เที่ยวบินที่ 19 ปริศนาการหายตัวไปของเครื่องบิน 6 ลำ กับชาย 27 คน อย่างไร้ร่องรอยในเขตสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
“สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา” ยังคงดำรงชื่อเสียงในฐานะของ “สามเหลี่ยมปีศาจ” ที่ยังมีเหตุการณ์ลึกลับบางอย่างเกิดขึ้นตลอดเวลาอย่างเช่นเหตุการณ์ของ “เที่ยวบินที่ 19” (Flight 19) ที่เคยกลายมาเป็นปริศนาจนทั่วโลกต่างพยายามหาคำตอบมาจนถึงปัจจุบัน
ความลึกลับของเที่ยวบินที่ 19 แห่งสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
วันที่ 5 ธ.ค. 1945 เวลา 14.10 น. เครื่องบินทิ้งระเบิดตอร์ปิโดของกองทัพเรือสหรัฐจำนวน 5 ลำ ที่ประกอบกันกลายเป็นเที่ยวบินที่ 19 ได้ออกเดินทางฐานทัพอากาศของกองทัพเรือในรัฐฟลอริดาพร้อมกับภารกิจการฝึกบินตามปกติเป็นเวลานาน 3 ชั่วโมง ที่มีชื่อรหัสว่า Navigation โดยมีจุดประสงค์เพื่อผสานระหว่างการนำทางกับการนำทางเข้าด้วยกัน
ผู้นำในการฝึกของเที่ยวบินที่ 19 คือ “นาวาอากาศเอกชาร์ลส์ แคร์รอล เทย์เลอร์” (Us Navy Lieutenant Charles Carroll Taylor) นักบินผู้มีประสบการณ์บินกว่า 2,500 ชั่วโมง ผู้ที่ปฏิบัติการส่วนใหญ่อยู่ในเครื่องบินประเภทนี้ ซึ่งมีแผนการบินไปทางทิศตะวันออกเป็นระยะทาง 193 ก.ม แล้วบินไปทางเหนือเป็นระยะทาง 117 ก.ม แล้วจึงค่อยทำการเดินทางกลับมายังฐานทัพเรือ
รายงานทางด้านสภาพอากาศของวันนั้นระบุว่ามีพายุ ขัดแย้งกับรายงานของนักบินที่บอกว่าอากาศปลอดโปร่ง แต่หลังจากที่ทำการบินไต่ระดับได้เป็นที่เรียบร้อยเป็นระยะเวลานาน 2 ชั่วโมง หัวหน้าฝูงบินผู้ที่บินอยู่ในบริเวณดังกล่าวมานานกว่า 6 เดือนแล้ว เขากลับรายงานว่าเข็มทิศหลักและสำรองไม่สามารถใช้การได้ ทำให้พวกเขาไม่รู้ตำแหน่งของตัวเอง
หลังจากนั้นลูกฝูงเองก็เริ่มประสบกับปัญหาความผิดปกติที่คล้ายกัน เจ้าหน้าที่วิทยุบนบกได้พยายามติดต่อกับเที่ยวบินที่ 19 เพื่อค้นหาพวกเขา แต่กลับไม่มีใครประสบความสำเร็จ พวกเขาได้รับข้อความทางวิทยุที่ชวนสับสนเป็นเวลานานกว่าสองชั่วโมง จนถึงเวลา 18.20 น. พวกเขาได้ยินว่าผู้นำฝูงตัดสินใจที่จะให้ลูกฝูงจัดระเบียบกลุ่มเพื่อทำการทิ้งระเบิดที่บรรทุกมาพร้อมกัน เนื่องจากพวกเขากำลังขาดแคลนเชื้อเพลิง
ในช่วงเวลานี้เอง สถานีเรดาร์ภาคพื้นดินหลายแห่งได้ระบุว่าเที่ยวบิน 19 ปรากฏตัวที่ไหนสักแห่งทางตอนเหนือของบาฮามาสและทางตะวันออกของชายฝั่งฟลอริดาก่อนที่จะหายไป ข่าวอันน่าพรั่นพรึงนี้ ทำให้ฐานทัพอากาศ เครื่องบินและเรือสินค้าได้รับการแจ้งเตือนให้ช่วยกันมองหาเที่ยวบินที่ 19 ที่อาจโหม่งพื้นทะเลเนื่องจากเชื้อเพลิงหมด
เวลา 19.27 น. ได้เริ่มปฏิบัติการช่วยเหลือ ค้นหาและสอบสวนการหายไปของเที่ยวบินที่ 19 อย่างเป็นทางการ เครื่องบินทะเลมารีนเนอร์ ได้ออกบินพร้อมกับลูกเรือ 13 คน สามนาทีต่อมาพวกเขาส่งสัญญาณวิทยุบอกกับฐานว่ากำลังดำเนินภารกิจ แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีการติดต่อกลับมากอีก จนกระทั่งมีรายงานจากเรือบรรทุกน้ำมันที่กำลังแล่นอยู่นอกชายฝั่งฟลอริดาว่าพวกเขาเห็นการระเบิดอย่างชัดเจนเมื่อเวลา 19.50 น.
การหายตัวไปของทหาร 14 นาย จากเที่ยวบินที่ 19 และทหารเรือ 13 คน จากหน่วยนาวิกโยธินหน่วยค้นหาทำให้เกิดการค้นหาทางอากาศและทางทะเลที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ทางทะเล เรือและเครื่องบินจำนวนมากได้ออกค้นหากินระยะทางหลายพันตารางไมล์ของมหาสมุทรแอตแลนติก อ่าวเม็กซิโก และทะเลอันห่างไกลของฟลอริดา อย่างไรก็ตาม กลับไม่มีการพบร่องรอยของศพหรือเครื่องบินเลย
เจ้าหน้าที่กองทัพเรือยืนยันว่าไม่การพบซากเครื่องบินทั้ง 6 ลำ และชาย 27 คน อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่มีพายุรุนแรงจนกลายเป็นการทำลายหลักฐานทั้งหมดไป แต่เรื่องราวการหายไปอย่างเป็นปริศนาดังกล่าวก็เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มตำนานให้กับสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาที่มีประวัติการหายตัวไปของเรือและเครื่องบินอย่างไร้ร่องรอยมาอย่างมากมาย
จนถึงทุกวันนี้ ยังไม่มีคำตอบของคำถามที่ว่า เครื่องบิน 6 ลำ กับชาบ 27 คน พวกเขาหายไปจากโลกใบนี้อย่าเป็นปริศนาได้อย่างไร..!?
“หญิงสาวปริศนาในรูปถ่าย” เจอคนแปลกหน้าในรูปอย่าตามหา! ตำนานเมืองสยองของประเทศญี่ปุ่น