คนที่คลอดลูกแล้วเสียชีวิต ทำไมถึงถูกเรียกว่า “ตายทั้งกลม”
“ผีตายทั้งกลม” หรือ บางครั้งถูกเรียกว่า “ผีตายท้องกลม” เป็นหนึ่งในประเภทของผีตายโหง ที่เสียชีวิตเมื่อตั้งครรภ์ท้องแก่ใกล้คลอด และในขณะที่กำลังคลอดลูก โดยผีตายทั้งกลมต้องเป็นการเสียชีวิตหมดทั้งแม่และลูก ถ้าหากแม่เสียชีวิตเพียงคนเดียวแต่ทารกรอดก็ต้องเรียกว่า “ผีตายโหง” เพราะเป็นการตายที่ผิดธรรมชาติ อ้างจากศิลาจารึกสมัยสุโขทัยหลักที่หนึ่ง และหนังสือเรื่องไตรภูมิพระร่วงว่า คำว่า “กม” มีความหมายว่า “ทั้งหมด” ดังนั้น การตายทั้งกลม ย่อมมีความหมายได้ว่า “ตายหมดทั้งแม่ลูก” นั่นเอง นอกจากนี้ผีตายทั้งกลม ยังไม่จำเป็นที่จะต้องมีการสืบทายาท หรือดำรงเผ่าพันธุ์เหมือนกับผีประเภทอื่น เนื่องจากเป็นผีที่เกิดขึ้นมาจากสถานการณ์เฉพาะนั่นเอง
ผีตายทั้งกลม เฮี้ยนแค่ไหน!?
เชื่อกันว่าการตายในลักษณะนี้จะทำให้ดวงวิญญาณต้องเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ในทางภาคเหนือ ในวัฒนธรรมของชาวล้านนา มีผีชนิดหนึ่งที่ถูกเรียกว่า “ผีพราย” ที่เสียชีวิตจากการคลอดลูก มีพฤติกรรมดุร้าย มักไปทำการเข้าสิงหรือทำร้ายคนที่กำลังเจ็บป่วยหนัก
การปรากฏตัวหลอกหลอนของผีตายทั้งกลม
ผีตายทั้งกลม มักจะปรากฏตัวขึ้นมาหลอกหลอนคนที่พบเห็น อาทิเช่น เมื่อเดินผ่านบ้านของผีตายทั้งกลมในตอนกลางคืนจะได้ยินเสียงเพลงกลมเด็กที่ดังวังเวงแว่วมาตามสายลม หรือบางครั้งอาจจะเห็นผีตายทั้งกลมนั่งไกวเปล ยืนอุ้มลูก พร้อมกับร้องเพลงกล่อมเด็กในความมืดจนทำให้ผู้ที่พบเห็นถึงกับต้องขนลุกเกรียวไปตามกัน
สาเหตุที่ทำให้คนสมัยก่อนตายทั้งกลม
ในสมัยก่อนความเจริญก้าวหน้าทางการแพทย์ล้าหลังอย่างมาก การคลอดลูกจึงกลายมาเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงตายเป็นอย่างมาก สำหรับสาเหตุที่มักทำให้เกิดเหตุการณ์ตายทั้งกลมขึ้นนั้น ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นมาจากสาเหตุดังต่อไปนี้
ทารกใช้ไหล่นำในการคลอด
ทำให้ไหล่กลายมาเป็นส่วนนำในการคลอด ซึ่งไหล่มีขนาดใหญ่กว่าหัวและก้นของเด็ก ทำให้การคลอดแบบนี้เสี่ยงอย่างมากทั้งแม่และเด็กเอง ในปัจจุบันหากเกิดปัญหานี้ขึ้น แพทย์จะทำการผ่าคลอดแทนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับแม่และเด็กนั่นเอง
ไหล่ของทารกติดช่องคลอด
หากไหล่ของทารกมีขนาดใหญ่มากผิดปกติ อันอาจเกิดจากการที่ทารกมีน้ำหนักมากจนเกินไป ในระหว่างการคลอดไหล่อาจติดช่องคลอดทำให้ไม่สามารถคลอดออกมาได้ และหากเด็กติดอยู่ในช่องคลอดเพียงไม่กี่นาทีก็จะทำให้เสียชีวิตได้เช่นกัน
เชิงกรานของมารดามีขนาดเล็กเกินไป
ทำให้ศีรษะของทารกไม่สามารถคลอดผ่านเชิงกรานออกมายังปากช่องคลอดได้ อาจเกิดขึ้นจากการที่ทารกมีขนาดตัวที่ใหญ่มากกว่าปกติ หรือเชิงกรานของผู้เป็นแม่ไม่ได้สัดส่วน
แม่นาคพระโขนง ผีตายทั้งกลมที่ชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดของไทย
แม่นาคพระโขนง เป็นหนึ่งในผีตายทั้งกลมที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี แถมยังเป็นผีตายทั้งกลมที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ความรู้สึก ความรัก และแรงอาฆาตที่ทำให้คนในละแวกพระโขนงในช่วงเวลานั้นต้องขนหัวลุกไปตามกัน และหลังจากที่พี่มากได้กลับมาจากการเกณฑ์ทหาร ชาวบ้านได้พยายามบอกกับพี่มากว่าแม่นาคได้ตาลทั้งกลมกลายเป็นเพียงวิญญาณ แต่พี่มากก็ไม่ยอมเชื่อจนกระทั่งบังเอิญเห็นนางนาคยืดแขนยาวลงไปเก็บมะนาวใต้ถุนจึงได้รู้ความจริงและหนีไป นางนาคที่คับแค้นใจมากและเชื่อว่าสาเหตุมาจากเหล่าชาวบ้านที่ยุแยงสามี ทำให้แผลงฤทธิ์อาละวาดหลอกหลอนผู้คนไปทั้งบาง จนในที่สุดวิญญาณนางนาคก็ถูกหมอผีจับใส่หม้อถ่วงน้ำ แต่เหตุการณ์สงบได้ไม่นานวิญญาณถูกปลดปล่อยจากชาวประมงที่บังเอิญไปพบหม้อดินสะกดวิญญาณ ทำให้นางนาคกลับมาอาละวาดอีก กระทั่งในที่สุดวิญญาณของนางนาคก็ถูกสยบโดน สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหรมรังสี) ด้วยการนำกะโหลกบริเวณหน้าผากมาทำเป็นปั้นเหน่ง (หัวเข็มขัดแบบโบราณ) เพื่อทำสะกดวิญญาณ ก่อนที่จะทำการปลดปล่อยวิญญาณที่เต็มไปด้วยความอาฆาตของนางนาคให้ไปสู่สุคติ
ความเชื่อโบราณในการรับมือกับผีตายทั้งกลม ทำไมถึงห้ามเผาแม่และลูกพร้อมกัน!?
ตามความเชื่อโบราณ ถ้าหากผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ท้องแก่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เพื่อป้องกันไม่ให้ผีตายทั้งกลมเกิดความเฮี้ยนขึ้น คนโบราณจะทำพิธีไสยศาสตร์มนต์ดำตัดสายสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก ( การผ่าจ้าน) ด้วยการผ่าเอาศพเด็กทารกแยกออกไปฝังที่อื่น ส่วนร่างของผู้เป็นแม่จะถูกนำไปเผา โดยห้ามเผารวมกันอย่างเด็ดขาดไม่อย่างนั้นจะเป็นส่งเสริมเพิ่มความเฮี้ยนให้มากขึ้นกว่าเดิม แต่โดยทั่วไปแล้ววทางวัดจะไม่ทำการเผาศพเด็กทารกที่ยังไม่มีฟันขึ้นเสียก่อนจึงจะเข้ารับการเผาได้
นอกจากนี้ยังต้องทำพิธีตัดสายสัมพันธ์ผัวเมียของผู้ตายกับสามี ด้วยดาบหรือเคียว ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดเรื่องราวสุดอาถรรพ์ตามมาเป็นเงาตามอย่างมากมายเลยทีเดียว แต่มีบางครั้งที่วิญญาณเข้าขั้นเฮี้ยน ทำให้ไม่สามารถตัดฝ้ายขาดได้ ในขณะเดียวกันหน้าตาของศพก็จะเหมือนกับกำลังยิ้มเยาะหรือดงมากขึ้นเรื่อยๆ หากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นผู้ทำพิธีจะใช้เคียว หรือดาบสับลงไปที่หน้าผากของผีตายทั้งกลมพร้อมกับบริกรรมคาถาสะกดวิญญาณ หากไม่ได้ผลก็จะทำซ้ำอีกจนกว่าร่างของศพจะกลับไปเป็นปกติ ดังนั้น หลายครั้งที่ศพของผู้หญิงตายท้องกลมในสมัยก่อนที่ถูกทำพิธีนี้จึงมีสภาพที่เละเทะไม่น่ามองอันเนื่องมาจากการถูกของมีคมสับหลายครั้งนั่นเอง แม้จะฟังดูน่าอนาถใจ แต่คนที่ทำพิธีกรรมก็จำเป็นจะต้องทำให้พิธีสำเร็จ ไม่อย่างนั้นผีตายทั้งกลมอาจย้อนกลับมาทำร้ายคนที่ทำพิธีในภายหลังนั่นเอง
ในสมัยก่อนผีตายทั้งกลมมีโอกาสที่จะแสดงความเฮี้ยนสูง อันเนื่องมาจากการตายในลักษณะเช่นนี้ ทำให้ไม่สามารถแยกร่างของแม่และเด็กทารกออกจากกันได้เพราะเป็นเรื่องยากของชาวบ้านทั่วไปที่ไม่รู้เรื่องกายวิภาค และจากข้อจำกัดที่ว่าห้ามเผาแม่กับลูกรวมกันทำให้ไม่มีทางเลือกเหลือนอกจากทำการฝังดินรวมกันเพียงอย่างเดียว ทำให้แม้ร่างกายจะเน่าเปื่อยสลายไป แต่โครงกระดูกยังคงอยู่ ทำให้วิญญาณยังคงสามารถเดินวนเวียนอยู่ได้ในโลกมนุษย์ ตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนมากที่สุดคือ แม่นาคพระโขนง ที่ถูกนำไปฝังดินแทนการเผานั่นเอง
ผีตายทั้งกลมกับความเชื่อด้านไสยศาสตร์มนต์ดำ
ผีตายทั้งกลม เป็นผีที่น่าสงสารอย่างมาก เพราะนอกจากต้องตายจากสามี และลูกน้อยไปด้วยความห่วงหาอาลัยแล้ว ยังมักตกเป็นเป้าของเหล่านักเล่นของ พ่อหมอมนต์ดำอย่างมาก เพราะหากรู้ข่าวว่าผีตายทั้งกลมถูกฝังเอาไว้ที่ใด คนเหล่านี้ก็จะรีบไปขุดศพขึ้นมาทำพิธีกรรมลน “น้ำมันเหลือง” ด้วยการใช้ไฟลนที่คางของผีตายทั้งกลมเพื่อนำไปปลุกเสกทำเป็น “น้ำมันพราย” เพราะเชื่อกันว่าหากใครได้ครอบครองน้ำมันพรายของผีตายทั้งกลมแล้วดีดน้ำมันพรายใส่ก็จะทำให้สาวคนนั้นเกิดอาการเคลิบเคลิ้มหลงใหล แต่ในขณะเดียวกันบางตำราก็ว่าการใช้น้ำมันพราย เป็นการเปิดทางให้วิญญาณสามารถเข้าไปทำการสิงสู่ในจิตใจของมนุษย์อย่างง่ายดายมากขึ้น
แม้วันเวลาจะผ่านพ้นไปจนจะก้าวเข้าสู่ปี 2020 แต่ความเชื่อเกี่ยวกับความเฮี้ยนของผีตายทั้งกลมก็ยังคงฝังรากลึกอยู่ในความเชื่อของคนไทย ทำให้ในปัจจุบันหากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับผู้หญิงตั้งครรภ์จนกระทั่งเสียชีวิต ก็ยังคงมีพิธีกรรมการผ่าเอาศพทารกออกมาจากท้องผู้เป็นแม่ ก่อนนำร่างของแม่ไปเผาเพื่อป้องกันไม่ให้ผีตายทั้งกลมเกิดความเฮี้ยน!!! ขึ้นมาจนทำให้ชาวบ้านแถวนั้นต้องขวัญผวา ถึงขนาดนอนไม่หลับกันเลยทีเดียว...