คิทสึเนะ โนะ โยเมริ (Kitsune no yomeiri) ขบวนแห่งานแต่งานที่สวยงามและน่าขนลุก ของภูติจิ้งจอกแห่งประเทศญี่ปุ่น
คิทสึเนะ โนะ โยเมริ (Kitsune no yomeiri) เป็นงานแต่งงานที่สวยงามและน่าขนลุก มันเป็นขบวนแห่ที่เดินนำหน้าบ่าวสาวภูตสุนัขจิ้งจอก มีลักษณะที่ดูคล้ายกับขบวนแห่เจ้าสาวของชาวญี่ปุ่นในสมัยก่อน เจ้าสาวจะเดินทางร่วมกับขบวนแห่ที่ประกับประดาด้วยโคมไฟกระดาษไปยังบ้านของเจ้าบ่าว คิทสึเนะ โนะ โยเมริจะปรากฏขึ้นในช่วงกลางคืนอันเงียบสงัดเป็นแสงไฟกลมลอยอยู่เหนือพื้นดินที่เรียกกันว่า “คิสึเนบิ” เป็นเส้นทางยาว
บางครั้งคิทสึเนะ โนะ โยเมริ อาจถูกจัดขึ้นในตอนกลางวัน เหล่าภูตจิ้งจอกจะสร้างสายฝนขึ้นมาในระหว่างเส้นทางแห่ขบวน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มนุษย์เข้าไปในหุบเขาหรือแอบดูพิธีของพวกมัน ดังนั้น ผู้คนจึงเชื่อว่าการที่มีฝนตกทั้งที่แดดออกล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือของเหล่าภูตจิ้งจอกนั่นเอง
ตำนานที่น่าสนใจของคิทสึเนะ โนะ โยเมริ
นิทานพื้นบ้านของจังหวัดมิยาซากิ ได้พูดถึงชายคนหนึ่งที่กำลังเดินทางไปตามถนนในป่า ทันใดนั้นเอง ฝนก็พลันตกลงมา หลังจากนั้นเขาก็ได้เห็นหญิงสาวแสนสวยเดินอยู่บนถนน เธอหันกลับมาพร้อมกับยิ้มให้ เขาเลยเดินตามเธอและก็หันมายิ้มให้อีก ทุกครั้งที่ได้เห็นรอยยิ้มนั้นเขารู้สึกว่าหัวใจของตัวเองกำลังพองโตอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากนั้นหญิงสาวก็เดินเข้าไปในดงต้นไม้ แล้วหักกิ่งไม้สองสามกิ่งมาทำเป็นปิ่นปักผมที่สวยงาม จากนั้นเธอก็ลากนิ้วไปตามลำต้นไม้ใหญ่วนไปรอบๆ ณ ตอนนั้นเองเสื้อผ้าของเธอก็ได้เปลี่ยนเป็นชุดกิโมโนเจ้าสาวที่แสนสวยงาม
หญิงสาวเดินต่อไปจนถึงใกล้กับกอไผ่ ตอนนั้นเองที่สุนัขจิ้งจอกจำนวนนับไม่ถ้วนเริ่มโผล่ออกมาจากป่า พวกมันถือหีบไม้ยาวหรูหราและนำเกี้ยวมาให้เจ้าสาวคนนั้นขึ้นไปนั่ง คนที่เดินเข้ามาร่วมขบวนแห่ล้วนแล้วแต่สวมชุดกิโมโนที่สวยงามประดับประดาด้วยตราประจำตระกูล
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาเดินตามขบวนแห่ลึกเข้าไปในภูเขาเป็นเวลานาน จนกระทั่งถึงคฤหาสน์หลังหนึ่งที่หลังคาทำจากฟาง ภูตจิ้งจอกทั้งหมดเข้าไปในนั้น เขาจึงมองหาช่องที่จะแอบมองข้างในได้จนกระทั่งพบรูขนาดเล็กสูงขึ้นไปบนกำแพง ที่นั่นเขาสามารถมองเห็นด้านในที่ตกแต่งด้วยโต๊ะอาหารราคาแพงและบรรดาภูตจิ้งจอกทั้งหมดนั่งลง
หลังจากที่เฝ้ามองอยู่ครู่หนึ่งเขากเริ่มเหนื่อยล้าจนตกลงมาจากช่องแอบมอง เขาเลยจุดคบไฟของตัวเองขึ้น ในตอนนั้นเองที่เขากลับพบว่าทิวทัศน์อันน่าตื่นตาตื่นใจเมื่อสักครู่ได้หายไปจนหมด คฤหาสน์ที่เห็นก็เป็นเพียงศาลเจ้าที่ทำขึ้นจากไม้มุงหลังคาด้วยฟาง สิ่งที่เขาปีนขึ้นไปแอบมองก็คือโคมไฟหินขนาดใหญ่ และรูที่มองลอดเข้าไปก็รูกลมจองโคมไฟนั่นเอง...