เปิดกรุเล่าเรื่องผี ณ ปราสาทวอร์วิค (Warwick Castle) ที่มีผีสิงมากที่สุดของประเทศอังกฤษ
บริเวณริมโค้งของแม่น้ำเอวอนมีเนินเขาสีเขียวสวยงาม ที่หากขึ้นไปยืนบนยอดของเนินจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของชนบทประเทศอังกฤษได้เป็นอย่างดี สถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของปราสาทวอร์วิค (Warwick Castle) ที่ถูกสร้างขึ้นในยุคกลาง แต่ยังคงตั้งตระหง่านมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 900 โดยถูกใช้เป็นป้อมปราการสำหรับปกป้องชุมชนของยุคกลาง
ในปี 1068 กษัตริย์ผู้พิชิต “วิลเลี่ยม” ได้ใช้สถานที่แห่งนี้ในการสร้างหอคอย เพื่อใช้เป็นสถานที่ยึดเกาะกลาง หลังจากนั้นก็ได้มีการปรับเปลี่ยนปรับปรุงโครงสร้างกันหลายต่อหลายครั้งมาอย่างยาวนานกว่า 300 ปี หอคอยไม้ได้ถูกแทนที่ด้วยหอคอยหิน เพิ่มเติมในส่วนของคุกใต้ดินเข้ามา เมื่อถึงปี 1500 ได้เพิ่มหลังคา ห้องครัวและห้องต่างๆจนกระทั่งกลายมาเป็นปราสาทในที่สุด และมีครอบครัวที่มีชื่อเสียง รวมไปถึงมีส่วนร่วมในการสร้างประเทศอังกฤษขึ้นมาได้เข้ามาอาศัยอยู่ ณ ปราสาทวอร์วิค แห่งนี้
เรื่องราวผีสางแห่งความบ้าคลั่งในกำแพงปราสาทวอร์วิค
ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ทำให้มีตำนาน นิทานและเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีสางมากมายในปราสาทวอร์วิค แต่เรื่องราวที่น่าสนใจมากที่สุดเกี่ยวกับจุดจบของอดีตเจ้าของปราสาทวอร์วิคในปี 1604 “Sir Fulke Greville” ที่ได้รับความตายอย่างทารุณในปี 1628 เมื่อถูกคนรับใช้นามว่า “Ralph Haywood” แทงด้วยความโกรธแค้น แต่เขาก็ไม่ได้เสียชีวิตทันที เขายังคงพยายามเอาชีวิตรอดด้วยการรักษาบาดแผลอย่างเจ็บปวดนานนับเดือนก่อนที่จะเสียชีวิตจากแผลติดเชื้อ
เชื่อกันว่าการจบชีวิตอย่างทุกข์ทรมาน ทำให้วิญญาณของเขาไม่ยอมจากไปอย่างสงบ และยังคงเดินเตร่ไปตามห้องโถงของปราสาทวอร์วิค นอกจากนี้เขายังเคยโผล่ไปยังบริเวณหอคอยที่เคยเป็นสถานที่พักอาศัยในขณะที่มีชีวิตอยู่และมาให้เห็นที่ทางเดินถัดจากโบสถ์
บริเวณคุกใต้ดินของปราสาทวอร์วิค เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีการเล่าขานถึงเหล่าผีสางอดีตนักโทษที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน วิญญาณที่ปรากฏตัวด้วยรูปลักษณ์อันมืดมนและก้าวร้าว เชื่อกันว่าเป็นอดีตผู้คุม มันมักยืนอยู่หลังประตูโลหะในคุกใต้ดิน บางครั้งอาจส่งเสียงคำรามที่น่ากลัวและบางครั้ง อาจสร้างรอยขีดข่วนให้กับร่างกายของผู้ที่กล้ามาเยือน
นอกจากเรื่องของผีสางแล้ว ยังเชื่อกันว่าปราสาทแห่งนี้ถูกสาปแช่งจากแม่มด “Moll Bloxham” แม่มดคนนี้ถูกจับได้ว่าขโมยของและถูกนำไปทรมานอย่างน่าอับอายต่อหน้าสาธารณชน ในตอนนั้นเองที่เธอได้ทำการสาปแช่งปราสาทแห่งนี้ หลังจากที่เธอสิ้นลม ได้ปรากฏสัตว์ร้ายขนาดใหญ่มาแอบด้อมๆมองๆบริเวณปราสาท คนที่พบเห็นมันอธิบายว่ามันเหมือนกับสุนัขสีดำ ที่มีดวงตาสีแดง อย่างไรก็ตามสัตว์ร้ายตนนี้ได้ถูกกำจัดทิ้งไป ในขณะเดียวกันวิญญาณของแม่มดก็ยังหวนกลับมาเยือนปราสาทวอร์วิค ที่ได้รับความรู้จักในชื่อ “Lady in Grey”
เรื่องเล่าเกี่ยวกับภูตผี ณ ปราสาทวอร์วิค ยังมีอีกมากมายนับไม่ถ้วน หนึ่งในนั้นเป็นเรื่องราวของวิญญาณของผู้หญิงที่เลื้อยไปมาในปราสาท เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณของเคาน์เตสแห่งปราสาทวอร์วิค ที่เสียชีวิตในปี 1938 นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับเสียงร้องไห้ของเด็กที่ถูกฝังเอาไว้ในกำแพง เงาร่างวิญญาณ รวมไปถึงเสียฝีเท้าของวิญญาณของทหารหรืออัศวินที่เสียชีวิตในปราสาทแห่งนี้
การเดินทางมาเยี่ยมชมปราสาทวอร์วิค
ปราสาทวอร์วิค ณ ปัจจุบัน ได้กลายมาเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความคึกคัก ตัวปราสาทได้รับการคุ้มครองเอาไว้ให้เป็นสถานที่สำคัญของโลก นักท่องเที่ยวสามารถเดินสำรวจและเยี่ยมชมการจัดแสดงสิ่งล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ได้ทั่วปราสาท รวมไปถึงกิจกรรมล่าท้าผีที่มีขึ้นหลายครั้งให้เลือกเข้าร่วมตามความชอบอีกด้วย...