เปิดตำนานอีกาปากเหล็ก สัตว์นรกลงทัณฑ์ฉีกกินเลือดเนื้อคนบาปอย่างไม่รู้อิ่ม
อีกาปากเหล็ก... เป็นชื่อของสัตว์ในนรกที่คอยมอบความทุกข์ทรมานให้กับเหล่าคนบาปในนรกที่คนไทยผู้นับถือศาสนาพุทธต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่เรื่องราวของอีกาปากเหล็กกลับไม่ค่อยมีใครหยิบยกนำมากล่าวถึงกันอย่างจริงจังมากนัก และมักมีเพียงคำบันทึกสั้นๆ เกี่ยวกับเรื่องราวของสัตว์นรกตัวนี้เท่านั้น ดังนั้น เพื่อไม่ให้เรื่องราวของอีกาปากเหล็กเลือนหายไป บทความชิ้นนี้จึงอยากขอเรียบเรียงเรื่องราวที่น่าสนใจของอีกาปากเหล็กมาฝากกัน โดยหวังว่าจะเป็นการช่วยให้เรื่องราวที่น่าสนใจของสัตว์แห่งขุมนรกตัวนี้ ไม่ถูกลืมเลือนหายไปตามกาลเวลา...
อีกาปากเหล็ก จ้าวแห่งการทรมาน ณ สิมพลีนรก
จากบันทึกทางศาสนาและความเชื่อที่สืบทอดต่อกันมา นรกมีอยู่ทั้งหมด 457 ขุม ประกอบไปด้วยมหานรก 8 ขุม อุสสทนรก 128 ขุม ยมโลกนรก 320 ขุมและโลกันตร์นรก 1 ขุม อีกาปากเหล็ก เป็นสัตว์นรกที่อาศัยอยู่ในนรกขุมที่ 2 ที่มีชื่อว่า “สิมพลีนรก” นรกขุมนี้มีความโดดเด่นคือ นรกป่าไม้งิ้ว เป็นต้นงิ้วพิเศษที่ไม่มีในมหานรก เต็มไปด้วยหนามแหลมคมเป็นกรด มีความยาวประมาณ 16 องคุลี ลุกเป็นไฟอยู่ตลอดกาล นรกขุมนี้เต็มไปด้วยสัตว์นรกทั้งชายหญิง ในบางครั้งนายนิรยบาลจะให้สัตว์นรกหญิงปีนขึ้นไปรอบนต้นงิ้วก่อน จากนั้นก็จะใช้หอก แหลน หลาว ทุบตีทิ่มแทงให้สัตว์นรกชายปีนตามขึ้นไป แม้จะเลือดอาบร่างกาย ลื่นเลือดตัวเองเพียงใดก็ยงถูกบังคับให้ปีนป่ายต่อไปจนกว่าจะหมดกรรม เหล่าคนบาปที่ตกนรกขุมนี้ ในสมัยที่เป็นมนุษย์ได้ทำผิดศีลข้อ 3 คือ กาเมสุมิจฉาจาร หรือการคบชู้ หากเป็นชายคือ ผู้ที่เป็นชู้กับสามีคนอื่น หากเป็นหญิงคือ คนที่เป็นชู้กับสามีของคนอื่น การประพฤติตนออกใจเหล่านี้เองทำให้เมื่อเสียชีวิตจึงตกลงมาสู่นรกขุมนี้
นอกจากนี้อีกาปากเหล็กก็ยังทำหน้าที่ในการลงทัณฑ์เหล่า “เปรตพระทำผิดวินัย” เช่น การน้อมลาภของสงฆ์ไปเป็นประโยชน์ส่วนตน (สมบัติของตัวเอง) น้อมลาภสงฆ์ไปเป็นประโยชน์ส่วนบุคคล (นำไปมอบให้คนอื่น) เป็นต้น เมื่อสงฆ์ไม่อนุญาตให้พระเหล่านี้แสดงอาบัติไม่ตก เมื่อตายไปก็จะกลายเป็นเปรต ผีเปรตเหล่านี้ต้องทนทุกข์ทรมานจากการถูกไฟเผาตามร่างกาย และถูกอีกาปากเหล็กไล่จิกตามแผลที่ถูกไฟเผาผลาญ ผีเปรตประเภทนี้ต้องไปรับการอนุญาตและยกโทษให้จากการประชุมสงฆ์ถึงจะหลุดพ้นจากบ่วงกรรมของการเป็นเปรต
อีกาปากเหล็ก คืออะไร!?
อีกาปากเหล็ก คือ นกแร้งกาที่มีปากเป็นเหล็ก ที่ทำหน้าที่ตรวจตราและลงโทษวิญญาณที่กำลังชดใช้กรรมในนรก โดยจะทำการบินโฉบลงมาใช้ปีกตี และใช้ปากเหล็กไล่จิก ฉีกเนื้อด้วยกรงเล็บกินเนื้อของเหล่าคนบาปในขณะที่กำลังปีนต้นงิ้วเป็นอาหารจนร่างกายขาดวิ่น คนบาปที่ได้รับความเจ็บปวดทรมานจะพยายามหนีจากการจิกกินเนื้อจนบางครั้งอาจพลัดตกลงมาถูกหอกหรือสามง่ามของผู้คุมนรกที่รออยู่ด้านล่าง หรือถูกสุนัขนรกรุมกัดกินเป็นอาหาร แต่เชื่อกันว่าที่จริงแล้วอีกาปากเหล็กคือเหล่านายนิรยบาลที่แปลงกายมาเป็นอีกาปากเหล็กเพื่อมอบความทุกข์ทรมานให้กับเหล่าคนบาป เพราะในยมโลกนั้นไม่มีสัตว์เดรัจฉานอาศัยอยู่
วันพระ วันหยุดพักของนรกและเหล่าอีกาปากเหล็ก
เชื่อกันว่าในวันพระ หนามของต้นงิ้วจะหดกลับไป ทำให้สัตว์นรกที่กำลังชดใช้กรรมอยู่ได้พักผ่อนได้กลับลงมานอนหลังหรือนอนร้องครวญครางขอความเห็นใจอยู่บนพื้นดินหลังจากที่ปีนป่ายอยู่บนต้นงิ้วมานานแสนนาน ในขณะเดียวกันอีกาปาเหล็กและสุนัขปากเหล็กที่ทำหน้าที่ทรมานสัตว์นรกก็จะกลับคืนร่างเดิมเป็น “กุมภัณฑ์”
พระมาลัย เยี่ยมโปรดสัตว์ ณ เมืองนรก
ณ ตามพปัณณิทวีป (เกาะศรีลังกาในปัจจุบัน) มีพระเถระองค์หนึ่งนามว่า “พระมาลัย” ท่านเป็นกระอรหันต์ขีณาสพ มีบุญญานุภาพและฤทธิ์เดชเกริกไกร มีเกียรติคุณแผ่ไพศาลจนเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในทวีปนี้ นอกจากจะเป็นเนื้อนาบุณให้กับชาวบ้านได้ทำบุณสุนทานกันแล้ว ท่านก็ยังเข้าฌานชำแรกแผ่นดินไปยังเมืองรกบ่อยครั้ง ทุกครั้งเมื่อไปถึงก็จะสำแดงฤทธิ์บันดาลให้ไฟนรกที่แผดเผาโชติช่วงเผาไหม้บรรดาสัตว์นรกอย่างบ้าคลั่งให้ดับลง พร้อมกับเทฝนให้ต้องร่างที่เกือบสุกเกรียมเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด ในขณะเดียวกันก็บันดาลให้เกิดลมกระพือต้นงิ้ว ภูเขาไฟและอีกาปากเหล็กทั้งหลายให้กระจัดกระจายไปตามแรงลมจนสิ้น และบันดาลให้น้ำในกระทะทองแดงที่เดือดพล่านกลายเป็นน้ำเย็นที่มีรสหวานปานน้ำผึ้งให้เหล่าสัตว์นรกได้ดื่มกินอย่างสำราญ เหล่าสัตว์นรกที่ซาบซึ้งพระคุณได้กราบไหว้และขอพระมาลัยว่ายามเมื่อกลับไปยังโลกมนุษย์แล้วขอให้แวะไปที่บ้านเมืองของพวกเขาและบอกญาติพี่น้องให้เร่งทำบุญอุทิศส่วนกุศลมาให้ด้วยเพื่อที่จะได้พ้นกรรม พระมาลัยได้ทำตามคำขอและเมื่อสัตว์นรกเหล่านั้นได้รับการทำบุญอุทิศส่วนกุศลก็ได้ไปเกิดบนสวรรค์เสวยสมบัติทิพย์เป็นที่สำราญในทันที
บทสรุปส่งท้าย : อีกาปากเหล็ก ผู้ลงทัณฑ์ที่น่าสะพรึงกลัวแห่งนรก
ถึงแม้ว่าอีกาปากเหล็กจะปรากฏตัวเพื่อลงทัณฑ์เหล่าคนบาปในขุมนรก แต่เชื่อว่าคงไม่มีใครที่อยากจะเผชิญหน้าพวกมันอย่างแน่นอน ดังนั้น วิธีเดียวที่จะสามารถหลีกพ้นจากเหล่าอีกาปากเหล็กได้ดีที่สุดคือการไม่ผิดศีลกาเม และเร่งทำบุญเสริมกุศลของตัวเองเอาไว้ตั้งแต่อยู่ในภพภูมิของมนุษย์ในปัจจุบันนั่นเอง...