผิดโทษมหันต์

  • 09-08-2022
  • มือปริศนา
  • 8,218
Line borderless Line borderless
ผีกะ ปรสิตวิญญาณ เลี้ยงถูกคุณอนันต์ เลี้ยงผิดโทษมหันต์

เมื่อประมาณ 150 ปี ก่อน โดยเฉพาะในช่วง พ.ศ.2410 – 2463  “ผีกะ” เป็นผีร้ายที่ชาวล้านนาในภาคเหนือของประเทศไทยพากันหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีลักษณะคล้ายกับโรคระบาดที่สามารถติดต่อกันได้ภายในครอบครัว และยังเป็นอันตรายกับคนอื่นโดยที่เจ้าตัวที่ถูกผีกะสิงสู่ไม่รู้ตัว ด้วยความหวาดกลัวทำให้คนในสมัยนั้นทำการตัดสินคนที่ “อาจจะ” เป็นผีกะด้วยการสังเกตอาการผิดปกติ หรือขอความช่วยเหลือจากหมอดู แล้วทำการขับไล่ผีกะออกไปจากหมู่บ้าน

ผีกะคืออะไร?

 

 

            “ผีกะ” เชื่อว่าเป็นผีประเภทหนึ่งของทางภาคเหนือ โดยพฤติกรรมของผีกะค่อนข้างที่จะเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก กลุ่มแรกบอกว่าผีกะเหมือนกับผีปอบของทางภาคเหนือ ในขณะที่อีกกลุ่มบอกว่าความเชื่อดังกล่าวเป็นเรื่องที่ผิด แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ ผีกะ เป็นผีที่ถูกเลี้ยงดูด้วยมนุษย์ ทำให้ผีกะเป็นหนึ่งในกลุ่มของ “ผีเลี้ยง” ที่มนุษย์เลี้ยงเอาไว้ใช้งาน โดยที่มาของผีกะเกิดขึ้นจากความไร้มารยาทบนโต๊ะอาหาร ใช้เรียกคนที่ทำการทานอาหารอย่างตะกละตะกรามทำให้ถูกเรียกย่อว่า “ผีกะ” หรือ ผี+ ตะกะ ที่เป็นการกินอย่างไม่รู้จักอิ่มไม่รู้จักพอ กินมากกว่าปกติ โดยความอยากของผีกะยังสามารถแบ่งออกได้อีก 2 ระดับ ตามประเภทของผีกะ

o   ผีกะทั่วไป เมื่อเข้าสิงมนุษย์จะทำให้เจ้าของร่างกินอาหารปริมาณมากอย่างไม่รู้จักอิ่ม

o   ผีกะชั่วร้าย เมื่อเข้าสิงมนุษย์จะทำให้หิวโหย อยากกินของพิสดาร ของสด ของคาว โดยเฉพาะเหยื่อที่ยังมีชีวิตจะยิ่งชอบมากเป็นพิเศษ และยังทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้กินอีกด้วย

            ถึงแม้ผีกะจะถูกจำแนกออกเป็นสองจำพวก แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ ผีกะ เป็นตัวแทนของเหตุการณ์วิปริตผิดธรรมชาติ หากมีมนุษย์ สัตว์เลี้ยงตายผิดธรรมชาติ หรือเกิดภัยแล้ง เก็บเกี่ยวข้าวได้น้อยกว่าปกติก็ล้วนแล้วแต่ถูกโทษให้เป็นฝีมือของผีกะทั้งสิ้น...

 

ลักษณะของผีกะ

            ผีกะ เป็นวิญญาณที่ถูกนำมาเลี้ยงเอาไว้ในหม้อดิน แล้วทำการห่อด้วยผ้าขาว โดยทำการส่งต่อเป็นมรดกภายในตระกูลจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง เชื่อกันว่าหากเลี้ยงดูดีผีกะก็จะให้คุณตอบแทน โดยผีกะจะเฝ้าดูแลทรัพย์สมบัติให้เป็นอย่างดี

            ผีกะ มีลักษณะที่ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะมีลักษณะที่เรียกได้ว่ามีความหลากหลายเป็นอย่างมาก แต่โดยทั่วไป ผีกะมักถูกแบ่งออกเป็น 2 ระดับ ตามความร้ายกาจ ดังต่อไปนี้

 

ผีกะธรรมดาทั่วไป

            ผีกะประเภทนี้ เป็นผีกะธรรมดาที่สามารถพบได้ทั่วไป ไม่ได้มีฤทธิ์เดชมากนัก ทำให้ถูกหมออาคมปราบ หรือขับไล่ได้โดยง่าย โดยผีกะทั่วไป มีดังต่อไปนี้

ผีกะดง

            ผีกะดง ปรากฏตัวบ่อยครั้งในนิทานพื้นบ้านของชาวจังหวัดเชียงใหม่ ผีกะประเภทนี้มีความดุร้าย วิ่งว่องไวเหมือนลมพัด มักออกหากินกันเป็นฝูงในตอนพลบค่ำ แต่ในขณะเดียวกันน้ำลายของมันก็เป็นยาวิเศษที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ทุกประเภท เชื่ออีกว่ายังช่วยทำให้อยู่ยงคงกระพันอีกด้วย

            มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับความวิเศษของน้ำลายผีกะดงเอาไว้ว่า มีชายคนหนึ่งรักชอบกับหญิงสาว แต่ถูกกีดกันยกหญิงสาวให้ชายผู้มั่งคั่ง และชายคนนั้นก็ได้ส่งลูกน้องให้มาทำร้ายชายหนุ่มจนปางตายก่อนลากไปทิ้งไว้ในป่าหมายให้สัตว์ร้ายลากไปกิน พลบค่ำฝูงผีกะที่ออกหากินมาพบกับชายหนุ่มที่นอนหมดสภาพอยู่ในป่า แต่ในขณะที่ผีกะกำลังลากชายหนุ่มไปเป็นมื้อเย็น เขากลับปลงจนไม่แสดงอาการหวาดกลัว ด้วยความแปลกใจหัวหน้าผีกะถึงได้สอบถามสาเหตุ จนเกิดความเห็นใจ และสัญญาว่าหากชายหนุ่มยอมรับฝูงผีกะเป็นผีประจำตระกูล ผีกะจะช่วยให้ได้สมหวัง ชายหนุ่มรับปาก ผีกะจึงรุมเลียทั้งตัวทำให้บาดแผลหาย และคงกระพันแม้ลูกน้องของชายผู้มั่งคั่งจะพยายามมากเพียงใดก็ไม่อาจทำร้ายเขาได้อีก

 

ผีกะอาคม

            เกิดขึ้นจากคนที่เรียนคาถาอาคา แต่ไม่ได้ทำการขึ้นครูก่อน ทำให้ถูกคำสาปที่อยู่ภายในตำราย้อนเข้าตัวจนกระทั่งกลายเป็นผีกะอย่างไม่รู้ตัว เมื่อตกกลางคืนผีกะก็จะบังคับจิตพาร่างต้นออกไปแสวงหาอาหารโดยมีรูปกายภายนอกที่จำแลงเหมือนกับร่างที่สิงสู่อยู่ทุกประการ

 

 

ผีกะประจำตระกูล

            ผีกะประจำตระกูล หรือผีกะเลี้ยง เป็นผีกะที่พบเห็นบ่อยที่สุดของภาคเหนือ เชื่อกันว่าบ้านไหนที่เลี้ยงผีกะข้าวในนาไม่ว่าจะปลุกบนที่ลุ่ม หรือบนดอน ไม่ว่าฝนจะตกหรือแห้งแล้งที่นาก็จะอุดมสมบูรณ์อยู่เสมอ แต่ถ้าหากเลี้ยงดูผีกะไม่ดีผีกะก็จะทำการออกหากินด้วยการสิงสู่ชาวบ้าน แต่ถ้าโดนหมอผีขับไล่ก็จะทำการประจานเจ้าของเพื่อให้เกิดความอับอาย นอกจากนี้ หากลูกสาวตระกูลไหนเลี้ยงดูผีกะ จะถูกเรียกว่า “สาวผีกะ” ทำให้ไม่ค่อยมีหนุ่มอยากเข้ามาจีบ เพราะกลัวว่าจะกลายเป็นทายาทผีกะหรือถูกผีกะที่คุ้มครองอยู่ทำร้าย ผีกะก็จะใช้พลังทำให้สาวคนนั้นมีเสน่ห์ดึงดูกมากขึ้น โดยเฉพาะในตอนกลางดึก

 

ผีกะตายโหง

 

            บางคนเมื่อสิ้นชีพก่อนวัยอันควร หรือที่เรียกว่าตายโหง แล้วยังมีจิตผูกพันกับทางโลกจึงยังคงสิงสู่อยู่กับสถานที่ที่ตนเองเสียชีวิต แต่เมื่ออยู่ไปนานเข้าก็จะเกิดความหิวกระหาย แล้วทำการเข้าสิงในคนที่มีจิตอ่อนแอจนทำให้กลายเป็นผีกะโดยไม่ทันรู้ตัว เชื่อกันว่าผีกะประเภทนี้มีฤติกรรมที่คล้ายกับ “ผีปอบ” โดยจะเข้าสิงคน แล้วทำรู้สึกหิวโหยอยากออกหาของสดของคาวกินเป็นอาหาร

 

นกเค้าผีกะ

            ผีกะที่ปรากฏตัวในรูปกายของนกเค้าแมว บ้างเชื่อว่าที่จริงนกเค้าเป็นสัตว์พาหนะของผีกะ โดยเฉพาะนกเค้าตัวเล็ก เมื่อมันไปเยือนบ้านไหนจะมีนกเค้าแมวมาร้องดัง “กูบแม่ม..” ติดกันหลายทั้งที่ไม่ใช่ฤดูออกหากิน (ฤดูหนาว) และหากตอนเช้าหากมีคนแปลกหน้าเข้ามาในหมู่บ้าน เชื่อกันว่าคนๆนั้นคือผีกะที่แปลงกายมาจากนกเค้าเมื่อคืน บ้างก็เชื่อว่านกเค้าเป็นสิ่งที่นำผีกะมายังบ้านของเหยื่อ ถ้าหากใครตกใจก็จะถูกผีกะเข้าสิง หรือบางครั้งผีกะก็จะแอบเข้าไปดูดเลือดคนในบ้านในตอนที่นอนหลับ โดยเลือกคนที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ซูบผอม เรี่ยวแรงน้อย นอกจากนี้บางคนยังเชื่อว่าที่จริงแล้วนกเค้าแมวกับผีกะเป็นอริกัน ดังนั้น การที่นกเค้าแมวร้อง เป็นสัญญาณเตือนคนในบ้านว่าผีกะกำลังจะมาให้ระวังตัว หรือเป็นการร้องเตือนภัยจากผีกะนั่นเอง

 

ผีกะพระ-นาง

            เป็นผีกะ ที่ชาวเหนือนิยมเลี้ยงกันมากที่สุดของนักร้อง นักดนตรี หรือคนที่เล่นลิเก เพราะเชื่อว่าแม้เจ้าของจะมีหน้าตาอัปลักษณ์จนคนอื่นเห็นต้องวิ่งหนี แต่ถ้าหากเลี้ยงผีกะพระ-นางเอาไว้ ในตอนกลางคืนผีกะก็จะปรากฏตัวพร้อมกับทำการเลียหน้าแปลงโฉมให้เจ้าของกลายเป็นหนุ่มหล่อสาวหลง สาวสวยรวยเสน่ห์ ยิ่งดึกเท่าไหร่ก็ยิ่งทวีความงดงามมากขึ้น แต่ความงามเหล่านี้จะเกิดขึ้นเฉพาะในตอนกลางคืนที่ผีกะปรากฏตัวออกมาเท่านั้น เชื่อกันว่ารูปร่างของผีกะประเภทนี้จะเหมือนกับค่างตัวเล็กสองตัวนั่งอยู่บนบ่าของผู้เลี้ยง

 

ผีกะที่มีฤทธิ์ร้ายกาจ

            ผีกะที่อยู่มานาน แต่ยังไม่ถูกสยบด้วยหมออาคม ก็จะค่อยๆสะสมฤทธิ์เดชจนกระทั่งกลายเป็น ผีกะที่เก่งกาจ และชั่วร้ายมากขึ้นกว่าเดิม โดยผีกะเหล่านี้ ได้แก่

 

ผีกะหงอน

            ผีกะหงอน มีความหมายถึงผีกะที่อยู่มานาน มีความแก่กล้าหนังเหนียว มีความชั่วร้าย ชื่นชอบการออกอาละวาด เหี้ยมโหด และชื่นชอบการทรมานเหยื่อ ผีกะหงอนเป็นผีที่ผู้ปราบต้องสู้รบตบมือด้วยหลายครั้ง ต้องทำพิธีกันหลายรอบ บางครั้งก็ต้องมาช่วยกันปราบกลายสำนักกว่าที่จะสามารถกำราบลงได้ ถ้าหากใครถูกผีกะหงอนเข้าสิงจะเกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรง จนกระทั่งถึงแก่ชีวิตไปในที่สุด

 

ผีม้าบ้อง

            เป็นผีกะที่ออกหากินในเส้นทางเดิมซ้ำๆ จนกลายสภาพเป็นเหมือนกับม้าชาวภาคเหนือจะเรียกกันว่าผีม้าบ้อง เชื่อว่าจะมีลักษณะเป็นม้ารูปร่างสูงใหญ่ออกวิ่งไปในตอนกลางคืน ถ้าบังเอิญเจอใครเข้าก็จะวิ่งเข้าไปใช้ขาหลังดีดจนบาดเจ็บ

ผีปอบ

            ผีกะที่กลายร่างเป็นผีปอบ มีนิสัยชื่นชอบการกินมนุษย์ในขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่ แต่ถ้าหากหาไม่ได้ก็จะกินไก่สดๆเพื่อประทังความหิวโหย เมื่อใครถูกผีปอบเข้าสิงจะมีดวงตาแดงก่ำ และมีเล็บมือที่งอกยาวออกมา นอกจากนี้ยังมีความทนทานของร่างกายอย่างมาก แม้ถูกฟัง แทง หรือยิงด้วยปืนก็ยังไม่ยอมตายง่ายๆ

ผีกะยักษ์

            เชื่อกันว่าผีกะยักษ์ถือกำเนิดมาจากพระภิกษุ หรือสามเณรที่ทำการทุศีล ทำให้ศีลขาดซ้ำไปมาขนกลายสภาพเป็นผีกะยักษ์ ผีกะประเภทนี้ แตกต่างจากผีกะทั่วไปอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีพลังอำนาจอย่างมาก โดยทั่วไปผีกะยักษ์จะทำหน้าที่เฝ้ารักษาวัดร้าง เจดีย์เก่า กรุสมบัติ และต้นไม้ในป่า เป็นต้น ปกติมันจะไม่ทำร้ายมนุษย์ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีมนุษย์ใจไม่ซื่อรุกรานป่า หรือหวังขุมสมบัติ ผีกะยักษ์ก็จะเข้าไปทำร้ายให้ถึงแก่ความตาย ดังนั้น จึงมีความเชื่อว่าถ้าหากสถานที่ใดมีผีกะยักษ์เฝ้าอยู่ ต้องเซ่นบวงสรวงก่อน เพื่อให้สามารถเข้าไปทำกิจธุระได้โดยปราศจากอันตราย

 

การเลี้ยงดูผีกะ

            ผู้ที่มีคาถาอาคมจะทำการเรียกผีกะให้ลงไปอยู่ในหม้อดิน จากนั้นใช้ผ้าขาวปิดเอาไว้ แล้วนำไปเก็บเอาไว้บนเสา เพดาน หรือคานบ้าน พร้อมกับทำการเซ่นไหว้ผีกะด้วยอาหารดังต่อไปนี้

o   ผู้ชายให้ทำการเซ่นไหว้ผีกะด้วยไข่ไก่ดิบ นำไปใส่ไว้ในหม้อดินวันละหนึ่งฟอง แล้วทำการเปลี่ยนไข่กลวงที่ถูกผีกะกินไปแล้วไปทิ้งเป็นประจำทุกวัน

o   ผู้หญิงให้ทำการเซ่นไหว้ด้วยเนื้อสัตว์ดิบๆ เป็นประจำทุกวัน

o   เซ่นไหว้ด้วยกรวยดอกไม้

            ผีกะที่อาศัยอยู่ในหม้อดินจะทำการสิงสู่อยู่ในสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่เติบโตเต็มที่ เช่น ลูกนกที่ขนยังไม่ขึ้น ลูกหนูที่ยังไม่ลืมตา หนอน เป็นต้น ถ้าหากมีสิ่งมีชีวิตเหล่านี้อาศัยอยู่ในหม้อต้องห้ามนำลงมาฆ่าอย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นผีกะจะเกิดความอาฆาตแค้นแล้วทำร้ายคนในบ้าน

            เชื่อกันว่าหากครอบครัวไหนทำการเลี้ยงผีกะ ครอบครัวดังกล่าวก็ต้องทำการสืบทอดการเลี้ยงผีกะด้วย และเมื่อทำการเลี้ยงดูผีกะจนครบกำหนด ก็จะสามารถทำการใช้งานผีกะให้ไปทำกิจธุระได้ตามที่ตนเองปราถนา..

 

การปรากฏตัวของผีกะ

            ผีกะ มักปรากฏตัวให้มนุษย์เห็นด้วยหลายสาเหตุ และโดยส่วนใหญ่แล้วจะออกหากินในตอนกลางคืน และเข้าทำร้ายคนที่ “ดวงตก ขวัญอ่อน เด็ก และคนที่เจ้าของผีกะไม่ชอบ” ถ้าหากมันเข้าสิงใครแล้วไม่ถูกปราบในท้ายที่สุดคนนั้นก็จะเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ

 

ปรากฏตัวเพราะเจ้าของสั่ง

          ผู้ที่เลี้ยงผีกะหลายคน มักสั่งให้ผีกะออกไปทำร้ายคู่อริทั้งเพียงแค่ข่มขู่ให้หวาดกลัว ไปจนถึงการทำร้ายหมายปองเอาชีวิตกันเลยทีเดียว

 

ปรากฏตัวด้วยความอดอยาก

            ถ้าหากคนเลี้ยงผีกะไม่ดีเท่าที่ควรจนกระทั่งเกิดความอดอยาก ผีกะอาจเข้าสิงคนเลี้ยง แล้วออกไปตามหาของสด ของคาวกินเป็นอาหาร บางครั้งอาจรุนแรงถึงขนาดทำการแหวกท้อง แหกอกเอาตับไตไส้พุงของมนุษย์มากินกันเลยทีเดียว แต่โดยพื้นฐานแล้วผีกะในลักษณะนี้หากมีโอกาสจะทำการประจานว่าใครเป็นเจ้าของให้ชาวบ้านรู้ว่าเลี้ยงผีกะ จนกลายเป็นความอับอายอย่างมากเลยทีเดียว

ปรากฏตัวด้วยความอาฆาต

            ถ้าหากผีกะคิดอาฆาตผู้ใด มันจะปรากฏตัวในความฝัน บางครั้งอาจมาในรูปกายของหมาดำ พร้อมกับเข้ามาทำร้ายในฝัน แต่ถ้าหากใครสามารถชนะผีกะในความฝันได้ ผีกะก็จะไม่สามารถทำอันตรายได้ แต่ถ้าหากผีกะชนะหรือทำร้ายได้ เมื่อตื่นขึ้นมาก็จะเกิดอาการเจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ

            การเข้าสิงมนุษย์ของผีกะ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากความยินยอมของร่างต้นหรือไม่ก็ตาม เมื่อถูกสิงคนนั้นก็จะทำตัวแปลกไปกว่าปกติ และมีนิสัยเหมือนกับผีกะที่ทำการสิงตัวเอง

 

การสืบทายาทของผีกะ

            สำหรับการสืบทอดทายาทของเหล่าผีกะนั่น สามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ ดังต่อไปนี้

o   หากกินข้าวร่วมกันกับผีกะครบ 100 หม้อ หรือ 7 ไห ก็ต้องกลายเป็นผีกะ

o   หากร่วมหลับนอนกับผู้หญิงที่เป็นผีกะ ก็จะกลายเป็นผีกะ   

o   หากขุดพบแก้วแหวนเงินทองของผีกะโดยบังเอิญก็ต้องกลายเป็นเจ้าของผีกะ ในกรณีนี้เกิดขึ้นจากการที่ครอบครัวใดไร้ผู้สืบทอดเลี้ยงดูผีกะ ก็จะทำการนำเอาทรัพย์สินมีค่าไปฝังดินเอาไว้ในดินบริเวณบ้านของตัวเอง หากใครไม่เซ่นไหว้ดูแลต่อก็มีโอกาสที่จะถูกผีกะเข้าสิง

o   เลี้ยงผีกะประจำตระกูลไม่ดี ทำให้กลายเป็นผีกะทั้งครอบครัว และหากแต่งงานออกเรือนไปลูกสาวคนเล็กของครอบครัวใหม่จะกลายเป็นผีกะเสมอ จนกว่าตระกูลนั้นจะไร้ทายาทสืบทอด ถ้าหากครอบครัวได้ไม่ต้องการเลี้ยงดูผีกะแล้ว ให้เอาน้ำลายของคนที่กลายเป็นผีกะป้ายปากแมวโพง แมวตัวนั้นก็จะรับการสืบทอดการเป็นผีกะแทน

      ถึงแม้การสืบทายาทของผีกะจะมีหลายแบบ แต่เชื่อกันว่าคนที่สามารถส่งต่อความเป็นผีกะให้กับทายาทได้นั้นจะต้องเป็น “ผู้หญิง” หรือ “แม่บ้าน” เท่านั้น ทำให้เมื่อเกิดความเชื่อว่าผีกะออกอาละวาด ผู้หญิงที่เป็นแม่บ้านจึงมักตกเป็นผู้ต้องสงสัยรายแรกๆนั่นเอง...

 

การสังเกตว่าใครกำลังถูกผีกะเข้าสิง

            สำหรับการพิสูจน์ว่าใครกำลังถูกผีกะเข้าสิงนั้น สามารถทำได้หลายวิธี ดังต่อไปนี้

o   ใช้ใบตองของยอดตองกล้วยที่แผ่ปกเครือกล้วย (ตองกล้วยงำเครือ) มาเสกเป่าด้วยคาถา แล้วมองผ่านลอดใบกล้วยไปยังคนที่สงสัย บางตำราว่าใช้ใบพลูแทนได้เช่นกัน

o   ก้มมองลอดระหว่างขาของตัวเอง

            ถ้าหากทำตามวิธีในข้างต้นแล้ว พบว่ามีวอก 2 ตัว อยู่ข้างกาย หรือนั่งอยู่บนไหล่ทั้งสองข้างของคนที่กำลังสงสัย แสดงว่าคนผู้นั้นกำลังถูกผีกะเข้าสิง นอกจากนี้ยังสามารถสังเกตได้จาก “กลิ่นคาว” หากใครเป็นผีกะ คนนั้นจะมีกลิ่นคาวออกมาจากปากและทางลมหายใจ

 

การปราบผีกะ

            การปราบผีกะ สามารถทำได้โดยผู้ที่มีคาถาอาคม โดยจะมีขั้นตอนการขับไล่ หรือปราบให้สิ้นฤทธิ์ ถึงแม้จะใช้กระบวนวิธีการใดก็ตามแต่ก็เชื่อว่าจะมีคาถาอาคมเฉพาะที่เอาไว้จัดการกับผีกะโดยเฉพาะ สำหรับวิธีการในการขับไล่ผีกะเท่าที่สามารถรวบรวมมาได้นั้น  มีดังต่อไปนี้

o   หมออาคมจะทำการข่มขู่เพื่อให้ผีกะทำการบอกชื่อของตัวเอง และสาเหตุที่มาทำร้าย แล้วไล่ให้ออกจากร่าง

o   หมออาคมทำการเปล่าคาถาเสกใส่กระหม่อมของคนที่ถูกผีกะสิง หรือเสกน้ำพ่นใส่หน้า บ้างให้ดื่มน้ำมนต์  หรือกรอกปากคนที่ถูกผีกะเข้าสิงด้วยน้ำร้อน เพื่อบังคับให้บอกชื่อของเจ้าของผีกะออกมา

o   หากผีกะไม่ยอมออกจากร่าง หมออาคาจะใช้มีดขูดกะลามะพร้าว หรือเสกหม้อแกงดินเผาที่ใช้งานมานานแล้วนำไปครอบศีรษะของคนที่ถูกสิง จากนั้นทำการขูดก้นหม้อ ทำให้เส้นผมของเจ้าของผีกะร่วงเป็นแนวเดียวกับที่ทำการขูดเอาไว้ในวันรุ่งขึ้น

o   หากผีกะยังดื้อดึงไม่ยอมออกจากร่างอีก หมออาคมจะทำการเป่าพริกแห้งที่ถูกตำจนละเอียด หรือพริกไทย พ่นใส่หน้า หรือลูกตาของคนที่ถูกเข้าสิง จนทำให้ผีกะที่ไม่ถูกกับพริกต้องหนีออกจากร่าง และยังทำให้เจ้าของผีกะตาแดงในวันรุ่งขึ้นอีกด้วย ในบางตำรากล่าวว่าอาจใช้ข้าวสารเสกแทน แต่ไม่ค่อยได้ผลในการขับไล่ผีกะสักเท่าใดนัก

o   หมออาคมใช้ผ้ารองรอยต่อของหม้อนึ่งกับไหข้าว หรือที่เรียกกันว่า “เตี่ยวหม้อนึ่ง” มาทำการผูกรอบคอของคนที่ถูกผีกะเข้าสิง เชื่อว่าเทวดาที่คุ้มครองอยู่ภายในผ้าจะทำการขับไล่ผีกะออกไป

o   หมออาคมใช้หวายลงอาคมทำการเฆี่ยนเพื่อไล่ผีกะให้ออกจากร่าง

o   หมออาคมใช้ยาอาถรรพ์ที่ปรุงด้วยสูตรลับ นำมาลูบไล้ทั่วร่างของคนที่ถูกผีกะเข้าสิง

o   หมออาคมใช้การปลุกเสกต้นข่าแดง แล้วนำมาตีแทนคนที่ถูกสิง ทำให้ผีกะเกิดความเจ็บปวดทรมาน จนไม่สามารถทนสิงสู่อยู่ต่อไปได้

      ในบางพื้นที่เชื่อว่า หากผีกะเข้าสิงผู้หญิงสามารถไล่ให้ออกไปได้ด้วยวิธีที่ค่อนข้างป่าเถื่อน ด้วยการบังคับจับผู้หญิงคนนั้นแก้ผ้าประจาน หรือในกรณีที่หนักกว่าคือทำการข่มขืนผู้หญิงคนนั้นผีกะก็จะหนีออกไปจากร่างเอง แต่ความเชื่อดังกล่าว ขัดแย้งกับการสืบทอดทายาทของผีกะที่ได้กล่าวไปแล้วในตอนต้นว่าหากร่วมหลับนอนกับคนที่เป็นผีกะ ก็ต้องกลายเป็นผีกะด้วย ดังนั้น วิธีการข่มขืนผู้หญิงที่เป็นผีกะ จึงเป็นเพียงความเชื่อที่ไม่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด

 

การป้องกันตัวเองจากผีกะ

"ยันต์ก้อม" หรือ สักขาลาย ความเชื่อของชาวภาคเหนือ : เครดิตภาพ

 

            หมออาคม มักทำการป้องกันตัวเองและลูกหลานคนใกล้ชิดให้ปลอดภัยจากการทำร้ายของผีกะ โดยใช้คาถาต่อ 7 ตัว มักคอลูกหลานเอาไว้ เพื่อไม่ให้ผีกะเข้ามาทำร้ายได้ นอกจากนี้บางครั้งอาจใช้ด้ายสายสิญจน์ผูกแขนเพื่อป้องกันผี และป้องกันขวัญไม่ให้หลุดออกจากตัว เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ขวัญออกจากร่างก็จะทำให้เกิดปัญหาจิตตก ซึ่งเป็นช่องทางที่ทำให้ผีกะกลับมาทำร้ายได้อย่างง่ายดายมากขึ้นกว่าเดิม

            นอกจากนี้ยังมีการใช้ “ยันต์ก้อม” (การสักขาลาย) หรือ “ตะกรุด” มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม กว้าง x ยาว ไม่เกินหนึ่งนิ้ว ที่ลงด้วยอักขระหุ้มด้วยครั่งจนกลายเป็นก้อนวงรี ร้อยด้วยด้ายสีแดง นำมาผูกคล้องที่คอหรือข้อมือ

 

 

สัตว์ที่ผีกะเกลียด

            ผีกะ และเจ้าของผีกะ เกลียดบรรดานกที่สามารถเลียนแบบเสียงของมนุษย์ได้ เช่น นกเอี้ยงคำ หรือนกขุนทอง เป็นต้น ทำให้หลายครั้งนกเหล่านี้มักตายอย่างปริศนาตั้งแต่อายุยังน้อย เนื่องจากผีกะแอบลอบเข้ามาทำร้าย ทำให้ในชนบทหลายแห่งที่นิยมเลี้ยงนกเหล่านี้จะมีการห้อยยันต์ผีกะเอาไว้ที่กรงนก เพื่อสวัสดิภาพของเหล่านกนั่นเอง

 

ผีกะกับวิทยาศาสตร์

 

            หลายคนเชื่อว่าที่จริงแล้ว ผีกะเป็นการแสดงออกของอาการทางจิตประเภทหนึ่งทำให้นิยมทานอาหารดิบ อาหารคาว อาหารกึ่งสุดกึ่งดิบ หรือกลุ่มคนที่นิยมอาหารประเภทเปิบพิสดาร เมื่อชาวบ้านไปเห็นเข้า ทำให้เกิดความเชื่อ และเสียงเล่าลือต่อกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งใจความผิดเพี้ยนไปกลายเป็นลักษณะของผีกะที่มีความน่าสะพรึงกลัวชอบกัดกินสัตว์สดๆ นั่นเอง...

            ผีกะ อาจเป็นเพียงหนึ่งในความเชื่อของชาวภาคเหนือที่ถูกนำมาใช้เสมือนกับกฎหมายประเพณี หรือการใส่ร้ายคนที่เจ้าเมืองไม่ชอบหน้า ให้กลายเป็นที่น่ารังเกียจกระทั่งไม่ได้รับการยอมรับในสังคมและถูกลงโทษกีดกันในฐานะผีกะ รวมไปถึงครอบครัวของผีกะจนกระทั่งได้รับความอับอาย เมื่อทนไม่ไหวต้องย้ายถิ่นฐานไปอาศัยอยู่ที่อื่นในที่สุดนั่นเอง...

 

ผีภาคเหนือ ผีไทย
แบ่งปัน:
Line borderless Line borderless

ประวัติศาสตรผี ปีศาจ และอมนุษย์ทั่วโลก

  • สัตว์ประหลาดในตำนาน นิทานพื้นบ้านและภูตจากทั่วโลก (39)
  • ตำนานเมืองสยองขวัญทั่วโลก (58)
  • ผีในทวีปออสเตรเลีย (3)
  • เรื่องราวแปลกประหลาดและน่าสนใจทั่วโลก (30)
  • พ่อมดและแม่มด เวทมนตร์ อัญมณีและของขลัง (43)
  • เกมผี เกมสยองขวัญ (35)
  • ผีในประเทศญี่ปุ่น (348)
  • หนังสยองขวัญ การ์ตูนผี และเพลงต้องสาป (526)
  • ฆาตกรและปีศาจในคราบมนุษย์ (36)
  • เทพ ยมฑูต และเทวตำนาน (51)
  • ผีในทวีปแอฟริกา (8)
  • ผีในทวีปเอเชีย (53)
  • อมนุษย์ ปีศาจและเดรัจฉาน (96)
  • สถานที่สิงสู่ของผีเฮี้ยนทั่วโลก (286)
  • ความเชื่อ พิธีกรรมและสิ่งของต้องสาป (94)
  • เรื่องผีสั้นๆ (467)
  • ผีในทวีปยุโรปและอเมริกา (148)
  • ผีในประเทศไทย (43)
สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม
บัตรเครดิต ซิตี้ รอยัล ออร์คิด พลัส ซีเล็คท์
บัตรเครดิต KTC Royal Orchid Plus JCB Platinum
บัตรเครดิต ซิตี้ ลาซาด้า
บัตรเครดิต ซิตี้
บัตรเครดิต KTC Visa Platinum

ค้นหาจาก Tag ... คลิก!

[[รีวิวหนังสยองขวัญ แต่ไม่สปอย]] Mr.Brooks สุภาพบุรุษอำมหิต
Baguio Teachers Camp: ค่ายครูผีสิงแห่งประเทศฟิลิปปินส์
“ทดลองอดนอนสยองขวัญ” ตำนานเมืองชวนสยองของประเทศรัสเซีย
4 สถานที่ผีสิงที่เปิดให้เยี่ยมชมในประเทศสิงคโปร์
ตุ๊กตาผีสิง “Robert” ต้นกำเนิด “Chucky แค้นฝังหุ่น”
ไฮนุ (Hainu) สุนัขมีปีก สัตว์ประหลาดในตำนานของประเทศญี่ปุ่น
Copyrights © 2022 All Rights Reserved by amorerana.com.
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา