สามเหลี่ยมอลาสก้า (The Alaska Triangle) พื้นที่ปริศนาที่เครื่องบินและผู้คนหายสาบสูญไปมากกว่า 16,000 คน โดยที่ยังไขปริศนาไม่ได้ แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา
สามเหลี่ยมอลาสก้า (The Alaska Triangle) หรือ “สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาแห่งอลาสก้า” เป็นสถานที่ทุรกันดารที่ยังไม่มีมนุษย์ได้แตะต้องรัฐมินนิโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกา อันถือว่าเป็นพรมแดนสุดท้ายของประเทศอันยิ่งใหญ่ที่ยังคงเต็มไปด้วยความลึกลับและมี “อัตราการหายตัวของผู้คนสูงมาก”
พื้นที่ดินแดนปริศนาของสามเหลี่ยมอลาสก้า
สามเหลี่ยมอลาสก้า เชื่อมต่อระหว่างเมืองแองเคอเรจที่ใหญ่ที่สุดในทางตอนใต้ของรัฐ กับเมืองจูโนทางตะวันออกเฉียงใต้ และเมืองขนาดเล็กบาร์โรว์ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางเหนือของรัฐ บริเวณนี้กลายมาเป็นสถานที่รกร้างที่กว้างใหญ่มากที่สุดในอเมริกาเหนือ
พื้นที่ที่ไม่เคยน่าสนใจดังกล่าว กลายมาเป็นสถานที่น่าสนใจของสาธารณชนในเดือน ต.ค. 1972 เมื่อเครื่องบินส่วนตัวขนาดเล็กลำหนึ่ง ที่มี “เฮอล บ็อกส์” ผู้นำเสียงข้างมากในสภา ผู้ช่วยและนักบินที่หายตัวไปกลางอากาศอย่างลึกลับในขณะกำลังบินจากเมืองแองเคอเรจไปยังจูโน
การปูพรมค้นหาด้วยเครื่องบินพลเรือนกว่า 50 ลำ เครื่องบินทหาร 40 ลำ และเรืออีกหลายสิบลำ ครอบคลุมพื้นที่การค้นหากว่า 32,000 ตารางไมล์ เป็นระยะเวลา 1 เดือนเต็ม กลับไม่มีการพบร่องรอยของเครื่องบินหรือซากของเครื่องบินใด ๆ
หลังจากนั้น ดูเหมือนว่าเหตุการณ์เครื่องบินตกในพื้นที่ดังกล่าวจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แถมนักปีนเขาก็หายตัวไป แม้แต่ชาวอลาสก้า นักท่องเที่ยวเองก็เหมือนจะหายตัวไปอย่างลึกลับ แต่ที่จริงแล้วเหตุการณ์แสนประหลาดนี้ได้เริ่มเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1988 ผู้คนมากกว่า 16,000 คน ได้หายตัวไปในพื้นที่ คิดเป็นตัวเลขของผู้หาสาปสูญโดยเฉลี่ยมากกว่าสองเท่าของค่าเฉลี่ยรวมทั้งประเทศเสียอีก?
ทุกปี มีผู้คนหายตัวไปราว 500 – 2,000 คน โดยที่ไม่มีใครได้พบเห็นพวกเขาอีกเลย เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องทำงานหนักในการตามหาบุคคลเหล่านี้หลายร้อยครั้ง แต่ทุกครั้งก็กลับมาแบบมือเปล่าโดยที่ไม่พบผู้สูญหายหรือหลักฐานใด ๆ เลย?
ทฤษฎีสนับสนุนการหายตัวไปอย่างลึกลับของผู้คนในสามเหลี่ยมอลาสก้า
การหายตัวไปอย่างลึกลับเหล่านี้ มีการตั้งสมมุติฐานเอาไว้มากมายตั้งแต่สภาพอากาศที่เลวร้าย การถูกลักพาตัวโดยมนุษย์ต่างดาว กระแสของพลังงานที่เหมือนกับสายน้ำวน ไปจนถึงปีศาจแปลงร่างที่ชั่วร้ายในตำนานของชาวอเมริกันพื้นเมืองอย่าง “คุชดากะ” (Kushtaka) ที่โผล่มากลืนกินผู้คนจนไม่เหลือซาก
อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีที่ดูจะเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ มันเกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมอันแสนทุรกันดาร ภายในพื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยป่าทึบ ยอดเขาหินแสนขรุขระ ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่และมีถ้ำตกการสำรวจ หรือรอยแยกลึกของแผ่นดินที่เครื่องบิน นักปีนเขาที่หลงทางอาจพลัดตกลงไป หลังจากนั้นเมื่อหิมะโปรยปรายลงมาก็จะเป็นการช่วยพรางพวกเขาเข้าเอาไว้อย่างแนบเนียน
นอกจากนี้ ภูมิประเทศยังเต็มไปด้วยสัตว์ป่า สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการทำกิจกรรมของมนุษย์ ในบางครั้งหิมะก็ยังถล่มอีกด้วย
อีกหนึ่งทฤษฎีที่น่าสนใจคือ “กระแสน้ำวนพลังงาน” ที่เกิดขึ้นภายในสามเหลี่ยมอลาสก้า ที่มีลักษณ์เหมือนกับรูปทรงกรวยหมุนวนตามหรือทวนเข็มนาฬิกา ถ้าหากมันเป็นพลังงานเชิงลบก็จะส่งผลต่ออารมณ์บวกของผู้คนเหมือนกับสถานที่สำคัญหลายแห่งในโลก แต่ถ้าหากมันเป็นพลังงานเชิงลบก็เชื่อว่าจะทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ ซึมเศร้า สับสน ภาพหลอนและยังอาจทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าทำงานผิดปกติ เช่น สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ทะเลปีศาจของญี่ปุ่นและเกาะอีสเตอร์ เป็นต้น
แนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจากการทดสอบอ่านค่าอิเล็กทรอนิกส์พบความผิดปกติทางแม่เหล็กเป็นจำนวนมาก แถมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายคนก็ยังรายงานว่าพวกเขาประสบกับอาการประสาทหลอน เสียหลอน วิงเวียนศีรษะและหน้ามืดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แนวคิดมากมายเหล่านี้ กลับไม่สามารถอธิบายถึงการหายตัวไปมากมายที่เกิดขึ้นในบริเวณสามเหลี่ยมอลาสก้าได้อย่างชัดเจน ยังคงกลายเป็นปริศนาที่น่าสนใจว่าในพื้นที่ที่น้ำมือของมนุษย์ยังคงไม่สามารถเข้าถึงได้อย่างเต็มที่แห่งนี้ได้เก็บงำความลับเหนือธรรมชาติเอาไว้จริงหรือไม่?
[[รีวิวหนังสยองขวัญ แต่ไม่สปอย]] 31 นรกส่งมาเชือด ความวิปริตที่ซ่อนอยู่หลังใบหน้าอันยิ้มแย้มของตัวตลกเปื้อนเลือด!!!