Sharur คทามหาศาตราของเทพเจ้า Ninurta
เทพเจ้า Ninurta มีหน้าที่เป็นผู้ดูแลกฎหมาย เกษตร และการล่าสัตว์ แต่มาในภายหลังด้วยการเจริญรุ่งเรืองของจักรวรรดิสุเมเรียนในช่วงสองพันปีก่อนคริสตกาลทำให้เขากลายมาเป็นเทพแห่งสงคราม ที่เยาว์วัย และทรงพลัง นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า Ninurta คือเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ เทพองค์นี้ ครอบครองอาวุธหลายชิ้น แต่มักถือธนู ลูกธนู ค้อน และคทา Sharur ที่มีความหมายว่า “การตีอย่างรุนแรงนับพันครั้ง” นอกเหนือจากรูปร่างของคทาแล้ว บางครั้ง Sharur ยังปรากฏตัวในภาพแกะสลักโบราณ และเรื่องเล่าขาน ในรูปแบบของสิงโตมีปีก ในตำนานของซูเมเรียน และอัคคาเดีย
ในตำนานซูมาเรียน กล่าวถึง Sharur ว่า มันเป็นคทาที่สวยงามมีเสน่ห์ดึงดูดเป็นอย่างมาก Sharur สามารถบินผ่านท้องฟ้าที่กว้างใหญ่อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีสิ่งใดที่สามารถขวางทางได้ อีกทั้งยังสามารถสื่อสารกับผู้ครอบครองของตัวเองได้อีกด้วย นักประวัติศาสตร์หลายคนเชื่อว่า อาวุธชิ้นนี้ เป็นต้นแบบของอาวุธวิเศษในตำนานเรื่องอื่นๆ เช่น ตำนานของกษัตริย์อาเธอร์ เป็นต้น
อาวุธวิเศษ Sharur มีบทบาทโดดเด่นหลายครั้ง ในตำนานของเทพเจ้า Ninurta ไม่ว่าจะเป็น การถูกนำไปใช้เพื่อปราบปีศาจขนาดมหึมา Anzu ในมหากาพย์แห่ง Anzu ที่เริ่มต้นจากการที่ฝูงนกของ Anzu ได้ขโมยเมล็ดแห่งโชคชะตา ของเทพเจ้า Enlil ที่สามารถทำให้โชคชะตาของมนุษย์ และเทพเจ้า มีค่าเท่าเทียมกัน เทพเจ้า Enlil ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากเทพองค์อื่นๆ ซึ่ง Ninurta ได้ตอบรับขับขอร้อง แล้วใช้ธนูยิงใส่ฝูงนกจนแตกสลายกลางอากาศ Ninurta ได้ตามร่างของนกที่แหลกสลายที่กำลังกลับไปรวมตัวกัน เขาได้พบกับปีศาจ Anzu แล้วต่อสู้กัน โดยใช้ Sharur เป็นหนึ่งในอาวุธ ในท้ายที่สุด Ninurta สามารถล้มปีศาจลงได้ แล้วเจาะลำคอของมันเพื่อนำเมล็ดแห่งโชคชะตากลับคืนมาได้สำเร็จ
ตำนานอีกบทเล่าว่า Ninurta ได้ขัดแย้งกับปีศาจแห่งโรคภัย Asag ที่อาศัยอยู่ในนรก คทา Sharur ได้สนับสนุนให้ Ninurta ไปรบกับ Asag ด้วยการยกย่องความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญ และทักษะอันเป็นเลิศของ Ninurta ที่สามารถเอาชนะปีศาจเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย เมื่อลงไปถึงนรก ปีศาจ Asag รอต้อนรับเขาด้วยกองทัพสัตว์ประหลาดหิน และพืช ที่เทพ Ninurta หวาดกลัว แต่ คทา Sharur ได้กระตุ้นให้เทพ Ninurta หันไปเผชิญหน้าต่อสู้กับศัตรู ด้วยการให้ระลึกถึงความรุ่งโรจน์ในอดีต และชื่อเสียงที่จะได้รับหลังชัยชนะ เมื่อปลุกใจกันจนฮึกเหิมได้ที่ เทพเจ้า Ninurta ได้จัดการศัตรูทั้งกองทัพอย่างราบคาบด้วย Sharur และอาวุธอื่นๆ ที่ห้อยอยู่รอบเข็มขัด แต่ปีศาจ Asag ก็ไม่ยอมตายเปล่า พวกมันใช้ความตายของพวกพ้องดันน้ำโบราณในนรกให้ไหลขึ้นไปท่วมบนพื้นโลก น้ำนั้นมีพิษ ที่ทำให้พืชพรรณบนโลกไม่สามารถเติบโตได้ เพราะน้ำจืดกลายเป็นน้ำกร่อยจนหมด เทพเจ้า Ninurta ได้ทำการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยการนำเอาซากศพของศัตรูมากองล้อมรอบแผ่นดิน สูงเทียมภูเขา เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำจากนรกเอ่อล้นขึ้นไปบนพื้นโลก ทำให้เกิดแม่น้ำไทกริสขึ้น ตำนานบทนี้เอง ที่ทำให้เทพ Ninurta ได้รับการยกย่องว่าเป็นเทพแห่งการชลประทาน
นอกเหนือจากหน้าเป็นอาวุธในการสู้รบแล้ว เชื่อว่า Sharur ยังทำหน้าที่ด้วยการเป็นทูตส่งสารระหว่างเทพเจ้า Enlil และ Ninurta อีกด้วย ...