โอกามะ (Ōgama) ภูตคางคกยักษ์พันปี ผู้กินมนุษย์เป็นอาหาร แห่งประเทศญี่ปุ่น

โอกามะ (Ōgama) เป็นภูตคางคกขนาดมหึมา ยิ่งพวกมันมีขนาดตัวที่ใหญ่มากขึ้นเท่าไหร่ก็จะยิ่งเป็นอันตรายมากขึ้นเท่านั้น โอกามะมีลิ้นยาวที่ว่องไวและเหนียวหนืดสำหรับใช้ในการจับเหยื่อมากินเป็นอาหาร ยามเมื่อหายจะปรากฏลมหายใจสีรุ้งเมื่อหายใจออก พวกมันมีความสามารถในการแปลงร่างปลอมตัวเป็นมนุษย์ และบางตัวยังพกหอกยาวสำหรับใช้เป็นอาวุธเพื่อทำร้ายมนุษย์
พฤติกรรมของโอกามะ

เชื่อกันว่าโอกามะถือกำเนิดขึ้นมาจากคางคกญี่ปุ่น (Bufo japonicus) มีอายุยืนยาวจนครบ 1,000 ปี ก็เปลี่ยนสภาพกลายเป็นโอกามะ พวกมันมีพฤติกรรมพื้นฐานคล้ายกับคางคกทั่วไป ชอบการอาศัยอยู่ลึกเข้าไปในหุบเขาบริเวณริมแม่น้ำ อาหารส่วนใหญ่มักเป็นแมลง นกและงู ด้วยการใช้ลิ้นอันทรงพลังฉกลากพวกมันมากิน
ไม่ค่อยมีการพบเห็นโอกามะนัก เพราะถิ่นอาศัยอยู่ห่างไกลจากผู้คน แถมบางครั้งเมื่อพวกมันนอนหลับพักผ่อน ด้วยขนาดตัวขนาดใหญ่และสีผิวกลมกลืนกับธรรมชาติ ทำให้มนุษย์เดินผ่านไปเพราะคิดว่าพวกมันเป็นเพียงก้อนหินขนาดใหญ่ บางครั้งอาจมีคนเผลอนั่งทับมันเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างไรก็ตามหากโอกามะถูกยั่วยุ พวกมันก็ฉลาดพอที่ไล่ล่ามนุษย์ด้วยอาวุธประเภทหอกในมือและเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกมันตัวใหญ่มากกว่า 3 เมตร โอกามะก็จะเริ่มมองว่ามนุษย์เป็น “อาหาร”
ตำนานที่น่าสนใจของโอกามะ

เมื่อนานมาแล้วในจังหวัดมิยางิ นักแม่นปืนผู้เปี่ยมชื่อเสียงคนหนึ่งได้ยินเรื่องของบ้านเก่าทรุดโทรมที่ตั้งอยู่ริมสะพาน ทุกคืนในบ้านหลังนั้นจะมีหญิงชราแปลกหน้ามานั่งปั่นด้ายเป็นประจำทำให้เพื่อนบ้านหวาดกลัวเพราะคิดว่าเธออาจเป็นร่างจำแลงของภูตผีบางต้น
นักแมนปืนจึงได้ไปเยือนและสอบถามความจริงกับหญิงชรา แต่.. เธอกลับเอาแต่หัวเราะจนน่ารำคาญ เขาจึงได้เล็งปืนไปที่หัวใจของเธอแล้วลั่นไกทันที พร้อมกับแสงตะเกียงของเธอที่ดับลง ในขณะที่เขาคลำทางเพื่อกลับบ้านท่ามกลางความมืดมิด
เช้าวันรุ่งขึ้น เขากลับไปที่บ้านหลังนั้นเพื่อตรวจสอบสภาพศพ ปรากฏว่าไม่มีศพของหญิงชราอยู่ที่นั่น ไม่มีแม้แต่คราบเลือดหรือร่องรอยว่าเธอได้รับบาดเจ็บ สิ่งนี้สร้างความฉงนให้กับเขาเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามไม่กี่คืนต่อมาหญิงชราก็กลับมาปรากฏตัวในบางอีกครั้ง
นักแม่นปืนเผชิญหน้ากับหญิงชราพร้อมปืนในมืออีกครั้ง แต่คราวนี้เขายิงใส่ตะเกียงแทน ทันทีที่ทำแบบนั้นความมืดก็เข้ามาครอบคลุมบ้าน พร้อมกับเสียงกรีดร้องอย่างน่ากลัวและเสียงอะไรบางอย่างกระแทกใส่กัน เขากลับบ้านแล้วย้อนกลับมาอีกครั้งในตอนเปรากฎว่าศพของหญิงชราที่ควรนอนอยู่ในบ้าน กลับกลายเป็นร่างไร้วิญญาณของคางคกขนาดมหึมาที่ดูน่าเกลียดน่ากลัว
อีกเรื่องเล่า เป็นเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่เดินทางลึกเข้าไปในภูเขาเพื่อหาปลา เมื่อพบทางน้ำเหมาะๆ จึงได้นั่งลงบนก้อนหินริมทางแล้วโยนสายเบ็ดลงไปในน้ำ ในตอนนั้นเองที่นักตกปลาอีกคนที่นั่งอยู่อีกด้านหันมามองที่เขาพร้อมกับสีหน้าซีดเผือก ก่อนจะตะโกนบอกเขาให้วิ่ง! แล้ววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาก็รีบวิ่งตามหลังกันไปทันที
เมื่อตามมาทันกันในป่า นักตกปลาอีกคนเล่าให้ฟังว่าก้อนหินที่เขานั่งอยู่นั้นอยู่ๆก็ปรากฏดวงตาสีแดงขนาดใหญ่ขึ้น หลังจากนั้นมันก็อ้าปากหาว เมื่อทั้งสองคนพากันกลับไปดูที่ริมทางน้ำอีกครั้ง ก้อนหินนั้นได้หายไปแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะเผลอไปนั่งพักบนหลังของโอกามะอย่างไม่ทันรู้ตัว...
เท็งกูบิ (Tengubi) เปลวไฟปริศนาที่ล่องลอยเหนือผืนน้ำยามราตรี แห่งประเทศญี่ปุ่น

