จาร์จาชา (Jarjacha) ลามะหน้าคนล่าเลือดเนื้อพี่น้องที่ร่วมประเวณีกันเอง แห่งประเทศเปรู
“จาร์จาชา” (Jarjacha) เป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติประเภทเดียวกับมนุษย์หมาป่า ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มของวิญญาณชั่วร้ายในตำนานพื้นบ้านของประเทศเปรู มันถูกพรรณนาเอาไว้ว่าร่างกายคล้ายกับตัวลามะผสมกับอัลปาก้า แต่มีใบหน้าเป็นมนุษย์ที่บิดเบี้ยว ดวงตาเปล่งประกายในความมืด บางตำนานอธิบายว่าพวกมันยังคงมือและเท้าของมนุษย์ หรือมีกีบเท้าที่อ้วนท้วมจนทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสสำหรับมันยามก้าวเดิน
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ามันจะมีพลังเหนือธรรมชาติในการบงการจิตที่สั่งให้เหยื่อคล้อยตามแล้วรู้สึกอยากที่เสียสละตัวเองให้กลายเป็นอาหารค่ำของพวกมันด้วยความยินดี!?
การปรากฏตัวและพฤติกรรมของจาร์จาชา
เมื่อตกกลางคืนผู้ที่ถูกสาปจะกลายร่างเป็นจาร์จาชาโดยที่ไม่มีทางได้นอนหลับอีก แล้วออกหากินพร้อมกับความหิวกระหายอย่างไม่เคยพอ มันจะส่งเสียงร้องโหยหวนว่า “จา.. จา.. จา!” เมื่อคนในท้องถิ่นได้ยินเสียงร้องดังกล่าวก็จะรีบพากันปิดประตู-หน้าต่างบ้านให้สนิทแล้วทำการล็อกเสีย เพื่อไม่ให้ตัวเองกับครอบครัวต้องตกเป็นเหยื่อของจาร์จาชาที่เชื่อกันว่าพวกมันชื่นชอบในเลือดเนื้อของมนุษย์!
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเป้าหมายหลักของจาร์จาชาคือ เนื้อของคนที่ทำการร่วมประเวณีระหว่างพี่น้อง โดยเลือกกินที่สมองเพราะชาวเปรูในสมัยก่อนเชื่อว่าวิญญาณของมนุษย์สถิตอยู่บริเวณสมองนั่นเอง ดังนั้น เมื่อกินสมองก็จะเป็นการดูดซับพลังของเหยื่อ พลังเหล่านี้เองที่พวกมันเชื่อว่าจะช่วยให้ตัวเองหลุดพ้นจากคำสาปแช่งที่ได้รับมา แต่บางตำนานก็เชื่อว่าหากมันกินสมองเหยื่อก็จะแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งไม่มีใครสามารถฆ่ามันได้!?
ต้นกำเนิดของจาร์จาชา
บางพื้นที่เชื่อกันว่า จาร์จาชาเป็นวิญญาณชั่วร้ายที่ถือกำเนิดขึ้นมาจากผู้ที่ทำบาปด้วยการร่วมประเวณีกันเองระหว่างผีน้อง เมื่อคนเหล่านี้เสียชีวิตลงจึงกลายมาเป็นจาร์จาชาออกล่าผู้ที่ทำบาปแบบเดียวกันไปตลอดกาล บ้างก็ว่ามันยังมีชีวิตอยู่เพียงแต่ถูกสาปแช่งจากสวรรค์ให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดจากบาปมหันต์ที่ได้ก่อขึ้น
การป้องกันตัวเองจากจาร์จาชา
วิธีเดียวที่จะสามารถช่วยปกป้องตัวเองจากจาร์จาชาได้คือ การพก “กระจกเงา” ติดตัวเอาไว้ หากเผชิญหน้ากับจาร์จาชาให้เอากระจกสะท้อนเงาให้มันเห็นตัวเอง การทำเช่นนั้นจะทำให้จาร์จาชาเกิดความรู้สึกรังเกียจรูปร่างหน้าตาของตัวเอง ก่อให้เกิดความละอายใจกับสิ่งที่ทำจนทนไม่ได้ต้องหนีกลับไปในความมืด สร้างโอกาสให้เหยื่อสามารถหนีได้อย่างปลอดภัย
ถ้าหากจาร์จาชาตัวนั้นยังไม่เคยกินวิญญาณของมนุษย์มาก่อนก็จะสามารถถูกสังหารได้ด้วยการใช้อาวุธทั่วไป หรือวัตถุที่เป็นโลหะ
นอกจากนี้ บางคนยังพยายามจับจาร์จาชาเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ส่วนตัว วิธีที่ดีที่สุดคือการใช้กระจกเงาสะท้อนภาพของมันแล้วบีบให้มันหนีเข้าไปในบ้านหรือห้องขนาดเล็กที่สามารถทำการปิดล็อคได้ โดยภายในทุกด้านจะต้องเป็นกระจก เพื่อทำให้มันติดอยู่ตรงกลางไม่สามารถหนีไปไหนได้อีก หากถึงเวลารุ่งเช้ามันก็จะกลับมาเป็นร่างมนุษย์ทำให้ทราบว่าตัวตนที่แท้จริงของผู้ถูกสาปคือใครกันแน่!? และใช้ความลับดังกล่าวให้การต่อรองเพื่อใช้ประโยชน์จากมัน...