เทโนเม่ (Tenome) ภูตผีที่มีดวงตาอยู่ที่ฝ่ามือ ออกล่ากินมนุษย์ในยามราตรี แห่งประเทศญี่ปุ่น

เทโนเม่ (Tenome) เป็นภูตผีของประเทศญี่ปุ่นที่มีร่างกายภายนอกดูเหมือนกับชายชราตาบอด แต่ที่จริงแล้วในเบ้าตาของพวกมันไม่เคยมีดวงตาอยู่มาก่อน เพราะดวงตาของมันอยู่ที่บริเวณของฝ่ามือแทน..

 

พฤติกรรมของเทโนเม่

            ในตอนกลางคืน เทโนเม่จะเดินเตร่ไปตามทุ่งโล่งหรือสุสานเพื่อตามล่าหาเนื้อมนุษย์อันแสนโอชะกินเป็นอาหาร พวกมันมีความอดทนเป็นเลิศในการรอคอยให้มนุษย์เข้ามาใกล้เพียงพอจึงค่อยทำการจู่โจม แถมพวกมันยังวิ่งได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับใช้ประสาทสัมผัสเหนือธรรมชาติอันทรงพลังในการติดตามล่าเหยื่อในความมืด ทำให้แม้ว่าดวงตาจะอยู่ที่ฝ่ามือ กลับไม่เป็นอุปสรรคในการติดตามเหยื่อแต่อย่างใด

 

ต้นกำเนิดของเทโนเม่

            สำหรับต้นกำเนิดของเทโนเม่ไม่ชัดเจนนัก แต่เชื่อกันว่าพวกมันน่าจะเป็นวิญญาณของคนตาบอดที่ถูกปล้นฆ่าด้วยฝีมือของเหล่าอาชญากร

            มีนิทานพื้นบ้านของประเทศญี่ปุ่นที่เล่าถึงผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกสัตว์ประหลาดที่ไม่มีดวงตาบนใบหน้า แต่ดวงตากลับอยู่ที่ฝ่ามือทั้งสองข้างแทนในตอนกลางคืน เขาพยายามหนีไปยังโรงแรมที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อหาที่หลบซ่อนตัวจากภัยร้าย พร้อมกับบอกเจ้าของโรงแรมเกี่ยวกับสิ่งที่เห็น

            เจ้าของโรงแรมเล่าว่า เมื่อไม่กี่วันก่อนมีชายตาบอดถูกทำร้ายบนถนนและถูกปล้นทรัพย์ ณ ถนนที่เขาหนีจากมา ก่อนที่ชายตาบอดจะสิ้นลมหายใจ เขาได้พูดประโยคสุดท้ายว่า

            “ถ้าข้าได้จ้องมองหน้าของพวกมันสักครั้ง! ถ้าหากดวงตาของขาใช้งานได้ ต่อให้อยู่บนฝ่ามือก็ตาม”

            เชื่อกันว่าด้วยความพยาบาทขุ่นเคืองที่ต้องตาย ทำให้วิญญาณของชายตาบอดได้กลายมาเป็นภูตผีที่มีดวงตาที่สามารถมองเห็นบนฝ่ามือ ตามความต้องการสุดท้าย...

 

ตำนานที่น่าสนใจของเทโนเม่

            ในเขตชิจิโจ เมืองเกียวโต ชายหนุ่มคนหนึ่งได้เข้าไปในสุสานตอนกลางคืน โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะทดสอบความกล้าหาญของตัวเองที่มีต่อความมืดมิด ในตอนนั้นเองที่มีชายชราตาบอดเดินเข้ามาหา เมื่อเข้ามาใกล้เพียงพอ เขาสังเกตเห็นดวงตาปรากฏอยู่บนฝ่ามือของชายชราและร่างนั้นก็ติดตามเขามาอย่างไม่ลดละ

            ชายหนุ่มรีบวิ่งหนีไปยังวัดที่อยู่ใกล้ๆ ด้วยความรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้พร้อมกับขอร้องให้นักบวชพาไปยังสถานที่ปลอดภัย นักบวชตอบรับคำขอและซ่อนเขาเอาไว้หีบเก็บของใบใหญ่แล้วล็อกฝาเอาไว้อย่างแน่นหนา

            จากนั้นไม่นานนัก เขาก็ได้ยินเสียงภูตผีเข้ามาในวัด ได้ยินเสียงมันพยายามดมกลิ่นอย่างรุนแรงราวกับสัตว์นักล่าที่ติดตามเหยื่ออย่างไม่ลดละ เสียงดมกลิ่นนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆจนอยู่ข้างหีบที่เขาซ่อนตัวอยู่ จากนั้นก็มีเสียงประหลาดที่ฟังคล้ายกับสุนัขกำลังดูดกระดูกสัตว์ ไม่นานนักหลังจากนั้นเสียงอันน่าขนลุกของภูตผีก็หายไป เหลือเอาไว้เพียงแค่ความเงียบสงบ

            นักบวชได้เปิดหีบออกเพื่อปล่อยให้เขาเป็นอิสระ แต่สิ่งที่นักบวชพบในกล่องนั้นคือร่างของชายหนุ่มที่เหลวลงไปกองรวมกันราวกับก้อนผิวหนังที่เหลว กระดูกของชายหนุ่มทั้งหมดถูกดูดออกไปจากร่างจนหมด เหลือเพียงแค่เนื้อและหนังภายนอกห่อหุ้มร่างกายอยู่อย่างน่าสะพรึงกลัว...