Demon Cat ตำนานแมวผี แห่งอาคารรัฐสภา ประเทศสหรัฐอเมริกา
Demon Cat หรือที่นิยมเรียกกันอย่างย่อๆว่า “DC” เป็นชื่อที่เจ้าหน้าที่ในอาคารรัฐสภากรุงวอชิงตันดีซี แห่งสหรัฐอเมริกา (US Capitol Building) มอบให้กับ “แมวผี” ที่ปรากฏตัวราวกับจงใจที่จะหลอกหลอนอาคารแห่งนี้ตราบชั่วฟ้าดินสลาย แม้ว่าในอาคารแห่งนี้จะเต็มไปด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับผีสางมากมายตั้งแต่วิญญาณผีทหารที่เสียชีวิตในสงครามกลางเมือง เสียงตะโกนสุดท้ายของ จอห์น ควินซี อดัมส์ ในล็อบบี้ของอาคาร แต่ดูเหมือนจะไม่มีเรื่องไหนเลยที่ลี้ลับเทียบเคียงได้กับเจ้าแมวผีตนนี้...
เรื่องราวการถือกำเนิดของแมวผี Demon Cat
เรื่องราวของแมวผีตัวนี้ ต้องย้อนกลับไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน เมื่อแมวจำนวนหนึ่งได้ถูกพามายังอุโมงค์ใต้ดินของอาคารแห่งนี้เพื่อทำหน้าที่ในการตามล่าหนู เมื่อเวลาผ่านไปแมวหลายตัวก็ล้มตายจากอุบัติเหตุบ้าง อาการเจ็บป่วยหรือชราบ้าง แต่มีแมวอยู่ตัวหนึ่งที่ไม่ยอมจากไปแม้ว่ามันจะตายไปแล้วก็ตาม มันยังคงปรากฏตัวในบริเวณอุโมงค์ชั้นใต้ดินของอาคารรัฐสภาที่เดิมทีถูกตั้งใจว่าจะใช้เป็นสถานที่เก็บศพของประธานาธิบดี จอร์จวอชิงตัน
ลักษณะของแมวผี Demon Cat
จากการบอกเล่าของผู้ที่เคยพบเห็นแมวผี Demon Cat เล่าว่ามันเป็นแมวที่มีขนสีดำและมีขนาดพอกับแมวทั่วไป ในขณะที่พยานบางคนอ้างว่ามันยังสามารถขยายตัวจนมีขนาดพอกับ “เสือยักษ์” ที่มีขนาดความสูงและความยาวกว่า 3 เมตร และพุ่งเข้าใส่คนที่พบเห็นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ร่างอันใหญ่โตน่าสะพรึงกลัวของมันจะหายไปกลางอากาศก่อนถึงตัวเหยื่อ เหลือเอาไว้เพียงความตื่นตระหนกหวาดกลัวของผู้ที่ได้เผชิญหน้าอย่างสุดขีด
การปรากฏตัวของแมวผี Demon Cat
ตามตำนานเล่าว่าแมวผีตนนี้มักจะปรากฏตัวให้เห็นก่อนช่วงเวลาการเลือกตั้งประธานาธิบดี หรือก่อนที่จะเกิดโศกนาฏกรรมในเมืองวอชิงตันดีซี เช่น ก่อนเกิดเหตุการณ์ลอบสังหารประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคเนดี้และอับราฮัม ลินคอล์น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอาคารก็พบแมวผีตนนี้ ราวกับมันจงใจมาเตือนว่ากำลังจะเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญคนทั้งโลก โดยเฉพาะการเปลี่ยนประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอาคารรัฐสภาเป็นแขกขาประจำที่ถูกแมวผีหลอกหลอน เจ้าหน้าที่คนแรกที่พบมันกำลังเข้ากะกลางคืน เขาเห็นแมวดำตัวหนึ่งเดินเข้ามาหา ซึ่งเป็นเรื่องแสนธรรมดาเพราะในสมัยนั้นนิยมใช้แมวในการจัดการกับหนู แต่เมื่อมันเดินใกล้เข้ามา มันก็เริ่มมีขนาดตัวที่ใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆจนขนาดตัวพอกับเสือ มันกระโจนตะครุบเจ้าหน้าที่คนนั้นจนล้มลงกับพื้น ในขณะที่เหยื่อโชคร้ายก็พยายามปัดป้องตัวเองอย่างเต็มที่ด้วยความตกใจ แต่แล้วมันก็หายตัวไปกลางอากาศ
ในปี 1890 เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ Capitol Hill เผชิญหน้ากับแมวผี มันกระโดดใส่พวกเขาและถูกตอบโต้โดยการยิงปืนเข้าใส่ ซึ่งร่างที่น่าสะพรึงกลัวนั้นก็ได้หายวับไปเหมือนกับทุกครั้ง แต่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่เห็นแมวผีตัวนี้กลับเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวาย ทำให้กลายมาเป็นเรื่องราวการตายอย่างเป็นปริศนาที่หลายคนเชื่อว่าเกิดจากอำนาจลี้ลับของแมวผีมาจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม รายงานการพบเห็นแมวผีอย่างเป็นทางการที่ถูกบันทึกเอาไว้คือช่วงวันสุดท้าย หรือหลังสงครามโลกครั้งที่สองในช่วงปี 1945 เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอาคารออกลาดตระเวนในอุโมงค์ใต้ดินในขณะที่กำลังเมา จนกระทั่งเผลอหลับในอุโมงค์ เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะรู้สึกถึงลิ้นสากๆที่ที่กำลังเลียใบหน้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาปรากฏว่ามีแมวกำลังเลียเขาอยู่ เขารีบลุกขึ้นและต้องตกใจสุดขีดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับแมวผียักษ์ในตำนาน
หลักฐานที่น่าสนใจของแมวผี Demon Cat
หลักฐานที่เกี่ยวข้องกับแมวผี Demon Cat ที่เข้าท่ามากที่สุดคือ ภาพถ่ายอุ้งเท้าแมวตื้นๆในคอนกรีตที่มีชื่อว่า Small Senate Rotunda ในปี 1898 หลังจากที่รัฐสภาได้รับเสียหายจากแรงระเบิดของแก๊ส ทำให้พื้นที่บางแห่งถูกซ่อมแซมด้วยคอนกรีตและอาจมีแมวเดินผ่านไปในขณะที่ยังไม่แห้งดี จนกลายมาเป็นภาพพิมพ์รอยเท้า 6-8 รอย ที่ชัดเจนบริเวณหน้าห้องศาลฎีกาเก่าพร้อมกับมีการสลักคำว่า DC ลงไปด้วย เพราะคนจำนวนมากเชื่อว่านั่นคือรอยเท้าของเจ้าแมวผี Demon Cat
บทสรุปส่งท้าย : ตำนานแมวผีกับความเป็นจริงในเชิงประวัติศาสตร์
นักประวัติศาสตร์หลายคนเชื่อว่าบางทีตำนานแมวผี อาจจะไม่ได้มีอยู่จริงเพียงแต่เป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอาคารรัฐสภาในช่วงเวลานั้นที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการดื่มสุราจนเมามายในช่วงเวลาทำงาน ที่อาจเผลอหลับไปแล้วถูกแมวเลียหน้าแต่ด้วยฤทธิ์ของสุราทำให้เขาเห็นแมวเป็นสัตว์ประหลาดที่แสนน่ากลัว หรืออาจเป็นเพียงการสร้างเรื่องโกหกขึ้นว่าถูกแมวผีทำร้ายเพื่อให้หัวหน้าเห็นใจไม่ลงโทษทางวินัยจากการดื่มเหล้าขณะปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้กันดีในหมู่ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่าหากใครเผชิญหน้ากับแมวผี ก็จะได้นับวันหยุดเพื่อให้เวลาไปพักฟื้นทำใจจากเรื่องน่ากลัว หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นวิธีการหาข้ออ้างที่ฟังขึ้นนั่นเอง...
จะกละ กลุ่มก้อนไไสยเวทมนต์ดำที่อยู่ในร่างแมวสัตว์เลี้ยงใกล้ชิดของมนุษย์ ที่พร้อมสั่งตายทุกคนที่ได้สัมผัส...
อ้างอิง :
Why the U.S. Capitol’s ‘Demon Cat’ Legend Is So Persistent