มนุษย์หมาป่าลิโวเนีย (Livonia Werewolves) ตำนานขบวนปีศาจหมาป่าที่น่าสะพรึงกลัวแห่งทวีปยุโรป
มนุษย์หมาป่าลิโวเนีย (Livonia Werewolves) เป็นเหตุการณ์ตื่นตระหนกต่อสถานการณ์โรคมนุษย์หมาป่าแบบหมู่ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของทวีปยุโรปในช่วงทศวรรษที่ 1600 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่การล่าแม่มดกำลังอยู่ในจุดสูงสุด
เรื่องราวเกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่ลิโวเนีย (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐบอลติกเอสโตเนียและลัตเวีย) ที่เต็มไปด้วยความเชื่อทางด้านเวทมนตร์และความหวาดกลัวต่อมนุษย์หมาป่า ในเหตุการณ์ทั้งนี้มีผู้ถูกกว่าหากว่า 31 คน ถูกสำนักศักดิ์สิทธิ์ (Inquisition) ที่ได้รับหน้าที่ในการกวาดล้างเหล่าแม่มดและผู้ต่อต้านคริสต์ศาสนาถูกนำตัวมาพิจารณาคดีในข้อหาสร้างความเสียหายต่อสัตว์ ทรัพย์สินและผู้คนในขณะที่กลายร่างไปอาละวาดในร่างของมนุษย์หมาป่า
ตามบันทึกของศาล เหล่ามนุษย์หมาป่าและผู้คนจำนวนหลายพันตัวได้พากันออกมาเดินขบวนในตอนกลางคืนหลังวันคริสต์มาสเป็นเวลา 12 วัน ราวกับเป็นพิธีกรรมบางอย่าง บางคนกลายร่างเป็นหมาป่า ในขณะที่คนส่วนใหญ่ยังอยู่ในร่างของมนุษย์แต่ก็ดูเหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์ให้เดินไปเรื่อย ๆ บางครั้งมนุษย์หมาป่าก็จะถูกปีศาจทำการทุบตีด้วยโซ่หรือแท่งเหล็กพร้อมกับบังคับให้พวกมันจู่โจมใส่ฝูงปศุสัตว์
แคสเปอร์ พิวเซอร์ (Casper Peucer) แพทย์นิกายโปรเตสแตนต์ ได้ทำการบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอาไว้ใน “Commentarius de Praecipibus Divinationum Generibus” ปี 1560 อย่างน่าสนใจว่า
ในวันคริสต์มาส เด็กชายผู้ที่มีขาข้างเดียวเดินไปทั่วเขตชนบทพร้อมกับอัญเชิญปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนให้ติดตามเข้าร่วมการประชุมใหญ่ ใครก็ตามที่ยังอยู่ข้างหลังหรือไม่เต็มใจจะเข้าร่วมก็จะถูกฟาดด้วยแส้เหล็กจนเลือดไหล ร่างของมนุษย์สูญสิ้นไปกลายเป็นหมาป่าหลายพันตัวกำลังรวมตัวกันอยู่แทน
ผู้นำถือแส้เหล็กทำหน้าที่เป็นหัวหน้า กองกำลังก็เดินตามมาด้วยความเชื่อมั่นภายในจินตนาการว่าตัวเองกำลังอยู่ในร่างของหมาป่า พวกมันล้มวัวและฝูงแพะ แต่พวกมันไม่มีอำนาจมากพอที่จะสังหารข้าพเจ้าได้ เมื่อพวกมันเดินทางมาถึงแม่น้ำ ผู้นำก็จะฟาดน้ำด้วยแส้เหล็กและแบ่งแม่น้ำออกเป็นสองส่วน ตรงกลางที่น้ำแห้งขบวนก็จะใช้เป็นเส้นทางในการเดินทางต่อไป การกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าดังกล่าวกินเวลา 12 วัน เมื่อหมดช่วงเวลานั้นลงหนังหมาป่าก็จะหายไปและร่างของมนุษย์กลับมาปรากฏอีกครั้ง
นักอสูรวิทยามองว่าความสามารถในการแยกสายน้ำออกจากกันถือว่าเป็นการเยาะเย้ยเหตุการณ์แยกทะเลแดงตามพระคัมภีร์ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงแสดงพลังเพื่อช่วยเหลือชาวอิสราเอลให้หลบหนีออกจากอียิปต์...
นินเหมินจู (Ninmenju) ต้นไม่ประหลาดหน้าคน ถ้าหากใครหัวเราะใส่มันจะหัวเราะกลับ แห่งประเทศญี่ปุ่น