อเล็กซานเดอร์ สเปซิฟต์เซฟ (Alexander Spesivtsev) ฆาตกรจอมล่อลวงสังหารกินเนื้อ 80 ศพ แห่งประเทศรัสเซีย

“อเล็กซานเดอร์ สเปซิฟต์เซฟ” (Alexander Spesivtsev) เป็นฆาตกรฆ่าต่อเนื่องชาวรัสเซีย ที่ทำการสารภาพว่าเขาเข่นฆ่าผู้คนไปถึง 19 ศพ แต่กลับถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงเพียง 4 กระทง แต่หลังจากที่ได้ทำการตรวจสอบสภาพทางจิต สารได้ตัดสินว่าเขาไม่มีสภาพจิตใจที่พร้อมสำหรับการพิจารณาคดีและได้รับคำสั่งให้เข้ารับการบำบัดอาการทางจิตในสถาบันจิตเวช
ในระหว่างการพิจารณาคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อธิบายว่าอเล็กซานเดอร์ เป็นคนแก่เรียน เขาสามารถเขียนหนังสือเกี่ยวกับปรัชญาได้ และก่อนหน้านี้เขาต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลจิตเวชเนื่องจาก “ฆ่าแฟนสาวของตัวเอง”...
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าหลักฐานที่ถูกค้นพบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในภายหลังพบว่า เขามีส่วนต้องรับผิดชอบในการก่อคดีฆาตกรรมราว 80 คดี เลยทีเดียว..!!!
รูปแบบการสังหารสุดโหดของอเล็กซานเดอร์

ในช่วงเวลาที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญ อเล็กซานเดอร์ตกงานและมีประวัติทางจิต ที่มีการพัฒนาความเกลียดชังอย่างสุดโต่งต่อเหล่าเด็กเร่ร่อนที่มีจำนวนมากมายในเมืองโนโวคุซเนตสค์ จนเป็นปมที่ทำให้เกิดการก่อเหตุฆาตกรรมขึ้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า การสังหารหมู่ของเขาอาจเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 90 อเล็กซานเดอร์ ที่มีอายุเพียง 27 ปี ในขณะนั้น การก่อเหตุสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นได้จากการช่วยเหลือโดยแม่ของเขาเอง โดยอเล็กซานเดอร์จะทำการเลือกเหยื่อไปที่หญิงสาวและเด็กเร่ร่อน เมื่อพบเหยื่อที่หมายตาก็จะทำการล่อลวงไปที่บ้านที่จะถูกแปลงโฉมให้กลายมาเป็นโรงเชือด ทรมานและฆ่าทิ้งในที่สุด แถมบางรายยังถูกเขาชำแหละเอาเนื้อมาปรุงกินเป็นอาหารอีกด้วย ส่วนที่เหลือไม่เป็นที่ต้องการก็จะถูกนำไปทิ้งที่แม่น้ำอาบา
ตำรวจไม่ได้จับกุมเขาในฐานะของผู้ต้องสงสัยในตอนแรก และเหยื่อส่วนใหญ่เป็นเด็กเร่ร่อนที่ปราศจากการแจ้งความอย่างเป็นทางการ พวกเขาจึงได้ทำคดีคนหายแบบสุ่ม ๆ โดยไม่ได้สนใจมากนัก จนกระทั่งได้รับการร้องเรียนจากเพื่อนบ้านของอเล็กซานเดอร์ว่าได้กลิ่นเหม็นอันน่าขยะแขยงและเสียงเพลงที่ดังมาก แต่ตำรวจก็เพิกเฉยเพราะคิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องของความสะอาดที่เป็นหน้าที่รับผิดชอบของหน่วยงานสาธารณสุข ถ้าหากพวกเขาใส่ใจสักนิดก็จะสามารถช่วยชีวิตของเด็กสาวคนหนึ่งที่ถูกขังเอาไว้ได้ในปี 1991
การค้นพบอาชญากรรมสุดสยอง

หลังจากการร้องเรียนดังกล่าวผ่านมาหนึ่งปี ตำรวจได้ตัดสินใจทำการสอบสวนและพบศพของเด็กหญิงวัย 13 ขวบ ที่ว่า “โอลก้า” ร่างของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลถูกแทงหลายต่อหลายครั้ง ก่อนที่จะสิ้นลมอย่างน่าเศร้าเธอบอกเบาะแสสำคัญว่าได้ช่วยอเล็กซานเดอร์ขนกระเป๋าไปที่บ้านของเขา
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบเพิ่มเติม พวกเขาได้ค้นพบ “ความลับอันน่าสยอง” ในบ้านของอเล็กซานเดอร์มีศพถูกตัดศีรษะอยู่ในห้องน้ำ พบเสื้อผ้าอีกกว่า 80 ชุด ที่เปื้อนเลือดที่เชื่อกันว่าน่าจะเป็นของเหยื่อที่หายตัวไป ทำให้เชื่อว่าเหยื่อของเขาไม่ได้มีเพียงแค่ 19 คน อย่างที่เขารับสารภาพ แต่มันมากถึง 80 ศพ เลยทีเดียว...
บ้านไคมูกิ (Kaimuki) อันน่าสะพรึงกลัวที่คนเป็นไม่ควรเหยียบย่างไปเยือนอย่างเด็ดขาด ของประเทศสหรัฐอเมริกา

