พรอปโปบาว่า ฝันร้ายแห่งแทนซาเนีย
“โบโบบาวา” หรือ Popobawa.. เป็นสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายที่ชื่นชอบการลอบสะกดรอยเหยื่อในสหราธารณรัฐแทนซาเนีย
โดยเฉพาะบนเกาะแซนซิบาร์ ที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ความน่าสนใจคือ
โบโบบาวามีความสามารถในการเปลี่ยนรูปร่างได้ตามใจปารถนา
ทำให้บางครั้งลักษณะเหมือนกับมนุษย์ บางครั้งมีรูปร่างเหมือนค้างคาวที่มีตาเดียว ปีศาจตนนี้จะออกหากกินในเวลากลางคืน
แต่มีหลายคนที่อ้างว่าเคยเห็นมันในเวลากลางวัน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ
พวกมันชอบล่าเหยื่อที่เป็นผู้ชาย ด้วยการข่มขืน!?
ต้นกำเนิดของโบโบบาวา
พรอปโปบาว่าเป็นเรื่องราวลี้ลับที่ค่อนข้างใหม่
เพราะมีการพูดถึงพวกมันเพียงไม่กี่สิบปี และยังมีต้นกำเนิดที่ไม่ชัดเจน
บ้างก็เชื่อกันว่าที่จริงแล้วมันคือ “จิน” ที่ถูกชาวอาหรับที่โกรธแค้นเพื่อนบ้านปล่อยออกไปให้ทำร้ายศัตรู
แต่เกิดสูญเสียการควบคุม ทำให้จินกลายเป็นปีศาจร้าย
บางก็ว่าที่จริงแล้วมันเป็นอดีตทาสที่โกรธแค้นจนกระทั่งตายกลายมาเป็นปีศาจที่คอยข่มเหงคนอื่นเพื่อให้รับรู้รสชาติของความเป็นทาส
นอกจากนี้ Sheikh
Yahya Hussein นักโหราศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของแทนซาเนีย อ้างว่าโบโบบาวาคือปีศาจที่ถูกแม่มดปลดปล่อยออกมาเพื่อคอยเฝ้าทรมานศัตรู..
ประวัติศาตร์แห่งการปรากฏตัวพร้อมความโกลาหลของโบโบบาวา
เชื่อกันว่าพรอปโปบาว่าปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกในปี
ค.ศ. 1995 ความหวาดกลัวของปีศาจตัวนี้แพร่กระจายไปยังหมู่เกาะต่างๆข้างเคียงอย่างรวดเร็ว
จนถึงชายฝั่งแอฟริกาตะวันออก โดยที่มาของชื่อพรอปโปบาว่ามาจากภาษาสวาฮิลี โดยคำว่า
Popo ที่แปลว่า
“ค้างค้าว” และ “Bawa” ที่แปลว่าปีก ซึ่งเป็นการอธิบายลักษณะของมันที่มีรูปร่างคล้ายกับเงาดำที่มีปีกเหมือนกับค้างคาวที่จู่โจมเหยื่อในตอนกลางคืน
นอกจากนี้ยังเชื่อว่าเมื่อมันปรากฏตัวจะได้กลิ่นสาปคล้าย“กำมะถัน”
ลอบมาตามลมอีกด้วย
โบโบบาวาจะทำการจู่โจมเหยื่อด้วยการทำให้เป็นอัมพาธ
หรือบีบซี่โครงของเหยื่อให้เจ็บปวดจนกระทั่งหมดสติ
หรือทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่อธิบายไม่ได้คล้ายกับการถูกหลอกหลอนเหมือนกับวิญญาณทั่วไป
แต่การจู่โจมที่น่ากลัวที่สุดของโบโบบาวาคือ การข่มขื่นทางทวารหนักของผู้ชาย
และผู้หญิง
โดยการลอบเข้ามาในห้องนอนกลางดึกแล้วจัดการกับเหยื่อที่กำลังหลับใหลอยู่บนเตียง
อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าสนใจคือ
ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อกามของโบโบบาวาจะต้องหาเหยื่อรายใหม่ให้กับพวกมัน
ด้วยการบอกกับคนอื่นว่าตัวเองตกเป็นเหยื่อของพรอปโปบาว่าไม่เช่นนั้นพวกเขาจะยังถูกเยี่ยมเยือนและล่วงละเมิดทางเพศโดยปีศาจตนนี้อีกหลายต่อหลายครั้ง
และทุกครั้งจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น เชื่อกันว่าในบางครั้งการนอนกระตุก
เป็นหนึ่งในสิ่งที่แสดงให้เห็นว่ากำลังตกเป็นเหยื่อของพวกมันเช่นกัน
นอกจากนี้โบโบบาวาจะยิ่งโกรธเกรี้ยวมากขึ้นหากถูกปฏิเสธการมีตัวตน
นอกจากนี้โบโบบาวาจะโจมตีทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง หรือเด็ก
ในบางครั้งมันอาจเล่นงานสมาชิกในครอบครัวจนครบทุกคน ก่อนจะย้ายไปโมตีครอบครัวอื่นที่อยู่ใกล้เคียง
ทำให้ความหวาดกลัวพวกมันยิ่งแพร่ไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับเชื้อโรคแห่งความที่ลุกลามอย่างที่ไม่อาจหยุดยั้งได้
ในปี
ค.ศ.1971 พรอปโปบาว่าได้ทำการสื่อสารกับกลุ่มชาวบ้านใน Pemba
ผ่านการเข้าสิงผู้หญิงที่มีชื่อว่า “ฟาติมา” เธอพูดกับคนอื่นๆด้วยเสียงทุ่มลึกของผู้ชาย
จากนั้นชาวบ้านก็ได้ยินเสียงของล้อรถหมุน และสั่งอยู่บนหลังคาใกล้ๆ
พรอปโปบาว่าปีศาจจอมล่วงละเมิดบุรุษ
ในเวลาเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมายังคงมีรายงานการล่วงละเมิดของปีศาจตนนี้
จนทำให้เกิดความตื่นตระหนกไปทั่ว แม้แต่สื่อมวลชนยักษ์ใหญ่อย่าง BBC ก็ยังเคยรายงานเกี่ยวกับการโจมตีของพรอปโปบาว่าในปี
2007 ชาวบ้านมากมายไม่ยอมหลับนอนในตอนกลางคืน หรือนอนรวมกันเป็นกลุ่มเพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเป้าหมาย
หลายคนออกไปค้างแรมนอกบ้าน ด้วยการรวมกลุ่มกันนั่งอยู่รอบกองไฟร่วมกับสมาชิกครอบครัว
และเพื่อนบ้านตลอดทั้งคืน โดยหนึ่งในกลุ่มจะต้องมีผู้ที่มีคาถาอาคม
หรือสามารถสื่อสารกับปีศาจได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่โบโบบาวาเข้ามาใกล้
ผู้ที่มีพลังพิเศษจะกรีดร้องขึ้นมาทำให้ทุกคนระวังตัวแล้วจับกลุ่มกันออกขับไล่โบโบบาวาจนกว่ามันจะหนีไป
นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า “น้ำมันหมู” สามารถช่วยขับไล่โบโบบาวาได้
หลายคนจึงใช้น้ำมันหมูทาจนทั่วตัว
ในขณะที่บางคนได้พยายามเอาอกเอาใจปีศาจด้วยการวางเครื่องราง
หรือนำแพะไปไว้ที่ใต้ต้นมะเดื่อ และมีความเชื่อว่าหากมันปรากฏตัวขึ้น
ให้เปิดไฟให้สว่างจะเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้มันเข้ามาถึงตัวได้เช่นกัน
แต่ดูเหมือนว่ากลยุทธ์เหล่านั้นจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก
Mjaka Hamad ชาวนาหนุ่ม
อ้างว่าเขาถูกโบโบบาวาจู่โจมในปี 1997 โดยบอกเล่าว่า เขามองไม่เห็นตัวของมัน
แต่รู้สึกได้ ในขณะที่คนในครอบครัวมองเห็นมันกำลังกรีดร้องอยู่ข้างนอก ทุกคนพากันหวาดกลัวอย่างมาก
หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกเจ็บปวดที่บริเวณกระดูกซี่โครงเหมือนกับถูกบดขยี้
อาจเป็นเพราะเขาไม่เชื่อเรื่องของภูติผีปีศาจ ทำให้โบโบบาวาโกรธและทำร้ายเขา
สุไลมาน
ชายชราที่ได้รับการนับถือเป็นคนหนึ่งที่โบโบบาวามาเยือน
ในคืนหนึ่งขณะที่พักผ่อนอยู่บ้าน เขาได้ยินภรรยาตะโกนจากอีกห้องว่า “ไปให้พ้น! ไปให้พ้น!” เขาวิ่งไปช่วยแล้วได้พบกับผู้ชายหนุ่มรูปงาม
ในสภาพเกือบเปลือยนั่งยองๆอยู่ข้างจักรยานในห้อง เขาตะโกนไล่เสียงดังทำให้เพื่อนบ้านเข้ามาช่วยเหลือ
แต่เมื่อมาถึงปรากฏกว่าโบโบบาวาได้ขึ้นไปบนหลังคาและหายตัวไป
ความหวาดกลัวโบโบบาวาที่นำไปสู่ความบ้าคลั่งของฝูงชน!
พรอปโปบาว่าออกมาหลอกหลอนผู้คนจนไม่เป็นอันหลับอันนอนหนักที่สุดในปี
ค.ศ.1995 ในปีนี้เชื่อว่ามีคนมากกว่า 70 ราย ที่ตกเป็นเหยื่อของพวกมัน และรายงานการปรากฏตัวครั้งสุดท้ายของพรอปโปบาว่า
คือ ปี ค.ศ.2007 ในช่วงเวลาที่ความหวาดกลัวโบโบบาวาอยู่ในจุดสูงสุด
ได้เกิดเหตุการณ์น่าเศร้าขึ้นมากมาย เช่น
ชาวบ้านบุกจับตัวหมอยาพื้นบ้านไปให้กับตำรวจเพราะเชื่อว่าเขาคือพรอปโปบาว่าหรือกลุ่มชาวบ้านที่ไล่ตามเงาปริศนาที่เชื่อว่าเป็นหนึ่งในพรอปโปบาว่าไปจนถึงโรงเรียนแห่งหนึ่ง
แต่โชคไม่ดีที่มีชายสติไม่ดียืนอยู่ในบริเวณนั้น เขาถูกรุมทำร้าย ทุบตี
ลากไปตามถนน จนทำให้บาดเจ็บสาหัส และอีกเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคือ ในปี 1995
เมื่อกลุ่มคนที่บ้าคลั่งในเมืองแซนซิบาร์ ได้รุมสังหารนักเดินทางจากแทนซาเนีย เพราะเชื่อว่าเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับการปรากฏตัวของพรอปโปบาว่าจากภาพนิมิตของหมอผีที่อ้างได้ว่าสัมผัสถึงพลังเวทมนต์ที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นปกคลุมร่างของชายคนนั้น
ชายคนนั้นไล่ล่าเขา หมอผีได้ชิงหาง และโถใส่ยากลิ่นฉุนของพรอปโปบาว่าทำให้มันแปลงร่างเป็นมนุษย์
หลังจากนั้นกลุ่มชาวบ้านที่บ้าคลั่งก็มาถึง
แล้วจบลงด้วยความตายของชายที่ถูกกล่าวหา...
พรอปโปบาว่ากับทฤษฎีสมคบคิดทางการเมือง
หลายคนได้ตั้งข้อสังเกตว่า
การปรากฏตัวของโบโบบาวามีความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเลือกตั้ง
ในช่วงเวลานั้นจะมีข่าวการพบเห็นพวกมันบ่อยครั้ง และข่าวจะหายไปจนกระทั่งมีการเลือกตั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง
เหมือนกับทางรัฐบาลพยายามใช้ความหวาดกลัวเป็นเครื่องมือในการช่วยรวบรวมคะแนนเสียงให้มากขึ้น
โดยอิงจากคำพูดของ Sheikh
Abeid A. Karume ประธานาธิบดีคนแรกของแซนซิบาร์ที่ท้าทายโบโบบาวาว่า
“อย่ารบกวนประชาชนเหล่านี้อีกต่อไป
แน่จริงมาหาฉันสิถ้าแกกล้า!” หลังจากนั้นการจู่โจมของโบโบบาวาหายไปอย่างเงียบกริบ
ในขณะที่ประธานาธิบดีรับเครดิตไปเต็มๆ
บทสรุปส่งท้าย : พรอปโปบาว่ากับสัญลักษณ์การล่วงละเมือทางเพศ
นอกจากฐานะของปีศาจร้าย...
โบโบบาวายังกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของการล่วงละเมิดทางเพศของแทนซาเนีย และใช้เป็นสัญลักษณ์แทนการพูดถึงเรื่องนี้ทางอ้อมอีกด้วย
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าโบโบบาวาจะเป็นเรื่องราวของปีศาจที่ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่เมื่อไม่กี่สิบปีก่อน
แต่ความหวาดกลัวที่มีต่อโบโบบาวาก็ยังคงเป็นเรื่องที่จริงที่สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนของแทนซาเนีย
โดยเฉพาะ “ผู้ชาย” อย่างมาก มาจนถึงปัจจุบัน...