ผีสุภาพสตรีในชุดขาว (The Lady In White Ghost) หนึ่งในสัญลักษณ์แห่งความหวาดกลัวและความตายที่ปรากฏตัวในตำนานทั่วโลก

            “ผีสุภาพสตรีในชุดขาว” (The Lady In White Ghost) เป็นวิญญาณประเภทหนึ่งที่ปรากฏตัวในตำนานพื้นบ้านทั่วโลกโดยมีคุณสมบัติบางประการที่คล้ายคลึงกัน อาทิเช่น เส้นผมยายาวตรงปกคลุมใบหน้าสีดำหรือสีเข้ม สวมชุดเดรสสีขาว ชุดเจ้าสาวพลิ้วไหว รูปร่างผอมเพรียวและสูง ใบหน้ามีตั้งแต่ที่สวยงามไปจนถึงดูคล้ายกับซากศพผิวสีเทา ตาจม ปราศจากริมฝีปาก คอยหลอกหลอนผู้คนอยู่ในอาคาร สถานที่หรือเส้นทางสัญจรต่าง ๆ ทำให้ผีสุภาพสตรีในชุดขาวเป็นที่รู้จักกันในหลายชื่อ เช่น หญิงร่ำไห้ ผีสาวนักโบกรถ ผู้หญิงในชุดขาว เป็นต้น

           

การปรากฏตัวและพฤติกรรมของผีสุภาพสตรีในชุดขาว

            ส่วนใหญ่แล้วผีสุภาพสตรีในชุดขาวมักจะปรากฏตัวต่อหน้าเหยื่ออย่างไม่ทันให้รู้ตัวในลักษณะที่ชวนให้หวาดกลัวจนหนาวสั่นไปจนถึงกระดูกสันหลัง ส่วนใหญ่แล้วคนที่ได้เห็นมักจะเป็นผู้ชายและเด็ก ๆ แต่ที่น่าสนใจคือรูปลักษณ์ของผีสุภาพสตรีในชุดขาวไม่ได้น่ากลัวถึงขนาดที่ทำให้ผู้สังเกตการณ์ถึงกับหวาดกลัวแต่อย่างใด

 

ต้นกำเนิดของผีสุภาพสตรีในชุดขาว

            เรื่องราวต้นกำเนิดของผีสุภาพสตรีในชุดขาวมีค่อนข้างที่จะหลากหลาย บางเรื่องเล่าว่าเดิมทีเธอเป็นหญิงสาวสวยคนหนึ่งที่โชคร้ายต้องทนทุกข์จากน้ำมือของผู้ชาย หลังจากนั้นก็ถูกฆ่าตายหรือฆ่าตัวตายทำให้แทนทีหลังจากที่สิ้นลมไปแล้วเอกลับถูกความกระหายล้างแค้นผูกมัดดวงวิญญาณเอาไว้ไม่ให้เดินทางไปยังโลกหลังความตาย เธอกลับมาปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย โดยเฉพาะคนที่นอกใจ ล่วงละเมิดหรือไม่ยุติธรรมต่อผู้หญิง

            ในตำนานบางเรื่อง ผีสุภาพสตรีในชุดขาวต้องทนทุกข์ทรมานในฐานะความเป็นแม่ ทำให้มีเรื่องราวที่ผีสุภาพสตรีในชุดขาวออกตามหาลูกและลักพาตัวเด็ก ๆ เพื่อนำมาแทนที่ลูกน้อยที่สูญเสียไปในตอนที่มีชีวิตหรือเติมเต็มความว่างเปล่าจากความสูญเสียของตัวเอง

อย่างไรก็ตาม “สีขาว” ในบริบทส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในโลกของศิลปะและศาสนา สีขาวกระตุ้นให้เกิดแนวคิดเกี่ยวกับความบริสุทธิ์ ความดีงาม ความสงบ ความสมบูรณ์แบบ ความไร้ที่ติและสวรรค์ ซึ่งอาจจะมีความสัมพันธ์กับผีสุภาพสตรีในชุดขาวที่เดิมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสัญลักษณ์เชิงบวกเหล่านั้นก่อนที่จะถูกทำให้แปดเปื้อนด้วยความตาย การทรยศและการฆาตกรรม ในขณะเดียวกันก็อาจจะเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าการที่มนุษย์จะพลิกจากความดีไปสู่ความชั่วร้ายนั้นอาจเกิดขึ้นมาจากความอยุติธรรม ซึ่งในที่นี้เกิดขึ้นมาจากการที่ผู้หญิงต้องทนทุกข์ทรมานจากน้ำมือของผู้ชายโดยปราศจากทางออกในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่อย่างชอบธรรม...