เทพกสิกร “เสินหนง” ราชาแห่งการแพทย์สมุนไพรจีน

เสินหนง เป็นหนึ่งในเทพ ที่ได้รับการเคารพนับถือย่างมากจากชาวจีน ด้วยการมอบความรู้ด้านเกษตรกรรม การแพทย์ และประเพณีวัฒนธรรมต่างๆที่กลายมาเป็นรากฐานสำคัญ ที่นำประเทศจีนเข้าสู่การพัฒนา จนกระทั่งกลายเป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน รูปภาพ รูปสลักของสลักของ เสินหนง จึงมักปรากฏให้เห็นบ่อยครั้งตามสถานที่ต่างๆในประเทศจีน ทั้งในรูปแบบของฤาษี ชายชราที่นั่งอยู่บนหลังควาย หรือนักพรตที่กำลังทานสมุนไพรเพื่อทดสอบคุณสมบัติของพวกมัน เป็นต้น นอกจากนี้ เสินหนง ยังเป็นที่รู้จักกันในฐานะ “หนึ่งในสามจักรรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่” ในฐานะ “จักรพรรดิแดง”  และ “ห้ากษัตริย์” แห่งดินแดนจีนโบราณ และยังเชื่อกันว่า เขาเป็นหนึ่งในคน ที่กุมความลับในการปรุงยาอายุวัฒนะ และการเปลี่ยนตะกั่วให้เป็นทองคำอีกด้วย

ถึงแม้ว่า เสินหนง จะได้รับการนับถือว่าเป็นเทพ แต่เรื่องราวของเขาดูเหมือนจะไม่ได้เป็นเพียงเรื่องเล่าขานเหมือนกับตำนานอื่นๆ มีหลักฐานหลายประการ ที่ช่วยสนับสนุนให้นักประวัติศาสตร์เชื่อว่า เสินหนง อาจมีตัวตนอยู่จริง โดยเชื่อว่า บ้านเกิดที่แท้จริงของ เสินหนง นั้น อยู่ใกล้กับพรมแดน ทางทิศตะวันออก ของมณฑลสานซี และคาดว่าเขาน่าจะมีชีวิตอยู่ ในช่วง 25-27 ปี ก่อนคริสกาล โดยมี มารดาเป็นเจ้าหญิงของประเทศเล็กๆแห่งหนึ่ง มีพ่อเป็นชาวมังกรสวรรค์ ชื่อของ เสินหนง มีความหมายว่า “พระเจ้าของชาวนา”

ตำนานของ เสินหนง เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก เชื่อกันว่า เขาพูดได้หลังจากที่เกิดได้เพียง 3 วัน เริ่มเดินได้ในหนึ่งสัปดาห์ และเริ่มไถนา เมื่ออายุได้สามขวบ หลังจากที่เติบโตขึ้น เสินหนง ในวัยหนุ่ม เริ่มสังเกตเห็นว่า ในยุคนั้น ชาวจีน มีจำนวนมากเกินไป สัตว์ที่ถูกนำมาเป็นอาหารก็ไม่เพียงพอ คนอ่อนแอต้องอดอยาก อีกทั้งยังถูกโรคภัยไข้เจ็บต่างๆคร่าชีวิตไปอีกเป็นจำนวนมาก เสินหนง ไม่สามารถทนยิ่งดูดาย จึงได้พยายามเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตของคนเหล่านั้น จากเพียงแค่การหาเนื้อหอย ผลไม้ป่ามาทานเพื่อประทังชีวิตไปวันๆ ให้กลายเป็นสังคมเกษตรกรรม ที่อุดมไปด้วยธัญพืช และพืช ผัก ผลไม้ต่างๆ

เชื่อกันว่า เสินหนง เป็นบุรษคนแรกที่ถ่ายทอดความรู้ด้านการเกษตรกรรมให้กับชาวจีน การใช้จอบ คันไถ การใช้ขวานตัดไม้ วิธีรักษาเมล็ดพันธุ์พืช โดยใช้ปัสสาวะม้าต้ม ขุดคลองชลประทาน เสินหนง ยังเป็นที่รู้จักกันในฐานะของราชาแห่ง 5 ธัญพืช ได้แก่ ข้าวสาลี ข้าว ลูกเดือย ถั่ว และข้าวฟ่าง ที่ได้กลายมาเป็นอาหารหลักของคนทั่วโลกในปัจจุบัน รวมไปถึงพิธีบวงสรวงขอบคุณเทพเจ้าหลังจากที่ทำการเก็บเกี่ยวพืชผลอีกด้วย นอกจากนี้ เสินหนงยังเป็นผู้ที่ค้นพบคุณสมบัติของ “ใบชา”  โดยบังเอิญ จากการต้มน้ำดื่ม แล้วมีใบชาปลิวตกลงไปในหม้อ เมื่อดื่มน้ำจากใบชา ปรากฏว่ามีรสชาติที่ดี กลิ่นหอม และทำให้รู้สึกสดชื่น หลังจากนั้นชา ก็ได้เติมเต็มความสุขให้กับคนทั่วโลก

เสินหนง ยังเป็นผู้พัฒนาเทคนิคด้านการแพทย์แผนจีนโบราณ คิดค้นการจับชีพจร การฝังเข็ม การใช้ยาสมุนไพรในการรักษาโรค ทำให้เขาถูกนับถือในฐานะ “บิดาแห่งการแพทย์แผนจีน” เสินหนง ค้นพบว่า พืชบางอย่างสามารถเป็นยารักษาโรค หรือเป็นพิษได้ ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ ด้วยการทดลองผลลัพธ์กับตัวเองตำนานระบุว่า เสินหนง มีร่างกา และกระเพาะอาหารที่โปร่งใส ทำให้สามารถมองเห็นผลที่เกิดขึ้นกับตัวเองหลังจากทานสมุนไพรชนิดต่างๆอย่างชัดเจน เสินหนง เคยทานพืชมีพิษถึง 70 ชนิด ในวันเดียว หลังการทดสอบคุณสมบัติของสมุนไพรอย่างยาวนาน เขาได้เสียชีวิตลงหลังจากทานวัชพืชที่มีดอกสีเหลือง ที่ทำให้ลำไส้ของเขาแตก ก่อนที่จะทันได้มีโอกาสดื่มน้ำชาที่ ใช้เป็นยาแก้พิษที่เกิดขึ้นจากการทานสมุนไพร

จากการเสียสละวิจัย จนสามารถค้นพบตัวยาจากสมุนไพร แร่ธาตุ และสัตว์มากมาย ที่มีทั้งคุณ และโทษต่อร่างกาย นำไปสู่การเกิดตำหรับยาแผนจีนที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่มากที่สุดในโลก สมุนไพรกว่า 365 ชนิดที่ เสินหนง ค้นพบผลลัพธ์ ถูกรวบรวมเอาไว้ กลายเป็นบันทึกด้านการแพทย์ที่เก่าแก่ ในชื่อของ “สมุนไพรคลาสสิคของเสินหนง” ที่เชื่อกันว่าถูกเขียนขึ้นราวศตวรรษที่ 2 หลังการล่มสลายของราชวงศ์ฮั่น โดยแบ่งสมุนไพรออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับบน (กระตุ้น) ระดับกลาง (รักษา) และระดับต่ำ (พิษ) สมุนไพรทุกชนิดมีจุดแข็ง จุดด้อย ที่แตกต่างกัน เมื่อนำมาผสมรวมกันตามสูตร ก็จะได้ความสมดุลในการรักษาโรคอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับลดผลข้างเคียงที่ได้รับให้น้อยลง เทคนิคดังกล่าว ทำให้เกิดการพัฒนาทางการแพทย์อย่างมาก และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ยาแผนจีน ใช้ได้ผลเป็นอย่างดีจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ความก้าวหน้าที่ เสินหนง ได้วางรากฐานเอาไว้เหล่านี้ ช่วยทำให้คนจีนมีอายุยืนยาวขึ้น และมีอัตราเด็กเกิดมากขึ้น

นับพันๆปี ที่จิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ของ เสินหนง ผู้อุทิศทั้งชีวิตเพื่อความเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆของมนุษย์ชาติ ทำให้คนจีนจำนวนมาก ยังคงเคารพบูชาเขาอย่างมาก ในฐานะของ “ราชาแห่งการแพทย์” นำไปสู่การปฎิธานในการช่วยเหลือผู้อื่นของแพทย์ทั่วโลก และเขายังถูกนับถือเป็น “เทพแห่งการเกษตร” ที่ในปัจจุบัน มีวัดหลายแห่ง และสถานที่สำคัญ อีกมากมายในประเทศจีน ที่ยังคงให้ความเคารพในสิ่งที่เขาได้ทำอยู่อย่างสม่ำเสมอ เช่น รูปปั้นหินยักษ์ของ เสินหนง ในมณฑลหูเป่ย เป็นต้น ชาวจีนจะสักการะ เสินหนง ด้วยธูปหอม และดอกไม้ไฟ โดยเฉพาะในวันที่ 26 เมษายน ที่เชื่อกันว่า เป็นวันเกิดของ เสินหนง

แบ่งปัน: