มนุษย์กระต่ายคลั่ง (The Bunny Man) ตำนานเมืองแห่งรัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
ใกล้กับเมืองคลิฟตัน รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นที่ตั้งของสะพานลอดใต้ทางรถไฟฟ้าขนาดเล็ก สถานที่แห่งนี้ได้ถูกเรียกขานจากคนในพื้นที่ว่า “Bunny Man Tunnel” ชื่อนี้อาจฟังดูน่ารัก แต่ที่จริงแล้ว มันมีต้นกำเนิดมาจากตำนานเมืองที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
การปิดตัวของโรงพยาบาลแห่งรัฐเวอร์จิเนีย ต้นกำเนิดตำนานมนุษย์กระต่าย
ตำนานของมนุษย์กระต่ายเริ่มขึ้น ในช่วงปลายปี 1900 โรงพยาบาลบ้าในรัฐเวอร์จิเนียได้ปิดตัวลง ส่งผลให้คนไข้และอาชญากรโรคจิตจำนวนมากถูกส่งตัวไปรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลอื่น แต่หนึ่งในยานพาหนะที่ขนส่งคนไข้กลับเกิดอุบัติเหตุอย่างรุนแรงทำให้คนไข้หลายคนเสียชีวิต ในขณะที่หลายคนฉวยโอกาสนี้ในการหลบหนี เจ้าหน้าที่พยายามอย่างมากในการติดตามจับกุมเหล่าคนบ้า แต่มีบางคนที่หนีไปได้ หลังจากพยายามอยู่นานเจ้าหน้าที่ได้ลงความเห็นว่าบางคนได้หลบหนีออกนอกพื้นที่หรือเสียชีวิตไปแล้วในผืนป่าอันกว้างใหญ่
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือน มีการค้นพบกระต่ายถูกฆ่าถลกหนังจำนวนหลายร้อยตัวถูกแขวนเอาไว้ในป่า ใกล้กับถนน Colchester นอกจากนี้ กระต่ายบางตัวยังมีร่องรอยของการ “ถูกกิน” อีกด้วย ในไม่ช้า นักฆ่ากระต่ายรายนี้ก็ได้รับการขนานนามว่า “มนุษย์กระต่าย” (The Bunny Man)
หลังจากเจ้าหน้าที่ทำการค้นหาในพื้นที่อีกครั้ง คราวนี้พวกเขาได้พบกับชายคนหนึ่งถูกห้อยแขวนเอาไว้กับต้นไม้ในลักษณะเดียวกับกระต่ายที่ถูกฆ่า ก่อนที่ความสยองขวัญจะมากขึ้น เมื่อมีการค้นพบร่างของผู้คนอีกหลายร่างถูกแขวนในป่า บางร่างถูกถลกหนัง บางคนถูกแขวนคอและที่เลวร้ายที่สุดคือ อวัยวะของบางคนถูกตัดออกไป “กิน”
คราวนี้ เจ้าหน้าที่ทำการค้นหาแบบพลิกแผ่นดิน เพื่อตามล่าฆาตกรโรคจิต จนกระทั่งปลายเดือนตุลาคม ในที่สุดพวกเขาก็สามารถไล่ล่าฆาตกรไปจนถึงสะพานลอดทางรถไฟโคลเชสเตอร์ เมื่อฆาตกรเห็นว่าตัวเองไม่สามารถหนีพ้นจากการติดตามของเจ้าหน้าที่ เขาจึงกระโดดตัดหน้ารถไฟที่กำลังแล่นมา แน่นอนว่า... เขาเสียชีวิตในทันที
ภายหลังจากการเสียชีวิต ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็สามารถสรุปได้ว่ามนุษย์กระต่าย คือ “ดักลาสเจ. กริฟฟอน” หนึ่งในผู้ต้องหาโรคจิตที่หลบหนีไปเมื่อเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการขนส่งเมื่อหลายปีก่อน ส่วนเหตุผลที่ทำให้เข้าถูกขังเอาไว้ในโรงพยาบาล เป็นเพราะเขาได้ลงมือสังหารภรรยาและลูกๆของตัวเองในวันอีสเตอร์ เมื่อราวหนึ่งทศตวรรษก่อนหน้านี้
การหวนคืนกลับมาจากโลกหลังความตายของมนุษย์กระต่าย
ตำนานเล่าขานกันว่า ในช่วงปลายเดือนตุลาคมของทุกปี จะมีการค้นพบซากของกระต่ายใหม่ๆในป่า ใกล้กับสะพานแห่งนั้น นอกจากนี้ ยังมีคนที่อ้างว่าได้เห็นชายสวมชุดกระต่ายในอุโมงค์ใต้ทางลอดรถไฟ ถ้าหากใครไปที่นั่นคนเดียวในช่วงเวลาดังกล่าว มนุษย์กระต่ายจะทำการฆ่าถลกหนังและแขวนร่างเอาไว้บนต้นไม้ใกล้กับอุโมงค์
รายงานการพบเห็นมนุษย์กระต่าย
ในเดือนตุลาคมปี 1970 มีรายงานที่ได้รับการบันทึกเอาไว้อย่างเป็นทางการว่ามี “ชายในชุดกระต่าย” ที่ทำการข่มขู่ผู้ที่พบ ในเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากคลิฟตัน
การพบเห็นมนุษย์กระต่ายฉบับแรก เป็นคำบอกเล่าของนักเรียนนายสิบทหารบกกับแฟนสาวที่จอดรถข้างทางเพื่อคุยกันหลังจากที่กลับมาจากการชมการแข่งขันฟุตบอล ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณเที่ยงคืน พวกเขาสังเกตเห็นว่ามีอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ข้างนอกรถ ก่อนที่ชายสวมชุดกระต่ายจะปรากฏตัวออกมาทุบกระจกรถของพวกเขาและตะคอกใส่เสียงดังด้วยความไม่พอใจ โดยที่จับใจความได้ว่าพวกเขากำลังบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคล ด้วยความตกใจ พวกเขารีบเร่งเครื่องรถออกไป ก่อนที่จะสังเกตเห็นสิ่งที่มนุษย์กระต่ายใช้ทุบกระจกรถยนต์ที่ตกอยู่บนพื้นผ่านกระจกหลังว่ามันคือ “ขวาน”
อีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นสองวันก่อนที่จะถึงวันฮัลโลวีน ในพื้นที่ใกล้เคียงกับเหตุการณ์แรก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เดินตรวจตรารอบสถานที่ก่อสร้าง ก่อนที่เขาจะต้องตกใจเมื่อได้พบกับชายคนหนึ่งในชุดกระต่าย เมื่อมนุษย์กระต่ายหันมาเห็นเขาก็พยายามเข้ามาทำร้าย อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง ก็ไม่พบมนุษย์กระต่าย
นอกจากเหตุการณ์ในข้างต้นแล้ว ยังมีผู้คนอีกกว่า 100 คน ที่อ้างว่าได้เห็นบุคคลปริศนาที่ทำตัวแปลกประหลาดในพื้นที่รอบเมืองเหล่านี้ ในคืนก่อนวันฮัลโลวีน แต่... สิ่งที่น่าแปลกประหลาดใจที่สุดคือ มีหลายคนที่พบกว่าสัตว์เลี้ยงของตัวเองถูกสังหารและมีบางตัวถูกกัดกินอวัยวะบางส่วน!!!
หลังจากที่ตำนานของมนุษย์กระต่ายได้แพร่กระจายออกไปยังรัฐใกล้เคียง ทำให้แต่ละแห่งเริ่มมีเรื่องเล่าของมนุษย์กระต่ายที่แตกต่างกันออกไปพอสมควร แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่เหมือนกันล้วนแล้วแต่จบลงด้วยความตายและคาวเลือดทั้งสิ้น...
โจแมนจู (Jinmenju) ต้นไม้หน้าคนในตำนานของประเทศญี่ปุ่นและจีน