เมืองดัดลีย์ (Dudley Town) ดินแดนแห่งคำสาปมรณะที่ทำให้ผู้คนกลายเป็นบ้า แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา
เมืองดัดลีย์ (Dudley Town) เป็นเมืองร้างที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของคอนเนตทิคัต รัฐคอนเนทิคัต ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามตำนานท้องถิ่นเมืองแห่งนี้ถูกก่อตั้งในช่วงต้นทศวรรษที่ 1740 โดยผู้ที่สืบเชื้อสายมาจาก “เอ็ดมันด์ ดัดลีย์” (Edmund Dudley) ขุนนางชาวอังกฤษที่ถูกตัดศีรษะในข้อหากบฏในสมัยของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 7 นับตั้งแต่นั้นมาก็ดูเหมือนว่าครอบครัวนี้จะตกอยู่ใต้อิทธิพลของคำสาปที่ติดตามพวกเขาข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกมายังสหรัฐอเมริกาด้วย เมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยรายงานเหตุการณ์ลึกลับ เช่น การหายตัวไปอย่างลึกลับ การพบเห็นผีบ่อยครั้ง
ตำนานชวนขนลุกของเมืองดัดลีย์
ครั้งแรกที่คำสาปเริ่มแสดงผลให้เห็นอย่างชัดเจนเกิดขึ้นกับพี่น้องดัดลีย์คนหนึ่งที่ได้กลายมาเป็นบ้า หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์ประหลาดอื่น ๆ ตามมา เช่น มีชายคนหนึ่งเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาที่โรงนา สายฟ้าฟาดใส่ผู้หญิงในเมืองตรงระเบียงจนทำให้เสียชีวิต ชาวเมืองอีกหลายคนกลายเป็นบ้า ผู้หญิงหลายคนแขวนคอในบ้านของตัวเอง บางคนถึงขนาดอ้างว่าตัวเองได้เห็นนิมิตของปีศาจ
หลังช่วงสงครามกลางเมืองของสหรัฐอเมริกา เมืองดัดลีย์ได้ค่อย ๆ กลายมาเป็นเมืองร้าง ชาวเมืองพากันอพยพออกไปเพื่อความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายมากขึ้น ยกเว้น “จอห์น โบรฟี่” (John Brophy) กับครอบครัวที่ตัดสินใจจะยังคงอาศัยอยู่ในเมืองต่อไปถึงแม้ว่าชาวเมืองคนอื่น ๆ จะจากไปแล้วก็ตาม
เพียงไม่กี่เดือนหลังจากนั้น ภรรยาของเขาก็เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน หลังจากนั้นแทบจะเกือบในทันทีหลังงานศพลูกชายสองคนของเขาได้เข้าไปในป่าแล้วหายตัวไป ต่อมาบ้านของเขาก็ถูกเพลิงไหม้อย่างลึกลับ เรื่องราวที่น่าประหลาดนี้จบลงที่ตัวเขาเองก็หายตัวไปอย่างลึกลับ!
หลังจากที่ชาวเมืองคนสุดท้ายได้หายตัว “ดร. คลาร์ก” (Dr. Clarke) ได้ทำการซื้อที่ดินผืนใหญ่ของเมืองและได้กลายมาเป็นเจ้าของเมืองอย่างเป็นทางการ มีข่าวลือว่าเขาได้ทิ้งภรรยาให้อยู่เพียงลำพังในเมือง 2-3 วัน เพื่อไปทำธุระ แต่เมื่อกลับมาปรากฏว่าเธอได้กลายเป็นบ้าและกรีดร้องเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตปริศนาที่อยู่ภายในป่าอย่างบ้าคลั่งก่อนที่เธอจะฆ่าตัวตายในบ้านของพวกเขาในที่สุด
ไม่กี่ปีต่อมาเขาได้ทำการแต่งงานใหม่และสร้างบ้านหลังใหม่ในเมืองสำหรับเป็นเรือนหอ ทั้งคู่ร่วมกับกลุ่มเพื่อนได้ทำการตั้งสมาคมป่าไม้แห่งความมืด (Dark Entry Forest Association) ที่มีวัตถุประสงค์ในการอนุรักษ์ป่าไม้เอาไว้จากการถูกทำลายทำให้ที่ดินของพวกเขาเต็มไปด้วยต้นไม้มากมาย เขากับภรรยาเสียชีวิตในช่วงปี 1940 แต่บรรดาลูกหลานของพวกเขาก็ยังคงอาศัยอยู่ใกล้ ๆ กับเมือง
ในปัจจุบัน สมาคมป่าไม้แห่งความมืดเป็นเจ้าของที่ดินของเมืองและไม่อนุญาตให้มีการเข้าเยี่ยมชมเมืองอีกต่อไป ผู้ที่ไม่เชื่อฟังฝืนจะเข้าไปในเมืองจะถูกจับกุมในข้อหาบุกรุกและปรับค่าจอดรถ แต่ดูเหมือนว่าจะยังมีคนที่ชื่นชอบเรื่องราวอาถรรพ์ยังคงพยายามที่จะหาช่องทางเข้าไปในเมืองแห่งคำสาปนี้อยู่เป็นจำนวนมากเลยทีเดียว...
บราราส (Baras) อมนุษย์ที่คอยมาลักตัวสาวงามยามนอนหลับกลับไปยังถ้ำ ตำนานของประเทศฟิลิปปินส์