กล่องดิบบุก (Dibbuk Box) กล่องเก็บไวน์ที่เต็มไปด้วยปริศนาเหนือธรรมชาติ ที่ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับมัน
กล่องดิบบุก (Dibbuk Box) เป็นสินค้าที่ถูกนำมาวางขายบนเว็บไซต์ eBay โดยชายคนหนึ่งที่มีนามว่า “เควิน แมนนิส” (Kevin Mannnis) ในปี 2001 หลังจากนั้นไม่นานนัก มันก็ถูกขายให้กับ “Iosif Nietzke” จากรัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา และถูกขายต่อให้กับ Jason Haxton ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์การแพทย์ Osteopathic ที่ AT Still University Haxton ผู้ที่กลายมาเป็นผู้เขียนหนังสือเรื่อง The Dibbuk Box เกี่ยวกับประสบการณ์ของเขาเกี่ยวกับตู้เก็บไวน์อันแสนลึกลับอันนี้
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเรื่องราวอาถรรพ์และวิญญาณเฮี้ยนมากมายของกล่องดิบบุกจะเกิดขึ้น โดยอ้างอิงจากปากคำของเจ้าของดั้งเดิมอย่างเควิน แมนนิส...
เปิดม่านประวัติศาสตร์สุดหลอนของกล่องดิบบุก
เควิน แมนนิส ได้ทำการซื้อกล่องดิบบุกมาจากการขายอสังหาริมทรัพย์จากผู้หญิงคนหนึ่งที่มีพื้นเพมาจากประเทศโปแลนด์ หลังจากที่เธอเสียชีวิตเมื่ออายุ 103 ปี แต่หลังจากที่เขานำมันมาคืนให้กับหลานสาวของผู้ตาย เพราะคิดว่ามันอาจเป็นวัตถุที่มีคุณค่าทางจิตใจ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะคงยืนกรานให้เขารับมันไปเช่นเดิม แถมยังบอกอีกว่ากล่องใบนี้ถูกเก็บเอาไว้โดยที่คุณยายไม่ยอมให้ใครเปิดมันแม้แต่ครั้งเดียว
เขานำกล่องดิบบุกไปรังร้านตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ที่เขาเป็นเจ้าของและนำมันไปเก็บเอาไว้ในห้องใต้ดิน วันหนึ่งเข้าออกไปทำธุระโดยปล่อยให้พนักงานเฝ้าร้านตามลำพัง ไม่นานหลังจากนั้นพนักงานก็ได้โทรศัพท์มาบอกกว่ามีใครบางคนอยู่ในร้าน โวยวาย สบถและไล่ทุบทำลายสิ่งของต่าง ๆ เมื่อกลับมาที่ร้าน ปรากฏว่าไฟในห้องใต้ดินพัง ห้องอบอวลด้วยกลิ่นฉี่ที่ฉุนเหมือนกับของแมว เหตุการณ์ประหลาดนี้ทำให้พนักงานคนนั้นไม่กลับมาเหยียบที่ร้านอีกเลย
หลังจากนั้นเขาก็ได้นำกล่องดิบบุกออกมาทำความสะอาดและนำไปเป็นของขวัญวันเกิดให้กับแม่ โดยนัดแม่ให้มาหาที่ร้านเพื่อที่จะได้ออกไปทานอาหารด้วยกันแล้วทำการมอบกล่องดิบบุกให้ ขณะที่เขาออกไปนอกร้านเพื่อโทรศัพท์เป็นเวลาเพียงชั่วครู่เดียว พนักงานคนหนึ่งมาตามเขาแล้วบอกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับแม่ของเขา
เมื่อกลับเข้ามาในร้าน เขาต้องตกใจมากเมื่อเห็นแม่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในสภาพที่เหมือนกับคนที่ไร้ความรู้สึก ร้องไห้และไม่ตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอกอย่างสิ้นเชิง หลังจากที่นำตัวส่งโรงพยาบาลแพทย์ได้ลงความเห็นว่าเธอป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองและสูญเสียความสามารถในการพูดไปชั่วขณะหนึ่ง
การสื่อสารของทั้งสองหลังจากนั้นจึงกลายเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบากเพราะต้องใช้วิธีการสะกดคำในกระดาษ ใช้การชี้ตัวอักษรทีละตัวเพื่อนำมาเรียงให้กลายเป็นคำ และเมื่อเขาถามว่าจะให้ของขวัญกับเธอ เธอก็เน้นอย่างหนักแน่นว่า “ไม่เอาของขวัญ!”
หลังจากนั้น เขาได้มอบกล่องดิบบุกให้กับน้องสาว หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์เธอก็นำมันกลับมามอบคืนให้กับเขา เขาจึงได้นำมันไปมอบให้กับภรรยาของพี่ชายซึ่งเก็บเอาไว้ 3 วัน ก่อนพี่ชายจะนำมาคืนพร้อมกับบอกว่ากล่องนี้มีกลิ่นเหมือนกับดอกมะลิ แต่ภรรยาของพี่ชายกลับบอกว่ามันมีกลิ่นเหมือนฉี่แมว!
เขาขายมันให้กับคู่รักวัยกลางคน แต่ 3 วันต่อมา เขาก็ได้พบกล่องดิบบุกถูกนำมาวางทิ้งเอาไว้ที่หน้าร้านพร้อมกับกระดาษเขียนข้อความว่า “มันมืดมิด”
ในที่สุดเขาจึงนำมันกลับบ้านด้วย แต่ในระหว่างนั้นเองที่เขาเริ่มฝันร้ายว่าในขณะที่เดินไปกับเพื่อน ปรากฏว่าเมื่อมองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย เขากลับเห็นสิ่งที่ “ชั่วร้าย!” เพื่อนกลายเป็นแม่มดหรือปีศาจที่น่าสยดสยอง หลังจากนั้นมันก็เข้ามาทำร้ายทุบตีจนเขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับรอยฟกช้ำบนร่างกายหลายแห่ง!?
เมื่อพี่สาว พี่ชายและพี่สะใภ้มาค้างคืนด้วย น่าแปลกที่ทุกคนฝันไปในทำนองเดียวกัน หลังจากนั้นเขาก็เริ่มพบกับสัตว์บางอย่างหลบซ่อนตัวอยู่ในเงามืดของบ้าน เมื่อเขานำกล่องมาวางเอาไว้ข้างนอกก็ได้รับการแจ้งเตือนจากเครื่องจับสัญญาณควันว่ามีควันออกมาจากกล่อง แต่เมื่อตรวจสอบดูก็ปรากฏว่าไม่มีควัน มีเพียงกลิ่นที่เหมือนกับปัสสาวะของแมวและกลิ่นดังกล่าวก็ซึมติดอยู่ในบ้านของเขาด้วย
ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจนำมันมาวางขายบน eBay โดนหวังว่าจะมีคนที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวอาถรรพ์จะนำมันออกไปจากมือของเขาได้สำเร็จ กระทั่งในที่สุดเขาก็ขายมันออก แต่คนที่ซื้อต่อไปก็นำมันกลับมาขายที่ eBay อีกครั้ง หลังจากนั้น 8 เดือน ด้วยเหตุผลที่ว่าพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการนอนไม่หลับและอาการเจ็บป่วยจากการเผชิญหน้ากับสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว
ในที่สุดเขาก็ขายมันออกในราคา 280 ดอลลาร์สหรัฐ ให้กับคนรู้จักที่เคยได้ยินเรื่องราวอาถรรพ์มาก่อนจนกระทั่งขายให้กับเจ้าของคนสุดท้ายคือ “Jason Hexton” ที่อ้างว่าเคยมีประสบการณ์เหนือธรรมชาติหลังจากที่ครอบครองกล่องดิบบุกเช่นกัน
เขากล่าวว่าต้องเผชิญหน้ากับอาการเจ็บป่วยเป็นโรคลมพิษหลังจากที่ได้รับกล่องเป็นครั้งแรก อาการค่อนข้างหนักถึงขนาดไอออกมาเป็นเลือดและสำลัก รวมไปถึงการเห็นแสงกับเงาที่ดูแปลกประหลาด
ถึงอย่างนั้น เขาก็ได้ใช้ความรู้ในฐานะของนักวิชาการรับมือกับเรื่องเหนือธรรมชาติ พร้อมกับขอความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญเหตุการณ์เหนือธรรมชาติเพื่อให้กล่องสามารถถูกเก็บรักษาเอาไว้โดยไม่ส่งผลกระทบมากนัก ในขณะเดียวกันก็ทำการศึกษาเพื่อทำความเข้าใจ “ความจริง” ที่ซ่อนอยู่ของกล่อง รวมไปถึงการค้นหาเจ้าของที่เหมาะสมกับกล่องดิบบุกอีกด้วย
กล่องดิบบุกกับการเก็บรักษาในปัจจุบัน
ในช่วงเวลาหนึ่งกล่องดิบบุกได้ถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างปลอดภัยในหีบไม้อะคาเซียที่บุด้วยทองคำ 24 กะรัต แล้วนำไปเก็บรักษาเอาไว้ ณ สถานที่ที่เขาเรียกว่าถ้ำเพื่อให้มันอยู่อย่างสงบปราศจากการถูกรบกวน แต่เมื่อไม่นานมานี้เขายอมรับว่าได้นำมันใส่ลงไปในกล่องกันกระแทกเกรดทหาร จากนั้นนำมันไปฝังเอาไว้ในสถานที่สักแห่งที่เป็นความลับเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่ถูกค้นพบอีก...