13 กติกาที่จะช่วยให้คุณรอดพ้นจากอาถรรพ์ของป่าดงดิบ

            ธรรมชาติ... โดยเฉพาะป่าดงดิบ เป็นสถานที่ห่างไกลจากความเจริญและการมาเยือนของมนุษย์ มันเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความลึกลับ เงียบสงบและน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเชื่อกันอีกว่าในป่าดงดิบจะมีสิ่งลี้ลับที่หลบเร้นซ่อนกายอยู่และพร้อมที่ปรากฎกายเล่นงานผู้มาเยือนที่ไม่เคารพ “กติกาแห่งผืนป่า” ดังนั้น ถ้าหากใครไม่อยากตกเป็นเป้าหมายของความอาถรรพ์แห่งป่าดงดิบ ขอแนะนำว่าอย่าทำสิ่งดังต่อไปนี้ เพื่อที่เมื่อเข้าไปในป่าดงดิบแล้วจะได้กลับมาอีกโดยสวัสดิภาพปราศจากอาถรรพ์มาเยือน

13 เรื่องที่ไม่ควรทำถ้าไม่อยากเจอดี พบความอาถรรพ์ของป่าดงดิบ

1.อาถรรพ์ป่าดงดิบ: ห้ามชวนใครกลับบ้านโดยไม่เอ่ยชื่อ

            การพูดคุยกันในระหว่างการเดินป่า โดยเฉพาะเวลาชวนกันกลับบ้านควiเอ่ยชื่อของผู้สนทนาด้วย ไม่เช่นนั้นอาจมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญกลับบ้านมาด้วย

2.อาถรรพ์ป่าดงดิบ: ห้ามพูดถึงสิงสาราสัตว์

            การห้ามพูดถึงสิงสาราสัตว์ทุกประเภทขณะที่อยู่ในป่า เช่น งู เสือ หรือหากลงไปในน้ำอย่าพูดถึงจระเข้ เป็นต้น เป็นความเชื่อที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างช้านาน เพราะคำพูดนั้นมีพลังที่จะดึงดูดให้สัตว์ร้ายที่น่าเกลียดน่ากลัวให้เข้ามาหาได้อย่างไม่ทันรู้ตัว

3.อาถรรพ์ป่าดงดิบ: ห้ามพูดถึงภูต ผีและวิญญาณในตอนกลางคืน

            ผืนป่าดงดิบเป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าภูต ผีและวิญญาณที่เต็มไปด้วยความลึกลับอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น ไม่ควรพูดถึง หรือเล่าเรื่องผีสางนางไม้ในป่า เพราะจะทำให้สิ่งลี้ลับเกิดความรู้สึกสนใจอยากที่จะเข้ามาฟังเรื่องราวของตัวเองใกล้

4.อาถรรพ์ป่าดงดิบ: ห้ามนอนขวางทางเดินสัญจรในป่า

            เส้นทางสัญจรไม่ว่าจะมีขนาดเล็ก ขนาดใหญ่หรือเส้นทางเดินของสัตว์ป่า เป็นสถานที่ที่ไม่ควรไปตั้งแคมป์นอนพักผ่อนนอนหลับขวางทางในเวลากลางคืนอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเส้นทางเหล่านี้มักเป็นเส้นทางของวิญญาณที่ใช้เดินทางเป็นประจำในตอนกลางคืน ถ้าหากพบว่ามีมนุษย์นอนขวางอยู่ก็อาจจะถูกกลั่นแกล้งด้วยการนั่นทับ ยืนเหยียบจนเกิดอาการที่เรียกว่า “ผีอำ” จนกว่าวิญญาณเหล่านั้นจะพอใจกับความทุกข์ทรมาน

5.อาถรรพ์ป่าดงดิบ: ห้ามลืมขอเจ้าที่เจ้าทางก่อนเข้านอน

            ก่อนเข้านอนในป่าทุกครั้ง อย่าลืมทำการไหว้พระ สวดมนต์และบอกกล่าวกับเจ้าที่เจ้าทางที่ทำหน้าที่ในการดูแลพื้นที่ พร้อมกับแนะนำตัวว่าเราเป็นใคร มายังสถานที่แห่งนี้ด้วยธุระอันใด และขอให้เจ้าที่เจ้าทางช่วยคุ้มครองดูแลไม่ให้มีสิ่งชั่วร้ายมาทำอันตรายในตอนกลางคืน

6.อาถรรพ์ป่าดงดิบ: ห้ามเล่นซ่อนหาในตอนกลางคืน

            ในช่วงเวลากลางคืน เป็นโลกของสิ่งลี้ลับที่จะออกมาเดินเล่นเพ่นพ่านกันอยู่ทั่วไป ดังนั้น หากใครไปเดินป่า หรืออาศัยอยู่ใกล้ป่าไม่ควรเล่นพิเรนทร์อย่างการเล่นซ่อนหาในเวลากลางคืน เพราะนอกจากอาจได้พบกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญที่มาจากโลกหลังความตายแล้ว ยังอาจต้องเผชิญหน้ากับสัตว์มีพิษที่ออกหากินในตอนกลางคืนที่ทำให้เกิดอันตรายจนอาจถึงชีวิตอีกด้วย

7.อาถรรพ์ป่าดงดิบ: ห้ามนอนหันหัวไปทางทิศตะวันตก

            เชื่อกันมาอย่างช้านานว่าทิศตะวันตก เป็นทิศหันหัวสำหรับคนตาย หากหันไปในทิศทางดังกล่าวนอกจากจะไม่เป็นสิริมงคลกับตัวเองแล้ว ก็ยังมีโอกาสทำให้สิ่งลี้ลับในผืนป่าคิดว่าเป็นพวกเดียวกันเพราะนอนหันหัวไปในทิศทางเดียวกันอีกด้วย ดังนั้น ก่อนนอนควรสำรวจทิศทางการหันหัวนอนของตัวเองให้ดี โดยหันไปทางใดก็ได้ที่ไม่ใช่ทิศตะวันตกนั่นเอง

8.อาถรรพ์ป่าดงดิบ: ห้ามขานรับหากมีคนมาเรียกในตอนกลางคืน

            เมื่อนอนในป่าตอนกลางคืน ถ้าหากอยู่ๆมีคนมาเรียกชื่อหรือกระซิบเรียกชื่อจากในป่า ห้ามทำการขานรับกลับไปอย่างเด็ดขาด เพราะเชื่อกันว่าเสียงดังกล่าวเป็นเสียงของภูตผี วิญญาณที่ใช้ความอยากรู้อยากเห็นล่อลวงให้เข้าไปในป่า และหากทำการตอบรับก็เหมือนกับเป็นการเชิญให้สิ่งลี้ลับเข้ามาหาหรืออาศัยอยู่ด้วย ดังนั้น ถ้าหากได้ยินเสียงเพรียกจากพงไพรควรทำเป็นไม่ได้ยิน ไม่รู้ ไม่เห็นจะเป็นการดีกว่า

9.อาถรรพ์ป่าดงดิบ: ห้ามเคาะชามข้าวในตอนกลางคืน

            การเคาะชามข้าวในตอนกลางคืน ตามความเชื่อจะเป็นพิธีกรรมเรียกผีและวิญญาณเร่ร่อน ผีหิวโหย มาทานข้าว และในบางครั้งสิ่งลี้ลับเหล่านี้อาจมานั่งกระทบไหล่กินข้าวอยู่ข้างๆด้วยโดยไม่ทันรู้ตัว

10.อาถรรพ์ป่าดงดิบ: ห้ามผิวปากในตอนกลางคืน

            การผิวปากในตอนกลางคืน เชื่อว่าเป็นการเรียกหาวิญญาณ ภูตผี เร่ร่อนให้มาหา นอกจากนี้ยังดึงดูดไสยศาสตร์มนต์ดำที่ล่องลอยอยู่ในอากาศในตอนกลางคืน เบนเข็มเป้าหมายมายังคนที่ทำการผิวปากจนกลายเป็นเรื่องอันตรายสำหรับตัวเอง

11.อาถรรพ์ป่าดงดิบ: ห้ามเล่นเงาของตัวเองในตอนกลางคืน

            การเล่นเงาของตัวเองในตอนกลางคืน เชื่อกันว่าเป็นการกระทำที่เลวร้าย เพราะจะส่งผลให้ภูตผีวิญญาณร้ายที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นสามารถมองเห็นคนเป็นผ่านเงาได้ พร้อมกับทำการติดตามมาหลอกหลอนก่อกวน ดังนั้น การพยายามหลีกเลี่ยงไม่เล่นเงาของตัวเองจะเป็นการป้องกันตัวเองได้เป็นอย่างดีที่สุด

12.อาถรรพ์ป่าดงดิบ: ห้ามสวดหาหุงฯ และชินบัญชร

            บทสวดหาหุงฯ และชินบัญชร เป็นบทสวดที่ทรงอานุภาพเป็นอย่างมาก หากทำการสวดในป่าที่มีสิ่งมีชีวิตในต่างภพภูมิที่อาศัยอยู่ในป่ามาอย่างช้านาน อาทิเช่น เปรต อสุรกายและอมนุษย์ เป็นต้น ที่ไม่ได้สัมผัสกับพระธรรมมาก่อนจนจิตใจตกอยู่ในความหยาบกร้าน เมื่อได้รับฟังบทสวดเข้าไปเลยทำให้เกิดความคลั่ง

13.อาถรรพ์ป่าดงดิบ: ห้ามปลดทุกข์โดยไม่ได้ขออนุญาต

            ก่อนทำธุระส่วนตัวไม่ว่าจะหนักหรือเบา ควรทำการขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางก่อนทุกครั้ง และก่อนปลดทุกข์ทุกครั้ง ควรตรวจสอบให้ดีก่อนว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่าไม่เช่นนั้น สิ่งลี้ลับที่สิงสถิตอยู่ ณ สถานที่แห่งนั้นอาจไม่พอใจแล้วตามกลับมาถึงบ้านได้

            ความเชื่อเกี่ยวกับอาถรรพ์ในป่าดงดิบเหล่านี้... เป็นสิ่งที่ได้รับการสืบทอดมาจากอย่างยาวนานตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์จะก้าวหน้าไปมาก และในเมืองใหญ่เองก็ถูกไฟแสงสีสาดส่องตลอด 24 ชั่วโมง จนทำให้เรื่องราวน่าสะพรึงลดน้อยลง แต่ท่ามกลางป่าดงดิบอันกว้างใหญ่ เชื่อว่าอาถรรพ์ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในเงามืดอาจพร้อมเล่นงานคนที่กล้าเข้ามาท้าทายได้อย่างน่าสะพรึงกลัวอย่างแน่นอน...

แบ่งปัน: