สิ่งเร้าและสิ่งกระตุ้นที่ทำให้มนุษย์หมาป่ากลายร่างมีปัจจัยสำคัญอะไรกันบ้าง?
หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจสำหรับมนุษย์หมาป่าก็คือในกรณีที่บุคคลเป็นมนุษย์หมาป่าอยู่แล้วจะมีปัจจัยและสิ่งกระตุ้นอะไรบ้างที่ทำให้พวกเขากลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่า? ซึ่งสิ่งกระตุ้นที่ทำให้มนุษย์หมาป่าในร่างมนุษย์กลายร่างที่มีการระบุเอาไว้ในตำนานนิทานพื้นบ้านและสื่อบันเทิงสมัยใหม่นั้นค่อนข้างที่จะมีความแตกต่างกันพอสมควร ดังต่อไปนี้
ปัจจัยและสิ่งกระตุ้นที่เร่งเร้าให้มนุษย์หมาป่ากลายร่างในตำนานและนิทานพื้นบ้าน
1.พระจันทร์เต็มดวง
การกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าในคืนพระจันทร์เต็มดวงเป็นสิ่งที่ถูกบันทึกเอาไว้จริงในนิทานพื้นบ้าน แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ค่อนข้างยากก็ตาม ซึ่งนักวิชาการหลายคนเชื่อว่าความเชื่อเกี่ยวกับพระจันทร์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ก่อนที่จะมีการบันทึกทางประวัติศาสตร์เอาไว้เสียอีก
2.แสงจันทร์
ความเชื่อมโยงระหว่างแสงจันทร์กับมนุษย์หมาป่าเป็นสิ่งที่สามารถพบได้บ่อย ๆ ในนิทานพื้นบ้าน หากมนุษย์หมาป่าได้เห็นแสงจันทร์ ยืนอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์และโดยเฉพาะเมื่อแสงจันทร์กระทบถูกผิวหนังโดยตรงก็จะเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้มนุษย์หมาป่าเกิดการกลายร่างขึ้นมาได้เช่นกัน
3.ช่วงเวลากลางคืน
มนุษย์หมาป่ามีการกลายร่างในยามราตรี ถึงแม้ว่าจะเป็นกรณีที่หาได้ค่อนข้างยากก็ตาม สิ่งที่สนับสนุนแนวคิดดังกล่าวคือมนุษย์หมาป่าส่วนใหญ่ในนิทานและตำนานพื้นบ้านจะพากันปรากฏตัวออกมาให้เห็นในตอนกลางคืน
4.ความต้องการ
มนุษย์หมาป่ามักที่จะกลายร่างเมื่อตนเองพอใจ ส่วนใหญ่แล้วจะเกี่ยวข้องกับการออกไปล่าหาอาหารประเภทสัตว์ป่ามากินเป็นอาหาร
5.ความโกรธเกรี้ยว / อะดรีนาลีน
มนุษย์หมาป่าโดยเฉพาะเผ่าพันธุ์นักรบความโกรธเกรี้ยวและอะดรีนาลีนมักจะเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ทำให้เกิดการกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่า
6.บาดแผลที่กระทบกระเทือนจิตใจ
ถึงแม้ว่าจะมีหลายกรณีที่ได้รับการบันทึกเอาไว้ในนิทานและตำนานพื้นบ้านว่ามนุษย์หมาป่ากลับคืนร่างเดิมเนื่องจากได้รับบาดแผลทางกาย แต่หลายครั้งเช่นกันที่มีเรื่องราวอันคลุมเรือว่าเหล่านักรบมนุษย์หมาป่าเมื่อเข้าสู่สมรภูมิก็จะกลายร่างเมื่อได้รับบาดแผลที่กระทบกระเทือนจิตใตด้วยเช่นกัน
7.กรอบเวลาบางประการ
บางครั้งมนุษย์หมาป่าก็จะมีการกลายร่างตามกรอบเวลาที่แน่นอนโดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องเกี่ยวข้องกับพระจันทร์แต่อย่างใด เช่น เรื่องราวของ “ลา บิสคลาเวรต์” (La Bisclavret) ในยุคกลางที่จะมีการกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าสามวันต่อสัปดาห์ หรือมนุษย์หมาป่าบางตนก็จะกลายร่างเป็นเวลา 7 ปี สลับกับการอยู่ในร่างของมนุษย์อีก 7 ปี เป็นต้น
8.การสวมใส่อุปกรณ์บางอย่าง
ความเชื่อดังกล่าวค่อนข้างที่จะแพร่หลายอย่างมากในยุคกลาง โดยเฉพาะในแถบสแกนดิเนเวีย มนุษย์หมาป่าสามารถกลายร่างได้ด้วยการสวมอุปกรณ์เวทมนตร์เหนือธรรมชาติบางอย่าง เช่น แหวน เสื้อคลุมหนังหมาป่า เข็มขัดหรือสิ่งของอื่น ๆ ความเชื่อดังกล่าวเป็นสิ่งที่ปกติอย่างมากจนถึงยุคสมัยใหม่ตอนต้น
9.ถอดเสื้อผ้า (ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม)
บางเรื่องราวในนิทานพื้นบ้านจะพบว่าการกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าจำเป็นที่จะต้องถอดเสื้อผ้าออกก่อน (การถอดเสื้อผ้าไม่ได้เป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดการกลายร่าง) และต้องสวมเสื้อผ้าเหล่านั้นอีกครั้งเพื่อกลับคืนสู่ร่างของมนุษย์ มีเรื่องราวหลายเรื่องที่มีบันทึกเอาไว้คล้ายกัน ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าการถอดเสื้อผ้าจะทำให้เกิดการกลายร่างจริง ๆ หรือไม่
10.ได้รับพร
บางครั้งพระเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็อาจมอบคำอวยพรให้กับผู้คนเพื่อเปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นมนุษย์หมาป่า เรื่องราวเหล่านี้มีการกล่าวถึงในนิทานและตำนานเก่าแก่พื้นบ้านที่ค่อนข้างมีความคลุมเครือเกี่ยวกับเทพซุสและอพอลโลในตำนานกรีก นอกจากนี้ ยังมีบางคนในยุคกลางที่อ้างว่าตัวเองเป็นมนุษย์หมาป่าเนื่องจากได้รับพรจากพระผู้เป็นเจ้าอีกด้วย
11.การถูกสาป
ในบางครั้งมนุษย์บางคนอาจถูกสาปโดยเทพเจ้า บางคนกลายเป็นมนุษย์หมาป่าอย่างถาวร ในบางกรณีก็จะมีกรอบระยะเวลาหลายปีก่อนที่จะกลับคืนสู่ร่างของมนุย์อีกครั้งและไม่เคยกลับไปสู่ร่างของหมาป่าอีกเลย
12.ประกอบพิธีกรรมบางอย่าง
มีพิธีกรรมหลายอย่างที่ทั้งซับซ้อนและไม่ซับซ้อนที่เชื่อว่าจะสามารถทำให้กลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าได้หากทำอย่างถูกต้อง บางคนอาจประกอบพิธีกรรมเหล่านั้นเพียงครั้งเดียวก็ได้รับพลังเหล่านั้น ในขณะที่บางคนอาจต้องประกอบพิธีกรรมซ้ำไปซ้ำมาถึงจะได้รับพลังของมนุษย์หมาป่ามาครอบครอง
13.การกินเนื้อมนุษย์
ถ้าหากใครได้ทำการลิ้มลองรสชาติเลือดเนื้อของมนุษย์ บุคคลเหล่านั้นอาจกลายเป็นมนุษย์หมาป่าได้ บางครั้งการทำเช่นนั้นอาจมีความเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมบางอย่างและการถูกสาปแช่งจากพระเจ้าด้วยเช่นกัน
ปัจจัยและสิ่งกระตุ้นที่เร่งเร้าให้มนุษย์หมาป่ากลายร่างในสื่อบันเทิงสมัยใหม่
1.อัลฟ่าหรือมนุษย์หมาป่าตัวอื่นหอน
สิ่งกระตุ้นการกลายร่างดังกล่าวไม่ปรากฏในนิทานพื้นบ้าน ในความเป็นจริงแล้วการรวมตัวกันของมนุษย์หมาป่ามากกว่าหนึ่งคนในตำนานพื้นบ้านเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้น้อยมาก แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องราวของมนุษย์หมาป่าตัวใดตัวหนึ่งที่สามารถบังคับหรือกระตุ้นให้อีกตัวหนึ่งกลายร่างได้ด้วยการหอน
2.ความโศกเศร้าและอารมณ์อื่น ๆ นอกเหนือจากความโกรธเกรี้ยว
โดยทั่วไปแล้วมนุษย์หมาป่าที่ปรากฏตัวในนิทานและตำนานพื้นบ้านไม่เคยกลายร่างเพียงเพราะมีอารมณ์เศร้าหรือแสดงอารมณ์ใด ๆ ที่นอกเหนือจากความโกรธ อย่างไรก็ตาม ในยุคใหม่หลายคนเชื่อว่าอาการของโรคมนุษย์หมาป่าจะแสดงออกมาเมื่อมีความเศร้าโศก
3.ความเครียด
ความเครียดที่ไม่ใช่ความโกรธเกรี้ยวไม่เคยมีการบันทึกเอาไว้ว่าสามารถกระตุ้นให้เกิดการกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าได้ ในนิทานและตำนานพื้นบ้านไม่มีเรื่องราวเกี่ยวกับตัวละครคนใดที่มีความลึกของเรื่องราวมากเพียงพอที่จะทำให้เห็นว่าพวกเขามีความเครียดจนถึงขึ้นขั้นกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่า
4.ความต้องการทางเพศ
ถึงแม้จะมีเรื่องราวของมนุษย์หมาป่ากับความต้องการทางเพศในนิทานพื้นบ้านปรากฏให้เห็นบ้าง แต่ทั้งสองสิ่งนี้ก็ไม่ได้มีความเชื่อมโยงมากพอที่จะทำให้สามารถสรุปได้ว่าหากมนุษย์หมาป่ามีความต้องการทางเพศก็จะกลายร่าง ส่วนใหญ่ความเชื่อนี้มาพร้อมกับความฝังใจว่ามนุษย์หมาป่าเป็นสิ่งที่ชั่วร้าย เป็นข้ารับใช้ของปีศาจหรือการกลายร่างโดยตั้งใจของเหล่าผู้ใช้เวทมนตร์ หมอผีผู้ชั่วร้ายที่เกิดขึ้นในปลายยุคกลาง
5.ความหิวกระหาย
ในนิทานและตำนานพื้นบ้านเมื่อมนุษย์หมาป่าหิวพวกมันก็จะเข้าป่าเพื่อไปล่าสัตว์มากินเป็นอาหาร ถึงแม้ว่าความหิวจะมีความใกล้ชิดกับคำสาป แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการกลายร่างขึ้นมาได้ ซึ่งในหลายกรณีมนุษย์หมาป่ารู้สึกหิวจึงได้กลายร่างด้วยตัวเองเนื่องจากร่างของมนุษย์หมาป่าสามารถล่าสัตว์ป่าได้อย่างง่ายมากกว่านั่นเอง
6.วูลฟ์สเบน (Wolfsbane)
มนุษย์หมาป่าในนิทานและตำนานพื้นบ้านไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับวูลฟ์สเบนเลยแม้แต่น้อย มันไม่ได้ทำให้มนุษย์หมาป่าอ่อนลงหรือกระตุ้นการกลายร่าง ซึ่งแนวคิดดังกล่าวเกิดขึ้นในภาพยนตร์ The Wolf Man (1941) ที่นำเสนอว่าหากมนุษย์หมาป่าได้กลิ่นหรืออยู่ใกล้ ๆ จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการกลายร่าง
ห้องพักของคนรู้จักของฉัน ณ ชั้นล่างมีเสียงแปลกประหลาดที่น่าขนลุก (เรื่องผีสั้น ๆ “บางสิ่งที่ชั้นล่าง”)