“นักโบกรถที่หายไป” ตำนานเมืองสยองขวัญจากประเทศอเมริกา
Vanishing Hitchhiker เป็นตำนานเมืองที่น่ากลัวจากประเทศสหรัฐอเมริกา เรื่องราวเกี่ยวกับเด็กสาวคนหนึ่งที่กำลังเดินทางไปงานเต้นรำในตอนกลางคืนกับเพื่อนชาย ขณะกำลังขับรถไปตามถนนที่เปลี่ยวห่างไกลจากผู้คนกลับพบผู้หญิงคนหนึ่งเข้าที่ริมถนน พวกเขาจึงได้หยุดรถและอาสาขับพาเธอไปส่ง เรื่องราวนี้มีหลายเวอร์ชัน บางครั้งก็เรียกว่า “ลาเวนเดอร์” “ผีโบกรถ” หรือ “หญิงสาวริมถนน” เป็นต้น
เรื่องราวเขย่าขวัญของนักโบกรถที่หายไป
เด็กหนุ่มและเพื่อนสาวกำลังขับรถเดินทางไปงานเลี้ยงเต้นรำ ในขณะที่กำลังขับรถไปตามถนนเปลี่ยว พวกเขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ข้างถนน พร้อมกับชูนิ้วโป้งอันเป็นสัญลักษณ์ของการขอติดรถไปด้วย พวกเขาหยุดรถและถามว่าต้องการติดรถไปด้วยไหม!?
หญิงสาวถามว่าพวกเขาจะพาเธอไปส่งบ้านไหม!? พวกเขาบอกว่ากำลังจะเดินทางไปงานเต้นรำและเชิญเธอด้วย เธอตอบรับคำเชิญโดยขึ้นไปนั่งที่เบาะหลัง คืนนั้นหนาวมาก เธอจึงขอยืมเสื้อคลุมตัวหนึ่งจากพวกเขา
พวกเขาเต้นรำกันตลอดทั้งคืน เมื่อถึงเวลากลับ เธอจึงขอให้พวกเขาไปส่งที่บ้าน พวกเขาจึงขับรถไปตามเส้นทางที่เธอบอกจนถึงจุดที่เธอขอลงจากรถเป็นบ้านหลังหนึ่ง ทันใดนั้นเอง ชายหนุ่มก็นึกขึ้นมาได้ว่าลืมขอเสื้อกันหนาวคืน แต่เพื่อนสาวบอกว่าไม่เป็นไรพรุ่งนี้เช้าพวกเขาค่อยกลับมาเอาก็ได้
เช้าวันรุ่งขึ้น พวกเขาจึงขับรถกลับไปหาหญิงสาว พวกเขาได้พบกับหญิงชราคนหนึ่งที่น่าจะเป็นแม่ของหญิงสาว เธอเล่าให้ฟังว่าหญิงสาวคนนั้นคือลูกสาวของเธอ แต่เธอเสียชีวิตไปเมื่อ 12 ปี ที่แล้ว ในอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่หัวมุมถนนซึ่งพวกเขาพบเธอเมื่อคืน พร้อมกับชี้ไปที่สุสานริมถนน
เด็กหนุ่มไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน พวกเขาเลยพากันเดินเข้าไปในสุสานและมองไปรอบ ๆ จากนั้นก็ได้เห็นเสื้อคลุมของเขาอยู่บนหลุมศพที่สลักชื่อของหญิงสาว และวันที่เสียชีวิตไปเมื่อ 12 ปี ที่แล้วพอดี..