เมื่อนักเขียนแจอผี เรื่องจริง ตอนที่ 2 : ห้องน้ำในคืนน้ำท่วมใหญ่
ช่วงน้ำท่วมครั้งใหญ่ปลายปี 2554 ผู้เขียนได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของอาสาสมคัรช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จัดขึ้นชั่วคราว ณ มหาวิทยาลัยดังย่านรังสิต ที่เปิดให้ใช้ศูนย์กีฬาเป็นสถานที่พักพิงชั่วคราว ในช่วงเวลานั้นถือว่าค่อนข้างวุ่นวายเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากมวลน้ำจำนวนมหาศาลจากจังหวัดโดยรอบจะไหลมารวมกันเข้าท่วมกรุงเทพ ฝนก็ยังตกหนักติดต่อกันตลอดทั้งวัน ในขณะที่ผู้ประสบภัยจำนวนมากก็ทยอยเดินทางฝ่าสายฝน เนื้อตัวเปียกปอนหนาวสั่น บางคนหนีน้ำท่วมออกมาได้เพียงแค่ตัวไม่มีสัมภาระแม้สักชิ้น บางคนไม่มีแม้แต่รองเท้า แต่ยังอุ้มกอดสุนัขคู่ใจเอาไว้แน่น ทั้งคนทั้งสุนัขเปียกปอนหนาวสั่นไม่ต่างกัน
ภาพที่เห็นทำให้รู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก ในขณะเดียวกันก็รู้สึกดีที้มีโอกาสได้เข้ามาเป็นส่วนช่วยเหลือในเหตุการณ์ครั้งประวติศาสตร์นี้...
ช่วงหัวค่ำผู้ประสบภัยเริ่มมากขึ้น จนผู้ดูแลศูนย์พักพิงเริ่มกังวลว่าน้ำในห้องน้ำของศูนย์กีฬาอาจไม่เพียงพอถ้าหากไม่ได้ทำการรองเก็บเอาไว้ล่วงหน้า เขาเลยขอให้ผมกับนักศึกษาชาย 2-3 คน ช่วยกันขนเอาถังใส่น้ำไปวางเอาไว้ในทุกห้องน้ำเพื่อรองเก็บน้ำเอาไว้ก่อน
พวกผมรับถังน้ำมา จากนั้นแบ่งงานกันให้การนำถังน้ำไปวางเสร็จอย่างรวดเร็วที่สุด โดยผมได้รับผิดชอบห้องน้ำชายชั้นหนึ่งที่ตั้งอยู่ลึกที่สุด ทำให้ไม่ค่อยมีคนเดินมาสักเท่าใดนัก ผมเดินตามทางเดินที่มีแสงไฟสลัวไปเพียงลำพัง สองมือถือถังน้ำเอาไว้ จนกระทั่งมาถึงห้องน้ำชายที่หมายที่ปิดไฟอยู่ มีเพียงแสงไฟจากประตูห้องน้ำที่เปิดทิ้งเอาไว้เท่านั้นที่ช่วยให้พอมองเห็นภายในได้บ้าง ในตอนนั้นผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนห่อไหล่หันหลังให้อยู่ภายในห้องน้ำ เขายืนนิ่งสนิทราวกับรูปปั้น แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะคงจะเป็นคนที่มาเข้าห้องน้ำตามปกติ
ผมวางถังน้ำเอาไว้ข้างนอกของประตูห้องน้ำ แล้วเอื้อมมือเข้าไปที่ข้างประตูห้องน้ำหาสวิตซ์เปิดไฟฟ้าของห้องน้ำ ในจังหวะนั้นเองที่พลันนึกขึ้นมาได้พอดีว่า ทำไมชายคนนี้ถึงยืนอยู่ในห้องน้ำมืดๆ เพียงลำพัง แถมยังไม่เปิดไฟ?
แป้ก!
สวิตช์ไฟฟ้าถูกกด ในห้องน้ำสว่างขึ้น พร้อมกับคำถามในใจของผมที่ได้รับคำตอบ
ทันทีที่ห้องน้ำสว่าง ร่างของชายคนนั้นก็หายวับไปพร้อมกับความมืดทันทีราวกับไม่เคยมีตัวตนมาก่อน!
ผมยืนนิ่งกับสิ่งที่เห็นนานหลายวินาที เมื่อตั้งสติได้ก็หยิบเอาถังน้ำที่วางอยู่ด้านนอกยื่นเข้าไปไว้ด้านใน ก่อนที่จะหมุนตัวเดินกลับไปตามทางเดินที่มือสลัว โดยไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองห้องน้ำแห่งนั้นอีกเลย…