โอมากาโทกิ (Ōmagatoki) ปรากฎการณ์น่าขนลุกช่วงพลบค่ำ แห่งประเทศญี่ปุ่น
โอมากาโทกิ (Ōmagatoki) เป็นช่วงเวลาพลบค่ำหรือช่วง “โพล้เพล้” ระหว่างที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า ทำให้มันกลายเป็นช่วงเวลาพิเศษที่ไม่ใช่ทั้งกลางวันและกลางคืน ในช่วงเวลานี้เงาจะกลืนกินทุกสรรพสิ่ง สายตาของมนุษย์ก็จะเล่นตลกกับความคิดในหัว ในขณะเดียวกันพรมแดนระหว่างโลกมนุษย์กับโลกวิญญาณและโลกอื่นก็จะเปิดออก ทำให้เหล่าภูตผี วิญญาณชั่วร้ายสามารถข้ามเข้ามาในโลกของคนเป็นได้
เหล่าภูตผีที่ปรากฏตัวในช่วงโอมากาโทกิจะมาพร้อมกับสัญญาณบางอย่าง เช่น มีสายลมพัดเย็น กลิ่นแปลกประหลาดในอากาศที่คล้ายกับปลาหรือกลิ่นเลือด บางครั้งก็จะมีการโจมตีอย่างเป็นปริศนาเกิดขึ้นในเงามืดอย่างกะทันหัน รวมไปถึงอุณหภูมิที่ลดน้อยลงอย่างกะทันหันจนทำให้ขนลุกไปทั้งตัว
การปรากฏตัวของช่วงเวลาโอมากาโทกิ
โดยพื้นฐานแล้วโลกมนุษย์กับโลกวิญญาณทั้งสองแห่งจะแยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง เพราะถ้าหากมันทับซ้อนกันขึ้นมาเมื่อไหร่ก็มีแต่จะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายมากมายตามมา โดยเฉพาะกับมนุษย์ ดังนั้น ผู้คนส่วนใหญ่จึงพยายามหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ด้วยการรีบกลับบ้านก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าที่จะปลอดภัยเพราะอาจได้ยินเสียงแปลกประหลาดดังก้องไปทั่ว ถ้าหากใครยังดันทุรังเดินทางในตอนกลางคืน หรือเหล่าเด็กน้อยที่หลงทางบนภูเขาในความมืด เชื่อกันว่าพวกเขาอาจถูกลักพาตัวไปยังอีกโลกหนึ่ง ถ้าหากโชคดีอาจได้กลับมายังโลกมนุษย์หลังจากที่ผ่านไปหลายปีต่อมา แต่.. จิตใจกับพฤติกรรมอาจได้รับความกระทบกระเทือนเปลี่ยนแปลงไปไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ตำนานที่น่าสนใจเกี่ยวกับปรากฏการณ์โอมากาโทกิ
นิทานที่เล่าขานเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับปรากฏการณ์โอมากาโทกิที่เก่าแก่มากที่สุด มาจากคำบอกเล่าของผู้คนที่อาศัยอยู่ในป่า นักเดินทางและเหล่าอาชญากรที่หลบหนีกฎหมายเข้าไปอาศัยอยู่ในป่าอันห่างไกล เมื่อพวกเขาออกมาจากป่าเข้าสู่เมืองก็จะนำเรื่องราวแปลกประหลาดที่ตัวเองได้พบยามพลบค่ำให้คนอื่นฟัง เมื่อเวลาผ่านไปเรื่องราวน่าขนลุกเหล่านี้ก็ได้พัฒนาเสริมเติมแต่งจนกลายมาเป็นความเชื่อในเรื่องของโชคลางเก่าแก่ที่สุดของชาวญี่ปุ่น กลายมาเป็นศสานาและสังคมอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน...