ถ้าหากคุณผู้อ่านได้ดูภาพยนตร์... ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องราวของการใช้ชีวิตในเรือนจำ อาจจะเคยชินกับห้องขังที่มีเตียง
มีเวลาพักผ่อน อาหารเพียบพร้อม ช่วงเวลาในการออกกำลังกายสันทนาการ
รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่สิ่งเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นภาพที่เกิดขึ้นในเรือนจำของประเทศที่เจริญด้านมนุษย์ธรรมแบบสุดๆเท่านั้น
เพราะในความเป็นจริงแล้วเรือนจำส่วนใหญ่ในประเทศด้อยพัฒนา
และปกครองด้วยระบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ชีวิตในเรือนจำก็ไม่ต่างอะไรจากนรกบนดิน ซึ่งบทความในวันนี้สารานุกรมแห่งความตายจะขอพาคุณผู้อ่านไปทำความรู้จักกับเรือนจำที่พรากชีวิตของผู้ต้องขังไปมากเสียจนเกิดเรื่องราวสยองหลอนผู้ต้องขังมาอย่างยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน...
1.เรือนจำสยอง : Camp 22 ประเทศเกาหลีเหนือ
ค่ายกักกัน Hoeryong หรือที่รู้จักกันในชื่อของ Camp 22 เป็นหนึ่งในเรือนจำ
ชื่อก้องโลกที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เฉพาะในปี พ.ศ. 2555 เรือนจำแห่งนี้ทำหน้าที่กักขังบรรดาเหล่านักโทษทางการเมืองของเกาหลีเหนือเอาไว้กว่า
50,000 คน นักโทษบางคนอ้างว่า สถานที่แห่งนี้ได้ทำการกักขังครอบครัวของผู้ต่อต้านท่านผู้นำมานานกว่าสามชั่วอายุคน
นอกจากนี้ยังทำการทรมานนักโทษอย่างรุนแรง รวมไปถึงข่าวลือในการนักโทษไปใช้ทดลองอาวุธชีวะภาพ
อาวุธสังหาร และระเบิด ทำให้เรือนจำแห่งนี้กลายมาเป็นศูนย์ความโหดร้ายทารุณอีกมากมายที่ซ่อนอยู่หลังม่านเหล็กแห่งปริศนาของประเทศเกาหลีเหนือ
2.เรือนจำสยอง : Carandiru Prison ประเทศบราซิล
Carandiru Prison เป็นเรือนจำที่เคยเกิดการก่อจลาจลครั้งใหญ่ขึ้นในปี
พ.ศ.2535 จนทำให้เกิดการสังหารหมู่นักโทษไปหลายคน ซึ่งไม่น่าแปลกใจนักที่นักโทษจะพยายามก่อการจราจร
เพราะในช่วง 46 ปี ที่ผ่านมา มีนักโทษในเรือนจำแห่งนี้ถูกปฏิบัติอย่างโหดร้ายในระหว่างการคุมขังจนเสียชีวิตไปกว่า
1,300 คน แต่หลังจากที่ถูกกลุ่มเรียกร้องสิทธิมนุษยชนรุมโจมตีอย่างหนัก ในที่สุดรัฐบาลบราซิลก็ต้องยอมปิดตัว
เรือนจำสุดเหี้ยมนี้ลงอย่างถาวรในปี พ.ศ. 2545
แต่ดูเหมือนว่ามันเป็นสถานที่สุดเฮี้ยน! ที่ไม่มีใครอยากที่จะไปเยือนอย่างแน่นอน
3.เรือนจำสยอง : Tadmor Military Prison ประเทศซีเรีย
หนึ่งในเรือนจำที่ถูกจารึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นสถานที่ที่มีการกดขี่ข่มเหงนักโทษมากที่สุดของโลก
เพราะดูเหมือนว่าถูกออกแบบมาเพื่อ “ลดจำนวน” ของนักโทษให้น้อยลงอย่างไม่ผิดสังเกต แต่เหตุการณ์ที่นองเลือดที่สุดเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน
ค.ศ.1980 เมื่อประธานาธิบดีฮาราอัสอัล – อัสซาด สั่งให้สังหารนักโทษทุกคนในเรือนจำ
เพื่อตอบโต้การพยายามลอบสังหารด้วยฝีมือของกลุ่มภราดรภาพมุสลิมการสังหารหมู่นี้
เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนานกว่า 2 สัปดาห์ หลังจากเหตุการณ์จบลง
มีนักโทษต้องสังเวยชีวิตไปกว่า 800 – 2,400 ราย
4.เรือนจำสยอง : La Sabaneta ประเทศเวเนซุเอลา
เรือนจำที่คุมขังคนผู้ทำความผิดทางอาญาขั้นร้ายแรงที่โหดร้ายที่สุดแห่งหนึ่งของทวีปอเมริกาใต้
ความรุนแรงเป็นสิ่งธรรมดาราวกับลมหายใจที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวัน นอกจากนี้ยังเกิดปัญหาขาดแคลนอาหาร
ไร้บริการทางแพทย์ แถมเจ้าหน้าที่ในเรือนจำยังได้รับค่าแรงที่ต่ำมาก จนถึงขนาดยอมขายอาวุธประจำตัวให้กับผู้ต้องขังเพื่อแลกกับเงินเล็กน้อย
ยิ่งทำให้สถานการณ์ “ฆ่ากันเอง” ระหว่างนักโทษทวีความรุนแรงมากขึ้น
จนราวกับเป็นสงครามกลางคุกเลยทีเดียว
5. เรือนจำสยอง : El Rodeo, Guatire ประเทศเวเนซุเอลา
เรือนจำที่มีจำนวนนักโทษกว่า
50,000 คน นักโทษกว่า 2 ใน 3
ถูกคุมขังเอาไว้เพื่อรอวันพิจารณาคดี เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ.2554 ที่เป็นวัยเยี่ยมญาติประจำปี
ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะนองเลือดระหว่างแก๊ง จนกระทั่งลุกลามกลายเป็นสงครามภายในเรือนจำ
ความวุ่นวายทวีความรุนแรงมากขึ้นจนเจ้าหน้าที่ต้องเข้าปิดล้อมเรือนจำ
กว่าสถานการณ์จะสงบลงต้องใช้เวลาควบคุมสถานการณ์กว่าหนึ่งเดือน และมีนักโทษเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
เรือนจำเหล่านี้... ได้กลายมาเป็นสถานที่อาถรรพ์ ที่มีคนได้พบเห็นประสบการณ์เหนือธรรมชาติและสถานที่ขนหัวลุกมากมาย ที่สำคัญหลายแห่งยังคงเป็นสถานที่คุมขังนักโทษมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้เหล่านักโทษที่ต้องขัง นอกจากต้องทุกข์ทรมานทางกายแล้ว ยังต้องเผชิญหน้ากับความหวาดกลัวจากสิ่งลี้ลับมากมายที่น่าสะพรึงกลัวตลอดชั่วอายุต้องขัง...