ตำนานของอัญมณีแอแมทิสต์ (Amethyst)
แอแมทิสต์ เป็นอัญมณีสีม่วงประจำตัวของผู้ที่เกิดในเดือนกุมภาพันธ์ สีม่วงมันเกิดขึ้นจากการมีธาตุเหล็กที่เป็น Trace Element โดยจะมีตั้งแต่สีม่วงอ่อนไปจนถึงสีม่วงเข้ม แอแมนทิสต์เป็นอัญมณีที่มีพลังในการถ่ายทอดสูง เพิ่มความไวให้กับประสาทสัมผัส ช่วยให้จิตใจสงบ ทำให้เกิดสมาธิ นอกจากนี้ยังช่วยในการกำจัดความเครียด รักษาโรคนอนไม่หลับ หรือช่วยปลอบใจคนได้อีกด้วย อัญมณีแอแมทิสต์เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายเป็นเวลานานมากกว่า 7,000 ปี แล้ว สำหรับในประเทศไทยมีการรู้จักแอแมทิสต์ในชื่อของ “เขี้ยวหนุมาน”
ความเชื่อและตำนานเกี่ยวกับแอเมทิสต์
ตำนานการเกิดอัญมณีแอแมทิสต์ในเทพนิยายกรีก เกิดขึ้นจากการที่เทพบัลคัล (Bacchus) หรือชื่อในภาษากรีกคือเทพไดโรดิซุส (Dionysus) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งไวน์ ได้ถูกมนุษย์สบประมาท (บางตำนานกล่าวว่าเทพบัลคัสถูกเทพีอาร์ทีมีสสลัดรัก) จนทำให้เกิดความโกรธ จึงได้ประกาศว่าสิ่งมีชีวิตแรกที่ผ่านเข้ามาในเส้นทางเดินของท่านจะต้องถูกลงโทษ (บางตำนานกล่าวว่าจะต้องถูกจับให้เสือกิน) ในระหว่างนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งมีนามว่า “แอเมทิสต์” กำลังเดินทางไปยังวิหารของเทพีอาร์ทีมิส (Artemis) หรือชื่อภาษากรีกคือ เทพีไดอาน่า (Diana) แล้วผ่านเข้าไปในเส้นทางดังกล่าวพอดี เทพีอาร์ทีมิสจึงได้ช่วยเธอโดยการการเปลี่ยนเธอให้เป็นหินสีขาว หรือหินควอซต์ เมื่อเทพบัลคัสเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกสำนึกผิด น้ำตาที่ไหลออกมาได้หลั่งลงในแก้วไวน์ เมื่อรินไวน์ในนั้นลงไป หินนั้นได้ทำการดูดซับสีของไวน์เอาไว้จนกลายเป็นสีม่วง จึงมีการเรียกขานอัญมณีสีม่วงดั่งกล่าวตามชื่อของหญิงสาวผู้นั้นว่า “แอแมทิสต์”
คำว่าแอเมนทิสต์ (Amethyst) เป็นคำในภาษากรีก ซึ่งมีความหมายว่า “ไม่เมา” ชาวโรมันและชาวกรีกเชื่อว่า ถ้าหากดื่มสุราในขณะที่สวมแหวนแอแมนทิสต์เอาไว้จะช่วยทำให้ไม่เมา นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถควบคุมอารมณ์ของคนเมาได้ นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าหากใครได้ดื่มไวน์จากแก้วที่เจียระไนจากแอแมทิสค์จะไม่รู้สึกมึนเมา หรือหากในไวน์นั้นมียาพิษก็จะช่วยทำให้ปราศจากพิษใดๆ ถ้าหากนำก้อนแอแมทิสต์มาวางเอาไว้ที่ใต้ลิ้นก็จะให้ผลเช่นเดียวกัน ส่วนในเอเชียมีความเชื่อว่าแอแมทิสต์จะช่วยเพิ่มสมาธิ พระในทิเบตยังมีการนำแอแมทิสต์มาทำเป็นลูกประคำสำหรับใช้ในการสวดมนต์อีกด้วย
ชาวตะวันตกเชื่อว่าสีม่วงนั้น เป็นสีที่ให้พลังทางจิตสูง และยังเป็นอัญมณีทางศาสนา ในคัมภีร์ไบเบิ้ล ได้กล่าวถึงอัญมณีแอแมทิสต์ว่าเป็น 1 ในอัญมณี 12 ชนิด ที่ใช้ในการประดับลงบนเสื้อคลุมของพระผู้ใหญ่ ด้วยเหตุผลดังกล่าว พระในศาสนาคริสต์ที่มีตำแหน่งในทางศาสนาระดับสูงจึงมักที่จะนิยมพกพาสิ่งของที่มีสีม่วง และอัญมณีแอแมทิสต์ติดตัวอยู่เสมอ พระในนิกายคาทอลิกจะสวมแหวนที่มีอัญมณีแอเมทิสต์ในตอนทำพิธีในโบสถ์ นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าช่วยทำให้เกิดความเที่ยงธรรมแก่ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ทางศาสนา เพื่ออุดมคติอันสูงส่งอีกด้วย ในสมัยยุโรปยุคกลางมีความเชื่อว่า แอแมนทิสต์จะช่วยสร้างศรัทธาและรักษาพรหมจรรย์ของผู้สวมใส่ แอแมทิสต์ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของบาทหลวง ซึ่งโบสถ์ในยุคกลางเองก็มีการประดับประดาไปด้วยแอแมทิสต์เช่นกัน
ชาวอียิปต์โบราณจะสวมใส่แอแมทิสต์ เพื่อช่วยให้ทำการรบประสบความสำเร็จ และช่วยปกป้องคุ้มครองให้ปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ
แอแมทิสต์ยังเป็นเครื่องประดับของกษัตริย์หลายพระองค์ รวมไปถึงเหล่านักปราชญ์ในตำนาน อาทิเช่น ฟาโรห์ของอียิปต์ โมเสสใช้แอแมทิสต์ประดับที่หน้าอก นักบุญวาเลนไทน์ก็มีการสวมใส่แหวนที่ทำมาจากแอแมนทิสต์เช่นกัน ในหมู่ชาวยิว ถือกันว่าสีของแอแมนทิสต์นั้นเป็นสีสำหรับกษัตริย์