(Tsuru nyōbō) เจ้าสาวกระเรียนตอบแทนคุณ ตำนานของประเทศญี่ปุ่น
“สึรุ โยวโบ” (Tsuru nyōbō) เป็นนกกระเรียนที่ทำการแปลงร่างเป็นมนุษย์ มักอยู่ในรูปกายของหญิงสาวสวยเพื่อขอบคุณคนที่เมตตากับมัน เช่น การช่วยเหลือจากนักล่าหรือการติดกับดัก เป็นต้น
ตำนานที่น่าสนใจของสึรุ โยวโบ
วันหนึ่งในฤดูหนาวอันแสนหนาวเหน็บ ชายหนุ่มคคนหนึ่งกำลังเก็บฟืนอยู่บนภูเขา ในระหว่างนั้นเองที่เขาได้พบกับนกกระเรีอนกำลังกระพือปีกไปมาอย่างน่าสงสารอยู่บนพื้น เมื่อเข้าไปใกล้เขาก็เข้าใจได้ในทันทีว่าปีกของมันถูกลูกศรของนักล่ายิงใส่จนทะลุ
เขาค่อย ๆ เข้าหามันและช่วยถอนลูกศรออกให้ ใส่ยา พันผ้าพันแผลให้ทีปีก เมื่อได้รับการรักษาชั่วคราวนกกระเรียนก็บินกลับขึ้นไปในอากาศพร้อมกับร้องไห้อย่างมีความสุข มันบินวนรอบตัวชายหนุ่มก่อนที่จะบินหายลับไป
คืนอันหนาวเหน็บไม่นานหลังจากนั้น ท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายอยู่ด้านนอกบ้านของชายหนุ่มกลับปรากฏเสียงเคาะประตู เมื่อเปิดประตูออกมาเขาต้องประหลาดใจเมื่อให้หญิงสาวสวยในชุดนักเดินทางยืนอยู่ อากาศข้างนอกแสนเหน็บหนาวและมืดมิด ดูจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากในการเดินทางเพียงลำพังคนเดียว
เธอเอ่ยปากขอพักค้างคืนที่บ้านของเขา ด้วยความสงสารชายหนุ่มเลยอนุญาตให้เธอเข้ามานั่งข้างกองไฟเพื่ออบอุ่นร่างกาย ถึงแม้เข้าจะยากจนแต่ก็ยังใจดีพอจะแบ่งปันอาหารให้กับเธอ
วันรุ่งขึ้น เขาออกไปเก็บฟืนมาเพิ่ม แต่เมื่อกลับมาบ้านปรากฏว่าหญิงสาวก็ยังคงอยู่พร้อมกับทำความสะอาดบ้านทั้งหลัง วันรุ่งขึ้นเธอก็ยังคงอยู่และหลังจากวันนั้นก็เช่นกัน หญิงสาวไม่ได้เอ่ยถึงการเดินทางของตัวเอง และเขาเองก็ไม่ได้ถาม จนกระทั่งชายหนุ่มรู้สึกดีเมื่อได้อยู่กับเธอ
จนกระทั่งวันหนึ่ง หญิงสาวได้เอ่ยปากว่าอยากเป็นภรรยาของเขา สิ่งที่ได้ยินทำให้เขาแทบไม่เชื่อหูว่าหญิงสาวที่งดงามขนาดนี้จะอยากแต่งงานกับคนที่ยากจนอย่างเขา ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงยืนยันว่าได้ตัดสินใจอย่างรอบคอบแล้ว ในที่สุดทั้งสองก็แต่งงานกันอย่างมีความสุข
เธอขอให้เขาสร้างเครื่องทอผ้าให้ และเริ่มต้นทอผ้า โดยขอความเป็นส่วนตัวในขณะที่ทำงานเป็นเวลา 7 วัน พร้อมกับขอให้เขาสัญญาว่าจะไม่แอบมองเธออย่างเด็ดขาด ในระหว่างที่เธอทำงานเขาได้ยินเสียงทอผ้าดังลั่น แต่เขาก็ยังคงรักษาสัญญาที่จะไม่แอบมอง
เมื่อครบ 7 วัน เธอก็กลับออกมาจากห้องทำงานด้วยความเหนื่อยล้าพร้อมกับผ้าชิ้นใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็น พร้อมกับมอบให้เขานำมันไปขายในเมืองให้กับผู้ครองเมืองในราคาหนึ่งพันเรียว ถึงแม้ว่าเขาจะประหลาดใจกับราคาของมันเขาก็ยังทำตามคำขอ
เจ้าครองเมืองซื้อผ้าชิ้นนั้นในราคาหนึ่งพันเรียวจริง ๆ พร้อมกับสั่งให้ทอผ้าอีกผืนที่เหมือนกันอีกครั้งพร้อมกับเงินมากมาย เขาบอกภรรยาว่าถูกสั่งให้ทอผ้าอีกผืน ซึ่งดูเธอจะไม่ค่อยเต็มใจที่จะทำการทอนัก ถึงอย่างนั้นเนื่องจากเป็นคำสั่งของผู้มีอำนาจ หากไม่ทำตามชีวิตสามีของเธออาจตกอยู่ในอันตรายได้เลยตกลงใจจะทำการทออีกผืน พร้อมกับให้สามีสัญญาว่าจะไม่แอบดูเหมือนเดิม
ในขณะที่เธอกำลังทำงาน สามีกลับสงสัยว่าเธอทอผ้าที่แสนวิเศษเช่นนี้ขึ้นมาได้อย่างไร ในเมื่อในห้องไม่ได้มีด้ายเลยสักเส้น เมื่อความสงสัยเข้าครอบงำเขาได้แอบเข้าไปในห้องและเห็นนกกระเรียนตัวหนึ่งนั่งอยู่ที่เครื่องทอผ้าในตำแหน่งที่ภรรยาของเขาควรนั่งอยู่ มันกำลังดึงเส้นขนของตัวเองออกมาทีละเส้นแล้วนำมาใช้แทนด้ายในการทอผ้า จนร่างกายเกือบเปลือยเปล่าและดูเจ็บปวดอย่างมาก ถึงแม้จะประหลาดใจเขาก็ออกมาอย่างเงียบ ๆ และปล่อยให้เครื่องทอผ้าทำงานต่อไปจนเสร็จ
หลังจากวันที่ 7 ภรรยาก็ออกมาจากห้องทำงานพร้อมกับสภาพที่ดูซีดเซียวเป็นอย่างมาก พร้อมกับผืนผ้าที่งดงามไม่แพ้ผืนแรก เมื่อมอบมันให้เขาเธอก็อธิบายว่าตัวเองคือนกกระเรียนที่เขาได้ช่วยชีวิตเอาไว้ในครั้งนั้น เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจจึงได้แปลงร่างมาเป็นมนุษย์เพื่ออยู่เคียงข้างกับเขา แต่เขากลับผิดสัญญาและแอบดู ทำให้เธอไม่สามารถที่จะอยู่เคียงข้างเขาได้อีกต่อไป
หลังจากนั้น เธอได้แปลงร่างเป็นนกกระเรียนและบินขึ้นไปบนท้องฟ้า ส่งเสียงร้องเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ฝูงนกกระเรียนจะพากันบินผ่านหลังคาบ้าน เธอจึงได้บินเข้าไปร่วมฝูงก่อนหายตัวไปโดยที่ไม่มีใครเคยได้พบเห็นเธออีกเลย...
30 คำพูดที่หลุดออกมาจากปากในวาระสุดท้ายของเหล่าคนมีชื่อเสียงระดับโลก