โบกี้แมน (Bogeyman) ปีศาจหลากลักษณ์ กับการปรากฏตัวเขย่าขวัญใน 20 วัฒนธรรม
โบกี้แมน (Bogeyman)... เป็นหนึ่งในนิทานสยองขวัญก่อนนอนที่บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองนิยมหยิบยกมาเล่าเพื่อขู่ให้เด็กเข้านอนหรือทำตัวให้ดีไม่อย่างนั้นจะถูกโบกี้แมน (Bogeyman) มาลักพาตัวไป แน่นอนว่ามันช่วยทำให้เด็กซนหลายคนทำตัวดีขึ้นมาทันที แต่ก็ต้องแลกมากับความหวาดกลัวของเด็กๆว่าใต้เตียงและตู้เสื้อผ้าของจนนั้นมีโบกี้แมน (Bogeyman) แอบซ่อนรอคอยจังหวะลักตัวพวกเขาไปยังดินแดนที่ที่แสนน่าสะพรึงกลัวอยู่หรือเปล่า!?
โบกี้แมน (Bogeyman) คืออะไร!?
โบกี้แมน (Bogeyman) คือ สัตว์ประหลาดในตำนานที่ผู้ใหญ่นิยมนำมาใช้ในการขู่เด็กให้ทำตัวให้ดี ทำให้โบกี้แมน (Bogeyman) ไม่มีรูปลักษณ์ตายตัว แต่จะมีรูปร่างที่แตกต่างกันออกไปตามความเชื่อของแต่ละวัฒนธรรมแต่ละประเทศ อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปเชื่อกันว่าโบกี้แมน (Bogeyman) เป็นเพศชายหรือเพศที่สาม ที่จะปรากฏตัวเพื่อลงโทษเด็กดื้อที่ทำตัวไม่เหมาะสม บางครั้งโบกี้แมน (Bogeyman) ก็ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แทนตัวตนของปีศาจอีกด้วย
แม้ว่าโบกี้แมน (Bogeyman) จะมีรูปร่างลักษณะแตกต่างกันออกไปตามความเชื่อของวัฒนธรรมต่างๆ แต่เมื่อนำเรื่องราวมาร้อยเรียงกันจะเห็นถึงความคล้ายคลึงกันทางกายภาพบางประการ เช่น โบกี้แมน (Bogeyman) ส่วนใหญ่มีกรงเล็บขนาดใหญ่ ฟันที่แหลมคม ขากีบ บางครั้งก็มีรูปร่างเหมือนกับแมลง เป็นต้น
โบกี้แมน (Bogeyman) แบ่งได้ออกเป็น 3 ประเภท
โบกี้แมน (Bogeyman) สามารถแบ่งออกได้เป็นสามประเภท โดยอ้างอิงจากจุดมุ่งหมายในการปรากฏตัว ดังต่อไปนี้
1.โบกี้แมน (Bogeyman) ที่ปรากฏตัวเพื่อลงโทษเด็ก มีความดุร้ายและมีแนวโน้มที่จะใช้ความรุนแรงมากที่สุด โบกี้แมน (Bogeyman) ในกลุ่มนี้บางครั้งอาจลักพาตัวเด็กในตอนกลางคืนและกินเป็นอาหาร
2.โบกี้แมน (Bogeyman) ที่ปรากฏตัวเพื่อปกป้องผู้บริสุทธิ์ และลงโทษเฉพาะคนที่ทำความผิดโดยไม่สนใจว่าคนผู้นั้นจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่
3.โบกี้แมน (Bogeyman) ที่ปรากฏตัวเพื่อข่มขู่เด็ก ให้รู้สึกหวาดกลัวโดยไม่รุนแรงเพื่อเป็นการสั่งสอน เป็นประเภทที่พบได้บ่อยมากที่สุด
ต้นกำเนิดเรื่องราวของโบกี้แมน (Bogeyman)
โจรสลัด Buganese
เชื่อกันว่าต้นกำเนิดเรื่องราวของโบกี้แมน (Bogeyman) มาจากความหวาดกลัวของกะลาสีที่เดินทางในทะเลบริเวณเกาะสุลาเวสี ที่เป็นเกาะใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศอินโดนีเซีย ที่มีโจรสลัดชุกชุมเป็นอย่างมาก พวกเขาเรียกโจรสลัดเหล่านี้ว่า Bugis และ Buganese ที่โจมตีเรือพาณิชย์ของอังกฤษอย่างเหี้ยมโหด จนทำให้เหล่ากะลาสีได้นำเรื่องราวของ “Bugi men" กลับไปยังทวีปยุโรป แต่ในขณะเดียวกันนักประวัติศาสตร์หลายคนก็แย้งว่าเรื่องราวของ โบกี้แมน (Bogeyman) เป็นสิ่งที่ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายตั้งแต่ก่อนที่จะถึงยุคล่าอาณานิคมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับการปรากฏตัวของโบกี้แมน (Bogeyman)
Hobgoblins
โบกี้แมน (Bogeyman) ปรากฏตัวขึ้นทั่วโลกทำให้เป็นเรื่องที่ยากมากในการสืบหาแหล่งที่มาดั้งเดิมของตำนาน อย่างไรก็ตามการอ้างถึงโบกี้แมน (Bogeyman) ครั้งแรกน่าจะเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดที่เรียกว่า Hobgoblins ที่ถูกบรรทุกพูดถึงในปี 1500 ในประเทศอังกฤษ เชื่อกันว่าเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกลั่นแกล้งและทรมานมนุษย์
ตำนานของโบกี้แมน (Bogeyman) ใน 20 วัฒนธรรมทั่วโลก
ในความเชื่อของวัฒนธรรมทั่วโลกมีเรื่องราวของปีศาจและสัตว์ประหลาดที่มีความคล้ายคลึงอย่างมากกับเรื่องราวของโบกี้แมน (Bogeyman) ดังต่อไปนี้
1. Sack Man: ละตินอเมริกา
เชื่อกันว่า Sack Man เป็นโบกี้แมน (Bogeyman) ประเภทหนึ่ง มันจะปรากกฎตัวเป็นชายที่มีกระสอบอยู่บนหลังที่เข้ามาอุ้มเด็กซนไป
2. El Coco: ประเทศที่ใช้ภาษาสเปนเป็นหลัก
เป็นสัตว์ประหลาดที่พบได้ในหลายประเทศที่นิยมพูดภาษาสเปน พ่อแม่มักจะร้องเพลงกล่อมเด็กที่มีเนื้อหาบอกว่าหากไม่ยอมเข้านอน El Coco จะมารับตัวพวกเขาไป สัตว์ประหลาดตัวนี้มีใบหน้าที่ปกคลุมด้วยขนสีน้ำตาล
3. El Cucuy: อาร์เจนตินา และชาวเม็กซิกัน-อเมริกัน
เชื่อว่า El Cucuy จะซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงนอนหรือตู้เสื้อผ้าของเด็กในตอนกลางคืนและทำการลักพาตัวเด็กที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่หรือไม่ยอมเข้านอนเมื่อถึงเวลา มันเป็นมนุษย์ตัวเล็กที่ดวงตาสีแดงเปล่งประกายในที่มืด
4. Cuca: บราซิล
Cuca เป็นปีศาจที่มีลักษณะเหมือนกับจระเข้ที่ดูคล้ายกับมนุษย์ผู้หญิง หรือมีรูปกายเป็นหญิงชราถือกระสอบ มันจะมาเยือนเด็กที่ไม่ยอมเข้านอนพร้อมกับจับตัวไปทำเป็นซุปหรือสบู่
5. Babau: ประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียนและตะวันออกกลาง
หากเด็กทำตัวไม่ดีเชื่อว่าจะถูกคุกคามโดยปีศาจที่ชื่อว่า Babau ที่มีลักษณะเป็นชายร่างสูงสวมเสื้อคลุมและหมวกสีดำปิดบังใบหน้าที่จะลักพาตัวเด็กเหล่านั้นไปยังสถานที่ที่เต็มไปด้วยความลึกลับและน่าสะพรึงกลัว
6. Butzemann
สิ่งมีชีวิตที่ไร้มนุษยธรรมที่มักซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดใต้เตียงหรือในตู้เสื้อผ้า หากสบโอกาสก็จะลักพาตัวเด็กๆไป
7. Madar-i-Al: อาฟกานิสถาน
Madar-i-Al เป็นนกที่ออกหากินในตอนกลางคืน โดยโปรดปรานทารกน้อยที่กำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่ในเปล นอกจากนี้พวกมันยังฉลาดพอที่จะเรียกร้องข่มขู่ให้เด็กๆเชื่อฟัง เชื่อกันว่าการเผาเมล็ดพืชและรมยาใกล้ๆกับทารกจะเป็นสิ่งที่ช่วยปกป้องชีวิตน้อยๆเอาไว้ได้
8. Lubia
ปีศาจหญิงที่มีความกระหายอยากในเนื้อของเด็ก โดยเฉพาะเนื้อของเด็กผู้หญิง มันมีลักษณะพิเศษคือหลายหัวตั้งแต่ 7-100 หัว และหากหัวหนึ่งถูกตัดออกหัวใหม่ก็จะงอกขึ้นมาแทนที่เหมือนกับสัตว์ประหลาดไฮดร้าของชาวกรีก
9. Div: อาเซอร์ไบจาน
เป็นยักษ์ขนาดเล็กที่ชอบกินเด็ก อย่างไรก็ตามในภายหลังมันพ่ายแพ้ให้กับการประลองสติปัญญากับ Jirtdan วีรบุรุษในตำนานของงานวรรณกรรมอาเซอร์ไบจาน
10. Tata Duende: เบลีส
ผีในตำนานที่มีรูปร่างเล็กมีเคราและมีรอยย่นที่เท้า มันชอบสวมหมวกปีกใบใหญ่และไม่มีนิ้วโป้ง ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ป่าและสรรพสัตว์ มันถูกนำมาใช้ขู่ให้เด็กๆหวาดกลัวไม่ให้ออกไปเล่นนอกบ้านในตอนกลางคืนหรือเข้าไปในป่า
11. Babaroga: บอสเนียแลมาซิเนีย
หญิงชราที่มีเขา ที่นิยมแอบมาลักพาตัวเด็กๆใส่กระสอบกลับไปยังถ้ำเพื่อกินเป็นอาหาร และบางครั้งอาจแอบดึงเด็กๆออกมาจากห้องผ่านรูที่อยู่บนเพดาน
12. Bicho Papão: บราซิลและโปตุเกศ
เป็นปีศาจที่จะปรากฏตัวออกมาข่มขู่เด็กๆที่มีนิสัยซุกซนให้หวาดกลัวในเวลากลางคืน ส่วนใหญ่แล้วพวกมันมักซ่อนตัวอยู่ใต้เตียง ตู้เสื้อผ้าหรือบนหลังคา
13. Ijiraq: ชาวเอสกิโม
ปีศาจที่มักมาลักพาตัวเด็กๆไปซ่อนเอาไว้ แต่เด็กๆสามารถโน้มน้าวเพื่อให้มันใจอ่อนยอมปล่อยได้หากมีวาทศิลป์เพียงพอ และเด็กๆเหล่านั้นยังสามารถใช้หิน “inukshuk” เพื่อช่วยในการหาทางกลับบ้านหลังจากนั้นได้
14. Qalupalik: ชาวเอสกิโม
สัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างคล้ายกับมนุษย์ เล็บยาว ผิวสีเขียว มีขนยาวที่อาศัยอยู่ในทะเล ถ้าหากเด็กคนไหนไม่เชื่อฟังพ่อแม่และอยู่เพียงลำพังคนเดียว มันก็จะมาพาเด็กเหล่านั้นไปเลี้ยงไว้ในเมืองใต้น้ำที่เรียกว่า Amauti
15. Kkullas: ไซปรัส
ชายสวมฮู้ด หรือพิการ มักจะปรากฏตัวในบ้านที่มีเด็กดื้อไม่ยอมทำตามคำสั่งของพ่อแม่ พร้อมกับจับเด็กเหล่านั้นใส่ในกระเป๋า เด็กเหล่านั้นจะหายตัวไปตลอดกาล
16. Abu Rigl Maslukha: อียิปต์
สัตว์ประหลาดที่ถูกเพลิงเผาผลาญในขณะที่ยังเป็นเด็กเพราะไม่ยอมเชื่อฟังพ่อแม่ หากมันพบเด็กซนก็จะจับเด็กเหล่านั้นมาทำเป็นอาหารค่ำแสนอร่อย
17. Awd Goggie: อังกฤษ
เด็กๆในประเทศอังกฤษมักได้รับคำเตือนจากผู้ใหญ่ว่าหากพวกเขาขโมยผลไม้จากสวน อาจถูกปีศาจ Awd Goggie จับกิน หรือถูกนกยักษ์สีดำมาจับตัวไป
18. Der schwarze Mann: เยอรมัน
ปีศาจที่ชอบซ่อนตัวอยู่ในที่มืด เช่น ตู้เสื้อผ้า ใต้เตียงเด็กหรือป่าในตอนกลางคืน
19. Baboulas: กรีซ
สัตว์กินเนื้อประเภทหนึ่งที่ชอบเนื้อเด็กเป็นพิเศษ พ่อแม่จึงชอบใช้ชื่อของมันมาปรามให้เด็กเชื่อฟัง
20.แมวเป้า : ประเทศไทย
ในประเทศไทยเองก็มีเรื่องราวของสิ่งชั่วร้ายที่คล้ายกับโบกี้แมน (Bogeyman) ที่เรียกว่า “แมวเป้า” แมวผีสีดำที่มีดวงตาเรืองแสงในความมืด ที่พ่อแม่ในภาคอีสานสมัยก่อนมักใช้ให้เด็กเข้านอนตามคำสั่งและไม่ดื้อไม่ซน ไม่เช่นนั้นจะถูกแมวเป้ามากินตับ (*สมัยก่อนผู้เขียนเองก็มักขู่ด้วยเรื่องราวของแมวเป้าเป็นประจำเช่นกัน)
John Wick ตัวละครนักฆ่าสุดโหดที่ได้รับสมญานามว่าโบกี้แมน (Bogeyman)
บทสรุปส่งท้าย : โบกี้แมน (Bogeyman) กับวัฒนธรรมร่วมสมัย
โบกี้แมน (Bogeyman)... เป็นเรื่องราวที่ต่อให้โลกหมุนไปเร็วเพียงใด และเทคโนโลยีได้รับการพัฒนามากสักเพียงไหน ก็ยังคงมีเรื่องราวที่ปรากฏขับขานให้เห็นเช่นเดิม เด็กๆทั่วมุมโลกก็ยังคงหวาดกลัวว่าในตู้เสื้อและใต้เตียงของตัวเองจะมีโบกี้แมน (Bogeyman) แอบซ่อนตัวรอคอยจังหวะเหมาะเพื่อจับตัวพวกเข้าไปยังดินแดนที่น่ากลัวที่ไม่เคยมีใครได้กลับมาหรือเปล่า!?