“โรงพยาบาลนรก บลูมมิ่งเดล” (Bloomingdale Asylum) ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานและเสียงกรีดร้องของ ประเทศสหรัฐอเมริกา
“โรงพยาบาล บลูมมิ่งเดล” (Bloomingdale Asylum) ถูกสร้างขึ้นบนที่ดินซึ่งในปัจจุบันถูกครอบครองโดยมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เดิมทีโรงพยาบาลแห่งนี้ถูกสงวนเอาไว้สำหรับการรักษาคนวิกลจริต ต่อมาเลือกรับเฉพาะคนป่วยที่มีศักยภาพในการจ่ายค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น
แต่.. สิ่งที่น่าสนใจคือ การดูแลผู้ป่วยทางจิตกลับไม่ได้ดีเหมือนกับจำนวนเงินที่ครอบครัวของพวกเขาได้จ่ายให้กับทางโรงพยาบาล!!!
ประวัติศาสตร์มืดของโรงพยาบาล บลูมมิ่งเดล
ในปี 1771 สมาคมโรงพยาบาลแห่งเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ทำการซื้อที่ดินขนาด 26 เอเคอร์ ในตอนบนของแมนฮัสตันเพื่อสร้างโรงพยาบาลบ้าในชื่อของ “โรงพยาบาล บลูมมิ่งเดล” หลังจากนั้น มันก็ได้รับการก่อสร้างอาคารจนกระทั่งพร้อมรับผู้ป่วยในปี 1821
ณ ช่วงเวลานั้น โรงพยาบาล บลูมมิ่งเดลเป็นสถานที่เดียวที่รับดูแลผู้ป่วยทางจิตของรัฐ จนกระทั่งมีโรงพยาบาลอีกแห่งเปิดขึ้นก่อนที่คนจนจะถูกย้ายไปรักษาในที่ใหม่ ขณะเดียวกันโรงพยาบาล บลูมมิ่งเดล ก็ได้กลายมาเป็นสถานที่รักษาตัวเฉพาะครอบครัวของคนรวยที่จ่ายไหว แน่นอนว่าครอบครัวมีเงินเหล่านี้ยอมจ่าย เพราะมันเป็นโรงพยาบาลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายและการดูแลที่ดีที่สุดในขณะนั้น
ถ้าหากมองเข้ามาจากทางด้านนอกก็จะเห็นอาคารที่สวยงาม มีสนามหญ้าและสวนที่ได้รับการตัดแต่งอย่างดี มีคอกม้าสำหรับการใช้ม้าบำบัด 2-3 ตัว ที่ถือว่าเป็นการบำบัดที่ดีมากสำหรับให้ผู้ป่วยได้มีโอกาสออกไปรับอากาศบริสุทธิ์ด้านนอก
อย่างน้อยที่สุด นั่นก็เป็นสิ่งที่คนภายนอกเชื่อ....
ภายในอาคารของโรงพยาบาล บลูมมิ่งเดลกลับตรงกันข้ามกับด้านนอกราวฟ้ากับหุบเหว โดยเฉพาะในช่วงปี 1821-1872 เรื่องราวภายในอาคารที่ควรเป็นความลับมาแตกตัวโพละ! เมื่อนักข่าวคนหนึ่ง “จูเลียส แชมเบอร์ส” (Julius Chambers) ได้ปลอมตัวเอาไปตรวจสอบภายในโรงพบาบาลขนาดใหญ่แห่งนี้
ในช่วง 10 วัน ที่อยู่ในนั้น เขาพบได้พบกับความสะเทือนขวัญมากมาย ผู้ป่วยหลายคนถูกล่วงละเมิด ในขณะที่เจ้าหน้าที่และพยาบาลที่ควรดูแลผู้ป่วยกลับมีนิสัยที่แสนโหดร้ายทารุณ ความเป็นอยู่ของผู้ป่วยก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิดเอาไว้ โรงนอนแออัดยัดเยียดและโภชนาการเองก็ไม่ดีอีกด้วย
เขาเห็นกับตาว่ามีผู้ป่วยหลายคนที่ถูกทารุณกรรม ในขณะที่มีผู้ป่วยคนหนึ่งที่พยายามเข้าไปช่วยคนอื่นที่ถูกทำร้ายถูกเจ้าหน้าที่จับมัดเอาไว้กับเก้าอี้ก่อนที่จะฟาดที่ศีรษะของเขาด้วยกระบอง นอกจากนี้ ผู้ป่วยถูกเตะ ต่อย รัดคอ กลายเป็นเรื่องปกติ เขาเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีผู้ป่วยหลายคนทนไม่ไหวจนถึงขั้นเลือกจบชีวิตตัวเองด้วยการฆ่าตัวตาย!!!
หลังจากบทความของเขาถูกตีพิมพ์ มันสร้างแรงกระเพื่อมเป็นอย่างมากต่อโรงพยาบาล บลูมมิ่งเดลก รวมไปถึงโรงพยาบาลจิตเวชแห่งอื่น มีการปล่อยตัวผู้ป่วย 12 คน ที่ไม่ได้วิกลจริตจริง ๆ และปรับโครงสร้างฝ่ายบริหารรวมไปถึงเจ้าหน้าที่ใหม่ทั้งหมด
หลังจากนั้นราวหนึ่งทศตวรรษ ที่ดินของโรงพยาบาล บลูมมิ่งเดลกได้ถูกนำไปขายส่วนหนึ่งเนื่องจากเมืองโดยรอบมีการขยายตัวกลายมาเป็นมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในปัจจุบัน พร้อมกับมีการปรับปรุงทำให้อาคารของโรงพยาบาล บลูมมิ่งเดลกที่ยังหลงเหลืออยู่มีเพียงสถานที่ที่เรียกกันว่า “Blue Hall” (Macy Villa) เท่านั้น
เดิมทีอาคารแห่งนี้ถูกออกแบบมาสำหรับให้เป็นที่อยู่อาศัยของผู้ป่วยชายที่ร่ำรวยได้รักษาตัวพร้อมกับอยู่อาศัยในสภาพแวดล้อมที่เหมือนบ้าน และอุโมงค์ใต้ดินบางส่วนที่ยังเป็นของโรงพยาบาล บลูมมิ่งเดลกดั้งเดิมก็ยังคงมีอยู่ พร้อมกับเสียงเล่าลือว่าในสมัยก่อนมันถูกใช้เป็นสถานที่คุมขังผู้ป่วยที่ใพฤติกรรมที่ไม่ดี พวกเขาจะถูกล่ามโซ่เอาไว้ท่ามกลางความมืดมิด
ผู้คนเชื่อกันว่าความโหดร้ายทารุณ และการเสียชีวิตมากมายที่เกิดขึ้นในพื้นที่นี้ เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้พื้นที่โดยรอบของอดีตโรงพยาบาล บลูมมิ่งเดลก ที่ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียมีเหตุการณ์เหนือธรรมชาติมากมายมาจนถึงปัจจุบันนี้...