“ไมเคิล ไมเยอร์ส” (Michael Myers) ผู้เป็นอมตะ หนึ่งในฆาตกรสุดโหดผู้ไม่ยอมตายแห่งโลกมายาภาพยนตร์
“ไมเคิล ไมเยอร์ส” (Michael Myers) เป็นหนึ่งในฆาตกรหนังสยองขวัญผู้วิกลจริตและเงียบสงัด เขาเริ่มเริ่มต้นเส้นทางของฆาตกรด้วยการฆ่าพี่สาวของตัวเองในวัย 6 ขวบ ในวันฮัลโลวีนและถูกนำไปจองจำอยู่ในสถาบันทางจิตนานถึง 15 ปี ก่อนที่จะหลบหนีออกมา พร้อมกับสะกดรอยตามฆ่าผู้คนในบ้านเกิดของตัวเอง ณ เมืองแฮดดอนฟิลด์ รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
เหตุผลในการสังหารพี่สาวของตัวเองของไมเคิลยังคงเป็นปริศนา แม้แต่เจ้าตัวก็ยังปฏิเสธที่จะกล่าวถึงแล้วเลือกที่จะนิ่งเงียบราวกับก้อนหินนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่จากคำบอกเล่าของตัวละครที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของไมเคิลได้กล่าวเอาไว้ว่า เขามีนิสัยชอบตัดปีกของผีเสื้อออกอันเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าฆาตกรรายนี้เกิดขึ้นมาพร้อมกับความบกพร่องทางศีลธรรมที่มีแนวโน้มความต้องการฆ่าก่อนที่จะลงมือสังหารพี่สาวของตัวเอง
หากประเมินจากระยะเวลาในการก่ออาชญากรรมจะเห็นได้ว่า ไมเคิล ไมเยอร์ส เริ่มลงมือสังหารโหดเหยื่อรายแรกตอนอายุ 6 ขวบ และเมื่อถึงภาคสุดท้ายฆาตกรสุดโหดร้ายนี้จะมีอายุมากถึง 65 ปี แต่แรงกระตุ้นในการเข่นฆ่าก็ดูเหมือนจะไม่ได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด และสิ่งที่ทำให้ไมเคิลน่ากลัวคือความเป็น “อมตะ” ฆ่าไม่ตายทั้งที่เป็นมนุษย์ธรรมดาที่มีเลือดเนื้อเหมือนกับคนทั่วไป!?
การปรากฏตัวและพฤติกรรมของไมเคิล ไมเยอร์ส
ไมเคิล ไมเยอร์ส ปรากฏตัวสังหารผู้คนในวันฮัลโลวีนอย่างเหี้ยมโหดด้วยการแสดงออกที่เรียบเฉยไม่ต่างจากหุ่นยนต์ปราศจากความเห็นอกเห็นใจอย่างสิ้นเชิง ทำให้ไมเคิลถือว่าเป็น “ศูนย์รวมของความชั่วร้ายที่บริสุทธิ์” ตามเรื่องราวไมเคิลพยายามตามล่า “ลอรี่ สโตร์ด” และจะสังหารทุกคนที่เข้ามาขวางเส้นทางอย่างปราศจากความปรานี
หลังจากที่ไมเคิล ไมเยอร์สสังหารเหยื่อเสร็จสิ้น มันก็มักจะกลับไปที่บ้านของตัวเองในวัยเด็กที่ถุกทอดทิ้งให้รกร้าง พลางจ้องมองไปที่เงาสะท้อนของตัวเองในกระจกหน้าต่างห้องนอนของพี่สาวเสมอ
นอกจากนี้ ไมเคิลยังชื่นชอบการนำเอาศพของเหยื่อมาจัดวางเอาไว้ในรูปแบบสยองขวัญและพิธีกรรม ในจุดที่เหยื่อรายอื่นจะมาพบเห็นเข้าได้ง่ายพร้อมกับความตกใจขีดสุดและบางครั้งก็ดูเป็นงานศิลปะจากนรกอีกด้วย
ถึงแม้ว่าภายนอกพฤติกรรมของไมเคิลจะดูราวกับสัตว์ป่า แต่ที่จริงแล้วเขาฉลาดมาก เช่น การหลอกผู้คนในโรงพยาบาลจิตเวชว่าไร้การตอบสนองและเงียบสงบเป็นเวลานานกว่า 15 ปี ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ค่อยใส่ใจเขานักก่อนที่จะหลบหนีออกมา หลังจากนั้นก็ทำแบบเดิมจนถูกขังต่อไปอีก 40 ปี โดยที่ไม่ต้องโทษประหารจากฆาตกรโหดมากมายที่ได้ก่อขึ้น
เหตุผลในการปรากฏตัวสังหารเหยื่อเฉพาะวันฮัลโลวีน
สำหรับประเด็นนี้มีการถกเถียงกันอย่างหลากหลาย เช่น อาจจะเป็นความต้องการฉลองวันฮัลโลวีนด้วยเลือด ด้วยแรงปรารถนาที่เหมือนกับปีศาจหลอกหลอนฮัลโลวีนจนทำให้เกิดความหวาดกลัวหลงเหลือทิ้งเอาไว้ และความต้องการเป็นตัวแทนของคืนวันฮัลโลวีน หรือเป็นตัวแทนความชั่วร้ายที่ออกมาหลอกหลอนผู้คนในคืนฮัลโลวีน
ทฤษฎีต้นกำเนิดความชั่วร้ายของไมเคิล ไมเยอร์ส
โดยพื้นฐานแล้วความชั่วร้ายของไมเคิล ไมเยอร์ส ถูกตั้งข้อสังเกตเอาไว้อย่างน่าสนใจหลายประการ ขึ้นอยู่กับว่าในเวอร์ชั่นของภาพยนตร์มีการกล่าวถึงเขาอย่างไร เช่น
-ไมเคิล ไมเยอร์ส ถือกำเนิดมาพร้อมกับความบกพร่องทางศีลธรรมอย่างรุนแรง ทำให้เขาไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีในการเข่นฆ่าสิ่งมีชีวิตอื่น
-ไมเคิล ไมเยอร์ส เป็นบุคลวิกลจริตที่ถูกครอบงำด้วยแรงกระตุ้นแห่งการฆ่าเมื่อสวมหน้ากาก
-ไมเคิล ไมเยอร์ส เป็นหุ่นเชิดที่ถูกสาปแช่งจากพลังเหนือธรรมชาติอันชั่วร้ายให้ทำการเข่นฆ่าสังหารผู้คน
-ไมเคิล ไมเยอร์ส ชื่นชอบความซาดิสต์ ถึงแม้ว่าจะไม่เคยพูดเลยแม้แต่คำเดียว แต่การกระทำในลักษณะของการทรมานเหยื่อก่อนที่จะทำการสังหารทิ้งอย่างเลือดเย็น หรือการตามสะกดรอยพร้อมกับข่มขู่เหยื่อให้หวาดกลัวก่อนลงมือสังหารก็เป็นสิ่งที่ช่วยสนับสนุนแนวคิดนี้ได้เป็นอย่างดี
สิ่งที่ไมเคิล ไมเยอร์ส โปรดดปราน
ถ้าหากอ้างอิงจากสิ่งที่ไมเคิล ไมเยอร์สแสดงออกมาในภาพยนตร์และคำบอกเล่าของพยานในเรื่องราวจะเห็นได้ว่าสิ่งที่เขาชื่นชอบมีอยู่ 3 สิ่ง คือ
หน้ากากแห่งความตายสีขาว
หน้ากากสีขาวของผู้ชายที่ปราศจากสีหน้าอันน่าสะพรึงกลัว ที่ใช้ปกปิดใบหน้าที่แสดงอารมณ์ เมื่อถูกถอดหน้ากากออกเขาจะมีอาการตื่นตระหนกและหวาดกลัวเป็นอย่างมาก และหน้ากากอาจเป็นสิ่งที่เขาใช้ปฏิเสธความเป็นมนุษย์ ใช้สร้างภาพลักษณ์ของฆาตกรที่น่าหวาดกลัว เป็นศูนย์รวมของความชั่วร้ายที่หากถอดหน้ากากออกก็อาจทำให้สูญเสียสิ่งเหล่านั้นไป
เงาของตัวเองที่สะท้อนในกระจก
เงาของตัวเองที่สะท้อนในกระจกหน้าต่างห้องนอนของพี่สาวในบ้านของตัวเอง ที่ไมเคิลมักที่จะหวนกลับมายืนมองทุกครั้งหลังจากที่ได้ทำการสังหารโหด
การสังหารเหยื่อ โดยเฉพาะเด็กสาววัยรุ่น
การสังหารเด็กสาววัยรุ่น เพราะเหยื่อคนโปรดของเขาคือพี่สาวของตัวเองในช่วงวัยรุ่น ทำให้ไมเคิลพยายามที่จะจำลองการฆาตกรรมนั้นขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เป็นเหตุผลที่ทำให้เขามักเล็งเป้าหมายไปยังบรรดาเด็กสาว ๆ