ถนนเงาแห่งความตาย (Shades of Death Road) พื้นที่ที่เต็มไปด้วยปริศนาและความตาย แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา

ถนนเงาแห่งความตาย (Shades of Death Road) ตั้งอยู่ในเมืองวอเรน คันทรีย์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา มันถูกเล่าลือว่ามีสิง ถนนแห่งนี้เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักหลังจากที่ชายสองคนได้เขียนจดหมายถึงนิตยสาร Weird NJ โดยอ้างว่าพวกเขาได้พบกับรูปถ่ายโพลารอยด์ที่แปลกประหลาดกระจัดกระจายไปตามถนนอย่างแสนลึกลับ
เรื่องราวอันแสนลึกลับ ณ ถนนเงาแห่งความตาย

ไม่มีใครรู้ว่าทำไมถนนแห่งนี้ถึงได้รับชื่อที่น่าขนลุกดังกล่าว แต่บางคนเล่าว่าเมื่อหลายปีก่อนมีต้นไม้เกิดโตริมถนนกลายเป็นซุ้มตามธรรมชาติที่กีดกันแสงอาทิตย์ไม่ให้ส่องลงมา ทำให้ถนนสายนี้ในตอนกลางวันก็ยังคงมืดมิดราวกับกลางคืน
ความมืดเป็นมิตรกับเหล่าอาชญากรที่ใช้ซ่อนตัวเองอยู่สองข้างถนนเพื่อรอเหยื่อ เมื่อมีนักเดินทางผ่านมาพวกมันก็จะออกมาจากความมืดและตัดคอเหยื่อเคราะห์ร้ายเหล่านั้นจนขาดกระเด็น พร้อมกับช่วงชิงสิ่งของมีค่าไป
บางครั้งชาวบ้านในท้องถิ่นสามารถจับโจรเหล่านั้นได้ ก็จะทำการระบายความคับแค้นด้วยการรุมประชาทัณฑ์จนตายแล้วทิ้งศพเอาไว้แถวต้นไม้เพื่อเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเถาวัลย์ที่ห้องลงมาจากต้นไม้ใหญ่ริมถนนมันถึงดูคล้ายกับ “บ่วงผูกคอนักโทษ”
ตามประวัติศาสตร์ ในช่วงปี 1920-1930 เกิดเหตุฆาตกรรมโหดเหี้ยมขึ้นหลายครั้งตามถนนเงาแห่งความตาย เช่น พ่อค้าขายหม้อและกระทะเดินทางมากับม้าคู่ใจผ่านถนนเส้นนี้ หลังจากนั้นเขาก็ถูกพบเป็นศพอยู่ที่ริมถนน ถ้าหากใครเดินทางบนถนนนี้ในตอนกลางคืนว่ากันว่าอาจจะได้ยินเสียงหม้อและกระทะของเขาดังกระทบกันไปมาแว่วมาตามสายลม
นอกจากนี้ยังมีการพบศพของชายอีกคนหนึ่งเสียชีวิตอยู่ในรถของตัวเองจากการถูกตีเข้าที่ศีรษะอย่างแรง เงินและยางรถถูกขโมย และยังมีเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ลงมือตัดศีรษะสามีของตัวเอง แล้วนำหัวกับร่างไปฝังเอาไว้คนละฝั่งของถนนและมีหญิงชาวบ้านมนท้องถิ่นถูกยิงตาย ศพของเธอถูกหมกเอาไว้ในกองโคลน ซึ่งเหตุฆาตกรรมนี้ยังไม่ได้รับการคลี่คลายมาจนถึงปัจจุบัน

ถนนเงาแห่งความตาย ยังเต็มไปด้วยมุมโค้งที่อันตรายทำให้มีผู้คนจำนวนมากต้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เชื่อกันว่าที่กั้นสะท้อนแสงริมถนนคือจำนวนของผู้คนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
อีกตำนานหนึ่งที่น่าสนใจคือ เรื่องราวของผีเด็กสาววัย 9 ขวบ ที่เดินขึ้นลงข้างถนนในตอนกลางคืน มีข่าวลือว่าถ้าหากเธอเห็นใครขับรถมาควรหยุดรถ หลังจากนั้นเธอจะขึ้นมาบนรถคุณหนึ่งคำถามเกี่ยวกับพ่อแม่ของเธอ ถ้าหากไม่ตอบหรือขับรถหนีไปก็จะต้องพบกับความตายใน 40 วัน ที่จริงแล้วเพียงแค่ตอบเธอว่าไม่รู้หรือชี้ไปในทิศทางใดทิศหนึ่ง เธอก็จะจากไปตามทางของเธอ ไม่มีใครรู้เบื้องหลังของเธอ แต่เชื่อว่าเอถูกลักพาตัวมาและฆ่าตาย ณ ถนนเงาแห่งความตาย
ฆาตกรรมที่เล่าลือกันมากที่สุดอันหนึ่งคือ กรณีของเด็กสาวอายุ 15 ปี ที่คบกับเด็กหนุ่มที่มีปัญหาทางจิต คืนหนึ่งเขาชวนเธอไปเที่ยวป่า เมื่ออยู่กลางป่าลึกเขาก็จู่โจมใส่หล่อน เพื่อนของเธอที่ไปด้วยกันหนีไปได้ แต่กว่าที่จะกลับมาพร้อมกับตำรวจเรื่องมันก็สายเกินไปแล้ว เธอถูกแทงจนเสียชีวิตและต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิต
ในปี 1990 มีชายสองคนเดินทางมาเยือนถนนเงาแห่งความตาย พวกเขาพบภาพถ่ายโพลารอยด์หลายร้อยภาพกระจัดกระจายไปตามถนนและในป่าใกล้เคียง พวกเขาติดต่อนิตยสารว่าภาพเหล่านั้นน่าขนลุกจนทำให้สถานที่แห่งนี้เลยถูกเรียกว่าเส้นทางโพลารอยด์

ภาพที่น่าสยดสยองส่วนใหญ่เป็นรูปของผู้หญิงที่เบลอและค่อนข้างยากที่จะระบุตัวตน กำลังนอนอยู่บนโลหะบางอย่าง ไม่มีใครยิ้มและบางคนดูเหมือนจะเสียชีวิตไปแล้ว ทำให้เกิดข่าวลือว่าอาจจะเป็นฝีมือของฆาตกรต่อเนื่องที่ถ่ายภาพของผู้หญิงเหล่านั้นก่อนจะลงมือสังหาร ตำรวจท้องถิ่นเริ่มทำการสอบสวน แต่รูปถ่ายเหล่านั้นก็พลันหายไปในเวลาไม่นาน
นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่ามีกลุ่มผู้บูชาลัทธิมารแอบซ่อนตัวอยู่ตามถนนเงาแห่งความตาย พวกเขาขับรถบรรทุกสีดำและจู่โจมใส่ทุกคนที่เจอบนถนน
ไม่นานมานี้ มีนักเรียนสองคนขับรถไปตามถนนเงาแห่งความตาย แต่แล้วรถของพวกเขาก็หยุดทำงานอย่างกะทันหัน ตอนนั้นเองที่พวกเขาเห็นรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งมาทางพวกเขาอย่างรวดเร็ว พวกเขาจึงพากันซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้
พวกเขาเห็นชายร่างใหญ่สวมรองเท้าบู๊ตถือไม้เบสบอลเดินออกมาจากรถบรรทุกแล้วเดินตรงไปที่รถของพวกเขา พร้อมกับพูดเสียงดังว่าใครอยู่บนถนนของฉัน!? ด้วยความตกใจพวกเขาเลยพากันหนีเข้าไปในป่า ซ่อนตัวอยู่หลังกระท่อมร้างรอจนเช้าแล้วพยายามกลับไปที่รถ เมื่อไปถึงปรากฏซ่ารถมีรอยบุบขนาดใหญ่ที่ด้านข้างตัวถัง และมีข้อความติดอยู่ที่หน้ากระจกรถเขียนว่า
“ฉันเห็นคุณแล้ว!”
….
10 ข้อเท็จจริงของป่าอาถรรพ์แห่งการฆ่าตัวตายของประเทศญี่ปุ่น “อาโอกิงาฮาระ” (Aokigahara)

