9 พ่อมดและแม่มดแห่งทวีปอเมริกา
วัฒนธรรมพื้นเมืองของชาวอเมริกัน มีความเชื่อในเรื่องเวทมนตร์ที่หลากหลายแตกต่างกัน ทั้งในด้านของพิธีกรรม เครื่องแต่งกาย หรือรูปเคารพ อย่างไรก็ตาม ทวีปอเมริกา มีการแบ่งปันการรับรู้ด้านเวทมนตร์ร่วมกัน โดยมีการนำวัตถุต่างๆ ไปใช้เพื่อประกอบพิธีกรรมเวทมนตร์ที่คล้ายกัน เช่น สมุนไพร หิน เปลือกหอย ขนสัตว์ กระดูกและวัสดุอื่นๆ ที่มีความสามารถในการเยียวยาหรือทำยาเสน่ห์ นอกจากนี้ชาวอเมริกัน ยังมีความเชื่ออย่างแรงกล้าในพลังแห่งธรรมชาติ และมุ่งมั่นที่จะปรองดองกับพลังงานอันยิ่งใหญ่ที่มองไม่เห็น ทำให้พ่อมด แม่มด ในทวีปอเมริกามีรูปแบบที่มากมาย โดยพ่อมด แม่มดเหล่านี้เริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐานตามแนวเทือกเขาในช่วงปลาย ค.ศ.1700 ด้วยการอพยพมาจากทวีปยุโรป โดยเฉพาะจากประเทศไอซ์แลนด์และสกอตแลนด์ สำหรับบรรดาแม่มดพ่อมดที่มีความน่าสนใจของทวีปอเมริกาสามารถแบ่งออกได้เป็น 9 กลุ่มดังต่อไปนี้
1. พ่อมดและแม่มดแห่งทวีปอเมริกา: Hatalii
ทางตอนเหนือของทวีปอเมริกามีชายนามว่า “นาวาโฮ” หรือที่รู้จักกันในนามผู้ใช้เวทมนต์แห่ง “Hatalii” ที่ใช้วิธีการแปลกประหลาดในการวินิจฉัยโรค รวมไปถึงการใช้เครื่องมือพิเศษ เช่น หินคริสทัลและการสวดมนต์เพื่อช่วยเยียวยาผู้ป่วย สำหรับผู้ที่ต้องการเป็น Hatalii ต้องผ่านช่วงเวลาในการฝึกฝนที่ยากลำบากเป็นเวลานานหลายปีและเรียนรู้ทุกอย่างจากผู้เป็นครูรวมไปถึงการจดจำคำสวดทั้งหมด
เวทมนต์ที่ใช้บ่อยมากที่สุดถูกเรียกว่า “Witchery Way” เป็นการใช้ศรพิษ หรือผงศพกระดูกโดยเฉพาะจากศพของเด็กฝาแฝด ผู้ใช้เวทมนต์จะทำการเลือกผงจากส่วนที่ดีที่สุดของร่างกายบริเวณลายนิ้วมือและกระดูกหลังของกะโหลก เพราะเชื่อว่าผงกระดูกเหล่านี้สามารถนำไปใช้ให้เกิดคำสาปแช่งที่กล้าแกร่งต่อศัตรู
2.พ่อมดและแม่มดแห่งทวีปอเมริกา: Skinwalkers
เชื่อกันว่า ผู้ที่ถูกเรียกว่า Skinwalkers หรือ Yea-Naa-gloo-shee พ่อมดประเภทนี้มีพลังเวทมยตร์ที่น่าสนใจในการแปลงร่างจำแลงกายเป็นสัตว์และยังมีพลังในการสาปแช่งทำให้ไม่มีใครอยากที่จะเป็นศัตรูด้วย
3.พ่อมดและแม่มดแห่งทวีปอเมริกา: Spearfinger
แม่มดในตำนานของ Cherokee โดยมีจุดเด่นจากนิ้วมือที่แหลมยาวราวกับหอก สวมใส่ชุดที่ทำจากหิน กินตับของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ โดยมักปรากฏตัววนเวียนล่าเหยื่ออยู่ในแถบภูเขา หลายคนเชื่อแม่มดที่แสนน่าสะพรึงกลัวเหล่านี้ยังคงอาศัยอยู่ในแถบภูเขาสูงที่มีป่าหนาทึบมาจนถึงปัจจุบัน
4.พ่อมดและแม่มดแห่งทวีปอเมริกา: Water Witches
Water Witches หรือที่มักเรียกกันว่า “แม่มดแห่งน้ำ” เป็นผู้เชี่ยวชาญเวทมนตร์ด้านการใช้น้ำ และพลังจากธรรมชาติ
5.พ่อมดและแม่มดแห่งทวีปอเมริกา: Witch Doctors
ผู้เชี่ยวชาญในด้านการรักษาและผดุงครรภ์ ส่วนใหญ่มักเป็นเพศชาย พ่อมด แม่มดเหล่านี้มีที่มาจากผู้ใช้เวทมนตร์ของทวีปแอฟริกา มีหน้าที่คอยช่วยเหลือชาวบ้านตามคำร้องขอ นอกจากนี้พวกเขายังมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในจิตวิญญาณของผู้ล่วงลับและวิญญาณของบรรพบุรุษที่จะทำหน้าที่คอยปกป้องลูกหลานที่เชื่อมั่นอยู่ตลอดเวลา
6.พ่อมดและแม่มดแห่งทวีปอเมริกา: Kahuna
นักเวทมนตร์แบบดั้งเดิมของทวีปอเมริกาที่มีถิ่นกำเนิดจากหมู่เกาะฮาวาย นอกจากนี้ยังมีความเชี่ยวชาญในการรักษาอาการเจ็บป่วย การวินิจฉัยโรค ความรู้ด้านเภสัชกรในการผสมยาสมุนไพร เป็นต้น พื้นฐานของการใช้เวทมนตร์นี้ มักเกิดขึ้นจากการอธิฐานกับพระเจ้าโบราณ อย่างไรก็ตามเหล่าผู้ใช้เวทมนตร์เหล่านี้ ถูกบังคับให้ต้องหลบซ่อนตัวเก็บงำความเชื่อของตัวเองเอาไว้อย่างมิดชิดที่สุดหลังจากที่นักเผยแผ่ศาสนาคริสต์มาเยือนทวีปอเมริกาในช่วงศตวรรษที่ 19
7.พ่อมดและแม่มดแห่งทวีปอเมริกา: Corianders
ในแถบลุ่มน้ำอะเมซอนและทิศเหนือบริเวณชายฝั่งของทวีปอเมริกา หมอผีในบริเวณนี้มักถูกเรียกว่า “Corianders” พวกเขาใช้หลักการเขย่าสิ่งของต่างๆให้เกิดเสียง และใช้ San Pedro cactuses ซึ่งเป็นกระบองเพชรเวทมนตร์ที่มีฤทธิ์ในการกล่อมประสาทเป็นเครื่องมือในการประกอบพิธีกรรม อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปแล้วพวกเขาจะหลีกเลี่ยงการใช้เวทมนตร์เหนือธรรมชาติ แต่จะทำหน้าที่เป็นหมอรักษาด้านจิตวิญญาณเสียมากกว่า
8.พ่อมดและแม่มดแห่งทวีปอเมริกา: Machi
ทางตอนใต้ของทวีปอเมริกาในประเทศชิลี หมอผีมักจะเป็นผู้หญิง โดยรู้จักกันในชื่อของ “Machi” พวกเธอทำหน้าที่ในการประกอบพิธีกรรมเพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยสมุนไพรให้กับคนในชุมชน ปัดเป่าความชั่วร้ายที่อิทธิพลต่อสภาพอากาศและการเก็บเกี่ยว นอกจากนี้หมอผียังต้องทำงานร่วมกับวิญญาณ หรือสิ่งมีชีวิตที่เรียกกันว่า “wekufe” เพื่อรักษาความสงบสุขของชุมชนเอาไว้
9.พ่อมดและแม่มดแห่งทวีปอเมริกา: Shamanism
Shamanism หรือ “ชาแมน” เป็นผู้ใช้เวทมนตร์โดยผ่านการเข้าทรง พวกเขามักทำหน้าที่เป็น “คนกลาง” ช่วยในการสื่อสารระหว่างโลกนี้กับโลกแห่งวิญญาณ ถึงแม้ว่าชาแมนในแต่ละภูมิภาคทั่วโลกจะมีรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่เหล่าชาแมนมักที่จะมีความเชื่อที่เหมือนกันคือ “วิญญาณที่ดี” กับ “วิญญาณชั่วร้าย” มีตัวตนอยู่จริงและพวกมันมีบทบาทสำคัญในชีวิตของแต่ละบุคคล ชาแมนจึงมีหน้าที่สำคัญทั้งการสื่อสาร และพยายามไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างมนุษย์กับวิญญาณเหล่านั้น ด้วยการถอดจิตออกจากร่าง เข้าสู่โลกเหนือธรรมชาติ ค้นหาคำตอบในเรื่องราวที่ต้องการ โดยปกติชาแมนจะทำการถอดจิตเพื่อ “เข้าสู่ร่างกาย” ของผู้ป่วย ด้วยการใช้ส่วนผสมของยาที่ออกฤทธิ์ทางจิต เพลง หรือพิธีกรรมเพื่อเผชิญหน้ากับจิตวิญญาณที่ทำให้เกิดอาการป่วย แล้วทำการขจัดวิญญาณที่ติดเชื้อเหล่านั้นออกไป ชาแมนหลายคน มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในการใช้พืชสมุนไพร ที่เชื่อกันว่าสามารถช่วยชำระล้างจิตวิญญาณให้ใสสะอาดได้ นอกจากนี้ ชามแมนยังมีผู้ช่วยคือจิตวิญญาณที่มักปรากฏในรูปร่างของสัตว์ต่างๆ ทำหน้าที่เป็นไกด์นำทาง คอยบอกเหตุ และกระซิบบอกข้อความบางอย่าง ในปัจจุบัน ชาแมนยังคงมีอยู่ ท่ามกลางหมู่ชนพื้นเมืองในเขตทุรกันดาร ทะเลทราย ชนบท ชานเมืองและในสลัมทั่วโลก…
พ่อมด แม่มดและผู้ใช้เวทมนตร์ของทวีปอเมริกา... แม้จะถูกมองว่าเป็นเรื่องงมงาย แต่จนถึงทุกวันนี้ความเชื่อเหล่านี้ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่ในชุมชนมากมายในทวีปอเมริกา และยังเป็นที่พึ่งทางใจแห่งสุดท้ายของผู้ป่วยที่ถูกทอดทิ้งจากการแพทย์แผนปัจจุบัน ที่จะช่วยเป็นแหล่งที่สร้างความสงบให้กับจิตใจก่อนที่จะลาลับจากโลกใบนี้ไปด้วยความรู้สึกเต็มตื้นในหัวใจ ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เหล่าผู้ใช้เวทมนตร์เหล่านี้ ยังคงมีตัวตนอยู่มาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน...