Bloody Mary ตำนาน การอัญเชิญ และความตาย!
Bloody Mary… หรือ “แม่รี่คลั่งเลือด” เป็นหนึ่งในตำนานสยองขวัญที่มีการพูดถึงมากที่สุดในกลุ่มวัยรุ่นของวัฒนธรรมตะวันตก
มีคนจำนวนมากที่เชื่อว่าหากทำการเรียกหาให้ Bloody Mary เข้ามาสิงสถิตในกระจกได้สำเร็จ
ก็ได้พบกับผู้หญิงที่ร่างกายชุ่มโชกไปด้วยเลือดในกระจกพร้อมกับส่งเสียงกรีดร้องใส่อย่างน่าสยดสยอง
แต่ถ้าสำหรับคนโชคร้ายอาจถูก Bloody Mary เข้าทำร้ายด้วยการสาปแช่ง
บีบคอ ฉีกใบหน้า หรือควักบลูกตาทั้งสองข้าง
ก่อนที่จะลงด้วยความตายอันน่าสยดสยองของคนที่กล้าเรียกหา Bloody Mary แต่ดูเหมือนว่ายิ่งการเรียกหา Bloody Mary
อันตรายมากเท่าไหร่ วัยรุ่นที่ชื่นชอบเรื่องเหนือธรรมชาติก็ยิ่งอยากที่จะทำการเรียกหาวิญญาณตนนี้มากขึ้น
กระทั่งกลายมาเป็นเหมือนกับกิจกรรมทดสอบความกล้าของกลุ่มเพื่อนมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน...
เหตุผลสำคัญที่ทำให้การอัญเชิญ Bloody Mary ได้รับความนิยม
Bloody Mary
เป็นตำนานพื้นบ้านเกี่ยวกับพิธีกรรมการเรียกหาวิญญาณที่มีความสามารถในการ
“ล่วงรู้อนาคต” ที่เชื่อกันว่าจะปรากฏตัวขึ้นในกระจกเมื่อได้รับการเรียกหาซ้ำไปมา
นักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อว่าการเรียกหา Bloody Mary นี้มีต้นกำเนิดในช่วงต้นศตวรรษที่
20 ที่มีพิธีกรรมทำนายคู่ครองในอนาคตที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มของหญิงสาว ผู้ทำพิธีจะทำการถือเทียนไขเอาไว้ในมือแล้วไปยืนอยู่ในหน้ากระจกบานใหญ่ในห้องที่มืดสนิท
เมื่อจ้องมองผ่านเข้าไปในกระจกพวกเธอก็จะได้เห็นใบหน้าของคู่ครองในอนาคตยืนอยู่ด้านหลัง
แต่พิธีกรรมนี้ก็มีความเสี่ยงเพราะถ้าหากได้เห็นหัวกะโหลกหรือใบหน้าของยมทูตปรากฏขึ้นนั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าผู้ทำพิธีมีโอกาสที่จะ
“เสียก่อนได้แต่งงาน” เช่นกัน
Bloody Mary กับประวัติศาสตร์แห่งหยดเลือดและเสียงกรีดร้อง
ตัวตนของที่แท้จริงของวิญญาณ
Bloody Mary
ที่ปรากฏตัวขึ้นหลอกหลอนผู้คนเป็นสิ่งที่ยังไม่แน่ชัดนัก แต่มีบุคคลในประวัติศาสตร์ที่เข้าเค้าการเป็น
Bloody Mary อยู่หลายคนเช่นกัน ดังต่อไปนี้
1.วิญญาณของ Mary Tudor
Mary Tudor หรือ Mary ที่หนึ่งแห่งประเทศอังกฤษ ผู้ที่เคยปกครองประเทศในเวลาอันสั้นในช่วงปี
1500 แต่ในระยะเวลาเพียงไม่นาน เธอกลับสร้างชื่อเสียงอย่างมากในด้านของความ “โหดเหี้ยมเหนือมนุษย์”
จากคำสั่งให้เผาผู้ต่อต้านไปหลายร้อยชีวิตจนทำให้ได้รับฉายาว่า “Bloody
Mary” อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีใครที่สามารยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าวิญญาณทั้งสองเป็นดวงเดียวกัน
เพราะสิ่งที่เหมือนกันดูเหมือนจะมีเพียงสมญานามเท่านั้น
2.วิญญาณของ Elizabeth Bathory
วิญญาณอีกดวงหนึ่งที่เข้าข่ายการเป็น
Bloody Mary คือ Elizabeth
Bathory หรือที่รู้จักกันในชื่อของ Blood Countess สตรีสูงศักดิ์ผู้คลั่งไคล้ในความงามและการฆาตกรรม เธอลงมือสังหารสาวบริสุทธิ์นับร้อยชีวิตจากหมู่บ้านใกล้ปราสาท
จากนั้นนำเลือดมาดื่มและอาบเพราะเชื่อว่าจะช่วยรักษาความอ่อนเยาว์เอาไว้ ทำให้เธอเป็นที่รู้จักดีในฐานะของฆาตกรต่อเนื่องจอมซาดิสม์ที่มีชื่อเสียงก้องโลกตลอดกาล
และดูเหมือนว่าความกระหายเลือดของเธอกับ Bloody Mary
จะเป็นสิ่งที่มีความคล้ายคลึงกันอย่างน่าสนใจ
3.วิญญาณของ Mary Worth
เชื่อกันว่า
Mary Worth
เป็นแม่มดที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการลักพาตัวหญิงสาวจากหมู่บ้านใกล้เคียง แม้ว่าข้อกล่าวหาจะค่อนข้างคลุมเครือแต่ก็เป็นสิ่งที่เพียงพอสำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่ในทวีปตะวันตกยุคกลางที่มีวิถีชีวิตผูกพันอยู่กับความหวาดกลัวเรื่องเหนือธรรมชาติโดยเฉพาะกับแม่มด
ที่มักจะปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับความชั่วร้าย โรคระบาด และความตาย! ทำให้เธอกลายมาเป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็น Bloody Mary เช่นกัน แต่ในบางตำนานเชื่อว่าที่จริงแล้ว Mary Worth เป็นหญิงสาวโฉมงามที่มีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 100 ปีก่อน โชคร้ายที่เธอประสบอุบัติเหตุจนทำให้ใบหน้าเสียโฉม
และตกเลือดจนตายในเวลาต่อมา ด้วยความคับแค้นใจที่ใบหน้าอันงดงามต้องอัปลักษณ์ทำให้วิญญาณที่ไม่สงบของเธอกลายมาเป็น
Bloody Mary ผู้สวมชุดสีขาวเปื้อนเลือดเร่ร่อนไปมาอยู่ในโลกวิญญาณภายใต้การดูแลของซาตาน
และคอยปรากกฏตัวเล่นงานคนที่เรียกหาเธอ
วิธีการเรียกหา Bloody Mary
พิธีการอัญเชิญ
Bloody Mary
ให้ปรากฏตัวนั้นมีขั้นตอนที่เรียบง่าย
แม้จะมีหลายกฎที่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลาและตามความเชื่อของคนที่ทำพิธี
แต่ก็ยังมีเค้าโครงในการเรียกหา Bloody Mary ที่คล้ายคลึงกัน
โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.เลือกห้องทำพิธีที่มืด มีกระจกและประตูทางเข้าจะต้องอยู่ที่ด้านหน้าของกระจกเสมอ
2.เข้าไปในห้องทำพิธีแล้วทำการปิดประตู
หรี่แสงให้ทั้งห้องเกือบมืดสนิท ยิ่งห้องมืดเท่าไหร่โอกาสที่จะประกอบพิธีได้สำเร็จก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น
3.จุดเทียนไข 2-3 เล่ม ให้แสงโดยรวมในห้องสลัว
4.โฟกัสไปที่ภาพสะท้อนในดวงตาของตัวเองในกระจก
(ห้ามสัมผัสกระจก) จากนั้นกล่าวคำว่า “Bloody Mary” (ในบางตำราให้เรียกว่า Hell Mary หรือ Mary Worth ) ให้ดังที่สุดโดยไม่สะดุดสามครั้งติดต่อกัน
เป็นอันเสร็จพิธี (ในบางแห่งเชื่อว่าให้เรียกชื่อของ Bloody Mary จำนวน 13 ครั้ง) หรือในบางพื้นที่จะทำการเรียกหา Bloody Mary ด้วยการพูดว่า “Bloody Mary ฉันเชื่อใน Bloody
Mary”
การปรากฏตัวของ Bloody Mary
หลังจากที่พิธีกรรมเสร็จสิ้น
มักที่จะมีรายงานเกี่ยวกับปรากฏการณ์แปลกๆเกิดขึ้น เช่น กระจกถูกบดบังด้วยเงามมืด หรือถูกย้อมด้วยเลือดจนแดงฉาน
แต่ถ้าหากทำการเรียกหา Bloody
Mary ได้สมบูรณ์ เมื่อมองเข้าไปในกระจกจะได้พบกับ Bloody
Mary ที่ปรากฏตัวพร้อมกับร่างกายโชกเลือด นอกจากนี้ยังเชื่อว่าบางคนยังอาจถูกโจมตีใส่ด้วยการใช้เล็บขีดข่วนบนใบดวงตา
ใบหน้าและลำคอ โชคยังดีที่ส่วนใหญ่แล้วการทำพิธีเรียกหา Bloody Mary มักจะไม่สำเร็จ เพราะผู้เข้าร่วมมักที่จะกลัวจนเลิกล้มพิธีไปกลางคัน...
Bloody Mary กับคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์
มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการปรากฏตัวของ
Bloody Mary เมื่อทำการจ้องมองเข้าไปในกระจกท่ามกลางห้องที่แสงสลัวเป็นระยะเวลานานมีโอกาสที่จะทำให้มองเห็นภาพหลอน
เงาที่สะท้อนกลับมาอาจเกิดการบิดเบี้ยว และหมุนไปมาจนกลายเป็นภาพของสัตว์ประหลาด
ปรากฏการณ์ดังกล่าวถูกเรียกว่า “strange-face illusion” และอาจเกิดขึ้นจากการสะกดจิตตัวเองด้วยความรู้สึกอย่างแรงกล้าที่ต้องการจะได้พบกับ
Bloody Mary
นอกจากนี้ยังอาจเกิดขึ้นจากการผลสะท้อนของกระจกเงาที่แสดงเสะท้อนที่แตกต่างกันไปตามคุณลักษณะ
เช่น กระจกเงาที่ทำจากแก้วจะสะท้อนภาพที่มีรูปร่างที่ดูเป็นผู้หญิงมากกว่ากว่า
ในขณะที่กระจกที่ทำจากเงินจะมีรูปร่างสะท้อนที่ดูเหมือนผู้ชายมากกว่า
สิ่งเหล่านี้ทำให้กลายมาเป็นความเชื่อที่ว่าได้พบกับ Bloody Mary หลังจากที่ทำการเรียกหาเธอนั่นเอง...
บทสรุปส่งท้าย : การอัญเชิญ Bloody Mary อันตรายหรือเปล่า!?
การเรียกหา
Bloody Mary... เป็นหนึ่งในการล้อเล่นกับความอาถรรพ์ที่ควรให้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก
เพราะไม่ว่าจะเชื่อในสิ่งที่กำลังทำอยู่หรือไม่ แต่ในบางครั้งหากโลกหลังความตายมีการตอบรับ
อาจจะได้สัมผัสกับเรื่องราวสุดสยองโดยไม่ทันรู้ตัว
ดังนั้นถ้าหากหากใครกำลังพยายามเรียกหาความตายควรเตรียมตัวให้พร้อมเพราะความตายก็อาจกำลังเรียกหาคุณอยู่เช่นกัน...


