LaLaurie Mansion คฤหาสน์ที่เต็มไปด้วยวิญญาณแห่งความทุกข์ทรมานแห่งเมืองนิวออร์ลีน ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมืองนิวออร์ลีน ประเทศสหรัฐอเมริกา มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องราวอาถรรพ์มากมาย ถึงขนาดที่อสังหาริมทรัพย์ที่ซื้อ-ขายกันในเมืองนี้มีรายละเอียดว่ามี “ผีสิงหรือเปล่า!?” กันเลยทีเดียว ซึ่งหนึ่งในอาคารที่ได้รับการขนานนามว่ามีดุมากที่สุดก็คือLaLaurie Mansion คฤหาสน์ผี นั่นเอง...
ประวัติศาสตร์มืดที่เต็มไปด้วยการทรมานของคฤหาสน์ผีดุ LaLaurie Mansion
Delphine LaLaurie
LaLaurie Mansion ตั้งอยู่ที่ 1140 Royal Street เป็นหนึ่งในสถานที่ที่เต็มไปด้วยข่าวลืออันเลวร้ายและเชื่อกันว่ามีวิญญาณที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานติดอยู่ในนั้น แถมวิญญาณตนนี้ก็พร้อมที่จะหลอกหลอนผู้มาเยือนให้ขนลุกอย่างเต็มที่อีกด้วย ซึ่งเจ้าของวิญญาณนี้เชื่อกันว่าคือ "Mad" Madame Delphine LaLaurie
Delphine LaLaurie เกิดมาพร้อมกับความมั่งคั่งและอำนาจทางการเมืองมากมายในปี 1787 แต่ตำนานที่น่ากลัวของเธอเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ได้พบกับสามีคนที่สาม Leonard Louis Nicolas LaLaurie แพทย์ชาวฝรั่งเศส หลังจากพบรักกันทั้งคู่ได้ย้ายมาอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ LaLaurie Mansion ในปี 1931 พร้อมกับจัดงานเลี้ยงทางสังคมที่หรูหราฟุ่มเฟือยอยู่เป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเบื้องหลังของงานเลี้ยงอันหรูหราสวยงามนั้นมีน้ำตาและคาวเลือดซ่อนอยู่ หลังจากที่เริ่มมีข่าวลือว่าทาสในคฤหาสน์ LaLaurie Mansion ถูกทารุณกรรม ในปี 1833 หลังจากที่เพื่อนบ้านพบเห็น Delphine LaLaurie กำลังไล่ล่าทาสสาวที่ชื่อว่า Leia ด้วยแส้ ทาสที่น่าสงสารและเต็มไปด้วยความหวาดกลัวพยายามหนีเอาตัวรอดจนกระทั่งกระโดดจากหน้าต่างชั้นบนตกลงมาตายที่ลานบ้าน เพื่อเป็นการปกปิดการกระทำที่โหดเหี้ยม Delphine LaLaurie ได้ทำการฝังศพของทาสสาวเอาไว้ ณ มุมหนึ่งของสวนในเขตของคฤหาสน์ LaLaurie Mansion รายงานการละเมิดดังกล่าวถูกรายงานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำไปสู่การสอบสวน ในที่สุดเธอก็ถูกตั้งข้อหาทารุณกรรมทำให้ต้องสูญเสียทาสจำนวนมาก
ในปี 1834 การทารุณกรรมของเธอได้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง เมื่อหญิงชราวัย 70 ปี ที่ถูกล่ามโซ่เอาไว้กับเตาเผาตัดสินใจที่จะจุดไฟในเตาเผาให้ไหม้ตัวเองตายดีกว่ายอมถูกพาตัวขึ้นไปบนชั้นบนสุดของคฤหาสน์ LaLaurie Mansion ที่ไม่เคยมีใครได้กลับมา ไฟที่โหมอย่างรุนแรงไม่เพียงคร่าชีวิตของหญิงชรา แต่มันยังไหม้พื้นที่ส่วนใหญ่ของบ้าน ในขณะเดียวกันมันก็ช่วยเผยความจริงให้เห็นสภาพของทาสที่ถูกทรมานและกักขังเอาไว้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงรีบรุดมาทำหน้าที่ของตัวเอง แต่สิ่งที่พวกเขาพบหลังกำแพงที่พังทำให้ต้องขยะแขยง หลังควบคุมเพลิงได้สำเร็จ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ได้เข้าช่วยเหลือทาสที่ยังมีชีวิตอยู่พร้อมกับกำจัดซากของทาสที่เสียชีวิต
ดูเหมือนว่า Delphine LaLaurie จะทำการทดลองทางการแพทย์กับทาสของตัวเองอย่างเมามัน เพราะในห้องทรมานของเธอเต็มประด้วยความน่าสะพรึงกลัว เช่น ทาสที่ถูกลอกผิวหนังออกไป บางคนถูกหักกระดูกโดยตั้งใจให้อยู่ในตำแหน่งที่แปลกประหลาด บางรายถูกนำมูลสัตว์ใส่ในปากแล้วทำการเย็บปิด แต่ที่เลวร้ายที่สุดคือคนที่ถูกเปิดกะโหลกศีรษะพร้อมกับใช้ไม้กวนสมองจนแหลกเหลว เป็นต้น
ความน่าสะพรึงกลัวที่ซ่อนอยู่หลังกำแพงทำให้ชาวเมืองโกรธแค้น บันทึกเล่าว่าฝูงชนจำนวนมากรวมตัวกันอยู่นอกคฤหาสน์ LaLaurie Mansion ที่ถูกไฟเผาเพื่อรอฟังการพิพากษาผู้หญิงโรคจิตที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยรู้จัก แต่คำตัดสินไม่เคยเกิดขึ้นเมื่อเธอหลบหนีไปยังท่าเรือด้วยรถม้าและไม่เคยกลับมาที่คฤหาสน์ LaLaurie Mansion อีก ทำให้ฝูงชนที่เกรี้ยวกราดบุกเข้าไปทำลายทรัพย์สินภายในบ้านและบางคนก็ได้ขโมยทรัพย์สินติดมือกลับมาด้วย
คฤหาสน์ LaLaurie Mansion ถูกทิ้งให้ทรุดโทรมอยู่นานหลายปี จนกระทั่งได้รับการบูรณะซ่อมแซม คนงานที่ทำหน้าที่ดังกล่าวได้ค้นพบซากโครงกระดูกของมนุษย์ 3 คน ในสนามและใต้พื้นบ้านที่เชื่อว่าเป็นของทาสในบ้านที่ถูกฆาตกรรม และสิ่งเหล่านี้เองเป็นสาเหตุที่ทำให้เชื่อว่ามีวิญญาณที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานมากมายติดอยู่ในคฤหาสน์ผีดุ LaLaurie Mansion
เรื่องราวของภูตผีชวนสยองขวัญในคฤหาสน์ผีสิง LaLaurie Mansion
จากประวัติศาสตร์และเรื่องราวอันดำมืดยิ่งกว่าท้องฟ้ายามราตรีของคฤหาสน์ LaLaurie Mansion ทำให้หลายคนไม่แปลกใจที่จะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีมากมาย ผู้คนที่เดินผ่านคฤหาสน์ LaLaurie Mansion อ้างว่ามักได้ยินเสียงกรีดร้องและร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดดังมาจากอาคารที่ว่างเปล่า และยังมีคนพบเงาปริศนาที่ปรากฏขึ้นก่อนที่จะหายไปขนระเบียงเหล็ก
หลายปีหลังการบูรณะ ผู้อยู่อาศัยใหม่ได้ย้ายเข้ามาอาศัยใน LaLaurie Mansion แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ทุกคนที่ได้รับการต้อนรับ ส่วนใหญ่มักจะทนอยู่ได้ไม่นานและต้องรีบย้ายออกหลังจากที่ต้องเผชิญหน้ากับวิญญาณจำนวนมาก ท่ามกลางการปรากฏตัวที่น่าหวาดกลัวมีเรื่องราวหนึ่งที่โดดเด่นมากที่สุด คือ วิญญาณของ “ชายเปลือย” ที่ถูกล่ามโซ่เข้ามาทำร้าย บางคนพบกับวิญญาณที่เหมือนกับอยู่ใต้ผ้าห่อซ้อนกันหลายชั้น และยังมีคนที่ตื่นขึ้นมาพบกับผู้หญิงร่างท้วมที่กำลังยืนอยู่เหนือเปลเด็ก ยังไม่รวมรายงานของเสียงฝีเท้า เสียงร้อนครวญคราง เสียงกรีดร้องและการปรากฏตัวของสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น เป็นต้น
ในช่วงเวลาหนึ่งคฤหาสน์ผีดุ LaLaurie Mansion ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นโรงเรียนประถมหญิงล้วน แต่หลังจากที่ถูกหลอกหลอนด้วยวิญญาณของ Madame LaLaurie และนักเรียนเริ่มถูกเล่นงานจากสิ่งที่มองไม่เห็นจนเกิดรอยฟกช้ำและร่องรอยที่คล้ายกับถูกฟาดด้วยแส้ ที่ Madame LaLaurie มักใช้ลงโทษทาสของตัวเองในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ทำให้ทางโรงเรียนต้องไปหาสถานที่อื่นแทน ต่อมามันได้กลายมาเป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์ แต่ก็ดำเนินธุรกิจได้ไม่นานนักเมื่อสินค้าในโกดังถูกทำลายเสียหายจากสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้!
ในปี 1894 ชายคนหนึ่งที่เช่าห้องอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ผีดุ LaLaurie Mansion ถูกฆาตกรรม เพื่อนบ้านบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ผู้เสียชีวิตอ้างว่ามีปีศาจอยู่ในห้องพักของเขา และมันมีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะเห็นเขา “ตาย”
การเยี่ยมชมคฤหาสน์ผีดุ LaLaurie Mansion
นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาที่คฤหาสน์ผีดุ LaLaurie Mansion เนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของทัวร์ผี และยังได้รับการดูแลอย่างดีในฐานะของคฤหาสน์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวอันเลวร้ายเพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจของคนรุ่นหลัง น่าเสียดายที่ LaLaurie Mansion เป็นทรัพย์สินส่วนตัวและไม่ได้เปิดให้คนทั่วไปเข้าชม แต่คนที่สนใจก็สามารถชมคฤหาสน์ผีดุ LaLaurie Mansion ได้จากถนนด้านนอก และไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นผู้คนจำนวนมากมายืนดูคฤหาสน์ผีดุแห่งนี้ทั้งตอนกลางวันและกลางคืนโดยคาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรบางอย่างที่น่าสะพรึงกลัว....