ยามะจิจิ (Yamajijii) ภูตผีที่ชื่นชอบการแข่งขันตะโกน และพร้อมทำลายล้างมนุษย์ที่เนรคุณแห่งประเทศญี่ปุ่น
ยามะจิจิ (Yamajijii) เป็นภูตผีที่อาศัยอยู่ลึกเข้าไปในภูเขาชิโกกุ ประเทศญี่ปุ่น ลักษณะภายนอกของมันดูเหมือนกับชายที่มีขาเพียงข้างเดียว ดวงตาขนาดใหญ่ดวงเดียว แต่ที่จริงแล้วยามะจิจิมีดวงตาสองข้าง เพียงแค่อีกข้างมีขนาดเล็กมากเสียจนถูกดวงตาที่มีขนาดใหญ่ดึงความสนใจของผู้พบเห็นไปจนเหมือนกับมีตาข้างเดียว ร่างกายของมันปกคลุมไปด้วยขนสีเทาละเอียด สวมเสื้อผ้าเก่าขาเหรือไม่สวมใส่อะไรเลย พวกมันมีฟันที่แหลมคมและทรงพลังอย่างมาก ว่ากันแรงกัดของมันหนึ่งคำสามารถบดกระดูกของลิงหรือหมูป่าได้เลยทีเดียว...
พฤติกรรมของยามะจิจิ
ส่วนใหญ่แล้วยามะจิจิจะอาศัยอยู่ในภูเขาลึกห่างไกลจากมนุษย์ อีกทั้งยังไม่ค่อยปรากฏตัวออกมาให้เห็นบ่อยนัก แต่เนื่องจากรอยเท้าข้างเดียวที่กระโดดไปมาอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้ร่องรอยของพวกมันถูกจดจำได้ง่าย พวกมันมีความสามารถในการอ่านความคิดของคนที่กำลังคิดถึงพวกมัน และมีเสียงร้องที่ทรงพลัง เพียงแค่เปิดปากคำรามก็จะทำให้ใบไม้ถูกพัดออกจากกิ่ง ต้นไม้หักโค่นและก้อนหินเคลื่อนออกจากที่ตั้ง แถมพวกมันยังชอบที่จะแข่งกันคำรามทั้งกับยามะจิจิด้วยกันเองหรือมนุษย์ที่กล้าพอ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพลังในการคำรามของมันรุนแรงมาก ถ้าหากมนุษย์เข้าใกล้ในช่วงเวลานั้นอาจทำให้แก้วหูแตกหรือตาย! ได้
ตำนานที่น่าสนใจของยามะจิจิ
ในชิโกกุ มีเรื่องเล่าถึงนายพรานผู้กล้าหาญที่ท้าทายให้ยามะจิจิมาแข่งตะโกนกับตัวเอง เขาปล่อยให้มันคำรามก่อน เมื่อถึงคราวของตัวเองเขาก็ตะโกนพร้อมกับยิงปืนไรเฟิลทำให้เสียงดังกว่าและชนะการแข่งขัน ต่อมายามะจิจิตนนั้นตระหนักได้ว่าตัวเองถูกหลอก จึงได้แปลงร่างมาเป็นแมงมุมแอบเข้าไปที่กระท่อมของนายพรานหมายทำร้ายขณะนอนหลับ
ในบางเรื่องเล่า มีการเสริมรายละเอียดของเรื่องราวเอาไว้ว่า นายพรานผู้เฉลียวฉลาดได้เตรียมความพร้อมในการแข่งขันตะโกนด้วยการสวดมนต์อ้อนวอนต่อเทพเจ้าแห่งอิเสะ พร้อมกับสร้างกระสุนศักดิ์สิทธิ์ที่มีการสลักชื่อของเขาเอาไว้ กระสุนดังกล่าวมีพลังวิเศษที่เมื่อยิงออกไปจะไม่มีวันพลาดเป้าหมายและเขาพกติดตัวไปด้วย เมื่อยามะจิจิเข้ามาใกล้โดยหวังคุกคาม เขาก็จะเผยกระสุนนัดนี้ให้เห็นจนทำให้มันต้องหนีไปด้วยความกลัว
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเล่าจากโทคุชิมะเกี่ยวกับกลุ่มคนตัดไม้ที่กำลังให้ความอบอุ่นกับตัวเองด้วยการนั่งอยู่รอบกองไฟในกระท่อม อยู่ๆยามะจิจิก็ปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้าของพวกเขาสร้างความตกใจให้เป็นอย่างมาก ในตอนนั้นเองที่ยามะจิจิสามารถอ่านความคิดอันกระหายเลือดของพวกเขาที่ต้องการฆ่าตัวเองได้อย่างชัดเจน แต่อยู่ๆก็มีท่อนไม่ในกองไฟท่อนหนึ่งเกิดแตกส่งเสียงดังขึ้นมา! ทำให้ยามะจิจิตกใจจากความคิดที่ไม่สามารถอ่านได้ท่ามกลางคนตัดไม้ มันจึงรีบหนีออกไปจากกระท่อมหลังนั้นด้วยความหวาดกลัว
ในโคจิยังมีเรื่องราวเกี่ยวยามะจิจิที่มีเมตตา มันมอบเมล็ดข้าวฟ่างให้กับชาวนา เมื่อพวกเขานำไปปลุกปรากฎว่าที่นาได้รับพรแห่งการเพาะปลูกจนปีนั้นพวกเขาเก็บเกี่ยวข้าวได้ด้วยปริมาณที่น่าเหลือเชื่อ เมื่อถึงฤดูหนาว ยามะจิจิได้กลับมาเยือนพร้อมกับขอโมจิกิน ชาวนาเองก็ยินดีจะมอบโมจิให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เป็นเวลากว่า 3 ปี ที่ยามะจิจิกลับมาขอโมจิกินในฤดูหนาว และทุกครั้งจำนวนที่มันกินได้ก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งกลายเป็นโมจิได้ถึง 3 ถังขนาดใหญ่ ทำให้ชาวบ้านเริ่มกลัวว่าข้าวที่เก็บเกี่ยวมาทั้งหมดจะถูกยามะจิจิกินจนหมด พวกเขาจึงได้นำก้อนหินเผาไฟแล้วมอบให้กับมันแทนโมจิ เมื่อยามะจิจิกินเข้าไปไม่นานนักมันก็เริ่มรู้สึกไม่สบายและร้อน ชาวนาจึงมอบถ้วยใส่น้ำมันให้โดยหลอกว่าเป็นน้ำชา อย่างไรก็ตามยามะจิจิรู้ทัน มันจึงวิ่งหนีเข้าไปในป่าด้วยความเจ็บปวดและเสียชีวิตก่อนกลับถึงรัง หลังจากนั้นครอบครัวของชาวนนก็ประสบกับภัยพิบัติจนพังทลายลงอย่างไม่เป็นชิ้นดีเช่นกัน...
คิโมดาเมชิ (Kimodameshi) การละเล่นอาถรรพ์ ทดสอบความกล้าหาญแห่งประเทศญี่ปุ่น