เพชรออร์ลอฟสีดำ (Black Orlov Diamond) อัญมณีมรณะ ประเทศอินเดีย

เพชรออร์ลอฟสีดำ (Black Orlov Diamond) อัญมณีมรณะแห่งความชั่วร้าย ประเทศอินเดีย

เพชรออร์ลอฟสีดำ (Black Orlov Diamond) เชื่อกันว่ามาจากประเทศอินเดียในช่วงศตวรรษที่ 19 เดิมทีมันเป็นดวงตาของหนึ่งในรูปปั้นของพระพรหม ในเมองปอนดิเชอร์รี ทำให้มันมีอีกชื่อหนึ่งว่า “เพชรดวงตาแห่งพระพรหม” (Eye of Brahma Diamond) ตัวเพชรดั้งเดิมดูเหมือนว่าจะมีน้ำหนักเพียง 195 กรัม เท่านั้น ก่อนที่จะมีข่าวลือว่ามันถูกขโมยมาโดยฝีมือของกพระภิกษุรูปหนึ่ง

หลังจากนั้น ก็ได้มีข่าวลือเกี่ยวกับเพชรที่ถูกสาปแพร่กระจายไปทั่ว ว่ากันว่าหากใครได้ครอบครองเป็นเจ้าของเพชรออร์ลอฟสีดำจะต้องทุกข์ทรมานจากการเสียชีวิตที่ร้ายแรง

เหยื่อรายแรกของเพชรออร์ลอฟสีดำคือ “เจ.ดับบลิว. ปารีส” (J.W. Paris) พ่อค้าเพชร ในปี 1932 เขาได้นำเพชรออร์ลอฟสีดำไปยังอเมริกา ไม่กี่วันหลังการมาถึงเข้าได้ขายมันให้กับผู้ซื้อในนิวยอร์กซิตี้ หลังจากนั้นเขาก็ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงมาจากยอดตึกระฟ้าในแมนฮัตตัน

มีข่าวลือว่าเขากำลังทุกข์ทรมานจากความวิตกกังวลทางธุรกิจเป็นอย่างมาก มีการค้นพบจดหมายสองฉบับอยู่กับศพของเขา จดหมายฉบับหนึ่งจ่าหน้าซองส่งถึงภรรยา ส่วนจดหมายอีกฉบับจ่าหน้าซองถึงเพื่อนที่เป็นช่างอัญมณี แต่รายละเอียดเนื้อหาภายในจดหมายเป็นความลับที่ไม่ได้มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะ

ในปี 1947 “เจ้าหญิงนาเดีย วีจิน-ออร์ลอฟ” (Princess Nadia Vyegin-Orlov) อดีตเจ้าของเพชรออร์ลอฟสีดำได้ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดจากยอดอาคารแห่งหนึ่งในกรุงโรม แต่ก่อนหน้านั้นเพียงหนึ่งเดือน “เจ้าหญิงเลโอนิลา วิคโตรอฟนา-บาเรียตินสกี” (Princess Leonila Viktorovna-Bariatinsky) สมาชิกของราชวงศ์รัสเซียก็ทรงทำการฆ่าตัวตาย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีรายละเอียดบันทึกเอาไว้ถึงส่เหตุที่นำไปสู่การฆ่าตัวตาย แต่ก็มีการทราบในภายหลังว่าพระองค์เป็นเจ้าของเพชรออร์ลอฟสีดำเช่นกัน

หลังจากที่มีการเสียชีวิตอย่างปริศนาเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งกับเจ้าของเพชรออร์ลอฟสีดำ มันก็ได้ถูกตัดแบ่งออกกลายเป็นอัญมณีสามชิ้นแยกออกจากกันโดยหวังว่าการทำเช่นนั้นจะเป็นการช่วยทำลายคำสาปได้ ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะได้ผลเพราะหลังจากนั้นเป็นต้นมาเจ้าของคนใหม่ของชิ้นส่วนเพชรออร์ลอฟสีดำที่เหลือน้ำหนักเพียง 13.50 กรัม หรือ 67.50 กะรัต จะสามารถรอดพ้นจากคำสาปมาได้

“เดนนิส เปติเมซาส” (Dennis Petimezas) เจ้าของเพชรออร์ลอฟสีดำคนปัจจุบันดูเหมือนว่าจะยังคงปลอดภัยดีและไม่ได้กังวลในการเป็นผู้ครอบครองมัน และดูเหมือนว่าเธอจะยังคงใช้เวลาหลายปีในการค้นหาประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของเพชรออร์ลอฟสีดำและค่อนข้างมั่นใจว่าคำสาปอันแสนน่ากลัวเหล่านั้นได้ถูกทำลายลงแล้ว...